Skip to main content

เปิดลายแทง 12 ร้านเนื้อเด็ดทั่วกรุงเทพฯ เอาใจสายเนื้อเป็นพิเศษ

ของแบบนี้ต้องเซฟเก็บไว้แล้ว

เปิดลายแทง 12 ร้านเนื้อเด็ดทั่วกรุงเทพฯ เอาใจสายเนื้อเป็นพิเศษ
October 15, 2019 Bangkok time
ถ้าจะบอกว่ากรุงเทพฯ คือเมืองแห่งเนื้อ (เอ่อ หมายถึงเนื้อจริง ๆ นะ เนื้อวัวน่ะ) ก็น่าจะพูดได้ เพราะตอนนี้เราจะเห็นร้านเนื้อแบบจริงจังเปิดกันในกรุงเทพฯ อยู่เรื่อย ๆ เลย แล้วแต่ละร้านก็เด็ดไม่แพ้ใครกันเลยทีเดียว ไหน ๆ เราเองก็เป็นคอเนื้อเหมือนกัน จึงขอรวบรวมร้านเนื้อเอาไว้ที่นี่ที่เดียวเลย ใครใกล้ร้านไหน ก็ไปจัดกันแบบจุก ๆ ได้เลยจ้า
 

มหาสาร

 
 
คอเนื้อทั้งหลาย ถ้าหากจะพูดถึงเนื้อโลคัลชั้นดีคงไม่มีใครไม่รู้จัก Mahasan Local Meat Burnt & Bowl ร้านเนื้อดีกรีจองยากที่สุดในเมืองไทยในเวลานี้ จึงไม่แปลกที่ทางร้านจะต้องคิดหาทางขยับขยายร้านเพื่อตอบรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และหลังจากที่ Mahasan ปิดร้านไปกว่า 2 เดือนครึ่งเพื่อย้ายพิกัดใหม่จากเจริญกรุง 66 สู่ถนนจันทน์ 23/1 ในตอนนี้ ขอบอกว่าร้านใหม่ใหญ่กว่าเดิมเยอะ พร้อมรองรับลูดค้ากันสบาย ๆ เลยจ้า (แต่จะจองได้หรือเปล่านั้นต้องว่ากันอีกทีนะ)
 
 
จานเด็ดของทางร้านเราขอยกให้ลิ้นวัวย่าง (270 บาท) ต่อมาคงต้องพูดถึงสเต็กหางว่าวหรือ Skirt (320 บาท) เนื้อส่วนติดชายโครงที่ใช้วิธีย่างไฟอ่อน ๆ สไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของทางร้าน มาถึงที่นี่แล้ว ถ้าไม่สั่งพิคาน่า-Picanha (420 บาท) ก็คงจะเรียกว่ายังมาไม่ถึง สำหรับคนที่ชอบเนื้อติดมันเยอะ ๆ ห้ามพลาดเมนูนี้ จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วแล้วแซ่บลงตัวมาก หรือจะลองเนื้อส่วนอื่นที่มีมาให้ลองชิมกันถึง 9-12 ชิ้นส่วนก็ได้นะ
 
Mahasan Local Meat Burnt & Bowl เปิดทุกวัน (ปิดทุกวันจันทร์) เวลาทำการ แบ่งเป็น 2 รอบ 18:30 น. และ 19:30 น. ซ.จันทน์ 23/1 ตรงข้ามไปรษณีย์ยานนาวา ตรวจสอบการจองได้ที่เพจ www.fb.com/mahasanmeatyou

Chunn

 
 
ฉัน - Chunn ร้านเนื้อสายโฮมคุ้กกิ้งบนชั้นสองของบ้านหลังเล็กสุดลึกลับในย่านทองหล่อ-เอกมัย ที่อาจหาร้านยากสักหน่อย เพราะถึงจะไม่ใกล้ไม่ไกลจาก BTS แต่โลเคชั่นที่ซ่อนอยู่ในตรอกแคบ ๆ ซึ่งต้องเดินทะลุมาจากถนนใหญ่ก็เป็นอะไรที่ลึกลับพอสมควร บนพื้นที่ชั้นสองของบ้านไซซ์กะทัดแห่งนี้ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นร้านเนื้อแห่งนี้ เดินขึ้นบันไดมาจะเห็นโต๊ะพูลตัวใหญ่วางต้อนรับอยู่เป็นสิ่งแรก มีระเบียงนอกชานเปิดกว้างให้อากาศถ่ายเท และโซนอินดอร์ติดแอร์ห้องเล็ก ๆ ที่ถ้าใครเป็นลูกค้าร้านนี้ก็สามารถเลือกนั่งในที่ ๆ ชอบได้เลยตามใจ
 
 
มาถึงต้องลองสั่ง CHUNN Beef Rice Bowl (190 บาท) ข้าวด้งหน้าเนื้อที่เหมือนเป็นเมนูแลนด์มาร์กของร้านนี้ มาถึงร้านฉันแล้วไม่สั่งข้าวหน้าเนื้อ ก็เหมือนมาไม่ถึง! ส่วนใครชอบเนื้อที่ติดมันเล็กน้อย ก็ลองสั่งเมนูเซ็ตบาร์บีคิวประเภทเสียบไม้ BBQ M (120 บาท) โดยจะหมักเนื้อด้วยรสชาติไทย ๆ ติดหวานนิดหน่อยคล้าย ๆ หมักหมูปิ้ง (แต่อันนี้เป็นเนื้อ) จากนั้นจึงนำไปย่างบนเตาถ่านหินลาวา ต่อด้วยการเสิร์ฟมาคู่กับน้ำจิ้มปลาร้าบองรสไม่แรง จุด ๆ นี้สั่งข้าวเหนียวมากินคู่กันด้วยจะอิ่มมาก
 
ฉัน - Chunn ซ.สุขุมวิท 61 เวลาทำการ อัลคาร-ศุกร์ 17:00-23:00 น., เสาร์-อาทิตย์ 11:30-14:30 และ 17:00-23:00 น. (หยุดวันจันทร์ /จองล่วงหน้าเท่านั้น) โทร. 084-666-4422 BTS เอกมัย fb.com/chunn.bkk

Feed The Beast

 
 
Feed the Beast เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่มานั่งจับเข่าคุยกันแล้วได้ความว่า อยากเปิดร้านอาหารดี ๆ ในฝั่งธน ฯ สักแห่ง ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นบาร์แอนด์กริลล์ในบรรยากาศง่าย ๆ นั่งสบาย ๆ แบบไม่ต้องมีพิธีรีตอง ซึ่งหัวใจคือเบอร์เกอร์ บาร์บีคิว และคราฟต์เบียร์
 
 
เราได้ลองชิมเนื้อส่วนบริสเก็ต (brisket) รมควัน (380 บาท) เนื้อนุ่มลิ้นเจือกลิ่นหอมของถ่านฟืน เสิร์ฟพร้อมมัสตาร์ดโฮมเมด ซอสบาร์บีคิว ข้าวโพดย่าง และแตงกวาดองเปรี้ยวปากพอดี ๆ ที่อร่อยมาก ซึ่งเทคนิคการรมควันนี้ได้อิทธิพลมาจาก Texas Barbecue ที่เชฟ-หนึ่งในหุ้นส่วน ได้ไปใช้ชีวิตมาอยู่พักหนึ่ง ส่วนสายเบอร์เกอร์ ที่นี่เบอร์เกอร์ของเขาก็ไม่ได้น้อยหน้า จัดมาแน่น ๆ เต็ม ๆ กับเนื้อแองกัส (250 บาท) เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอดและมันบด
 
Feed the Beast 1583 ปากซอยเจริญนคร 45 โทร. 081-301-7711 เวลาทำการ ศุกร์-อาทิตย์ 17:00-00:00 น. (ปิดจันทร์-พฤหัสบดี) BTS กรุงธนบุรี (ต่อแท็กซี่)

Daddy G's Smoke & Brew

 
 
Daddy G's Smoke & Brew กินพื้นที่ชั้นล่างแทบทั้งหมดของโรงแรม Onyx Bangkok ย่านพระรามเก้า 53 แถมยังโดดเด่นตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าร้านด้วยธีมของร้านที่เข้มขรึม ตัดกับตัวโรงแรมที่เป็นหินอ่อน เรียกว่าแยกมู้ดออกจากกันอย่างชัดเจน ร้านถูกตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียลดูดิบและแข็งแรงด้วยการนำไม้ อิฐ และเหล็กมาใช้ร่วมกัน แต่ก็ยังแอบหยอดความคลาสสิกเอาไว้ทั่วร้านด้วยหลอดไฟเอดิสันทรงวินเทจ กับโปสเตอร์อารมณ์ย้อนยุค
 
 
เมนูเด็ดสุดคุ้มต้องยกให้ Big Daddy G's Platter (1,570 บาท) ที่จัดมาเต็มถาดทั้งบริสเก็ตที่รมควันกว่า 15-18 ชั่วโมง, Baby Back Pork Ribs และ Angus Beef Ribs ชิ้นยักษ์ที่รมควันมากกว่า 6 ชั่วโมง, Pulled Pork, และไส้กรอก ที่ทั้งหมดรมควันแบบ Low & Slow ด้วยไม้หลากพันธุ์ สายเนื้อรมควันยังต้องปลื้มปริ่มกับการหยิบเอาเมนูอื่น ๆ มารมควันอย่าง ลิ้นวัวรมควัน (220 บาท) ที่รมควันนานกว่า 4 ชั่วโมง ทำให้ได้กลิ่นหอม แถมลิ้นวัวยังนุ่ม เด้ง ไม่เหนียวเลย กับอีกเมนูคือไส้รมควัน(150 บาท) กินแกล้มกับซาวเคราท์ก็เก๋ไม่หยอกเลยล่ะ
 
Daddy G's Smoke & Brew ชั้น 1 โรงแรม ONYX Hotel Bangkok พระรามเก้า 53 เปิดทุกวัน 11:00-24:00 น. https://www.facebook.com/DaddyGsSmokeAndBrew/

Wagyulism

 
 
ชาวอารีย์น่าจะคุ้นชื่อร้านเนื้ออย่าง Wagyuism ในซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ที่เขาคัดเฉพาะเนื้อวากิวเกรดพรีเมียมระดับ A4, A5 มาปรุงด้วยเทคนิคลับของเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ กันอยู่แล้ว พอเขาขยายสาขามาเอาใจชาวสุขุมวิทกันที่โครงการ Rain Hill ทั้งที เราก็แวะไปมาเหมือนกัน และแน่นอนว่าทางร้านก็ยังขนเอาเนื้อวากิวเกรดดีของทั้งร้านมาเสิร์ฟแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ แน่น ๆ ให้สายชาบูและสายสุกี้ยากี้ได้ลิ้มรสกันแบบฟินนาเล่ไม่มีกั๊ก!
 
 
อย่างรอบนี้ที่เราเลือกมาลองเป็นออสเตรเลียวากิวขนาดชิ้นใหญ่ 200 กรัม ส่วนนอกจากนั้นก็ยังมีวากิวฮอกไกโด USDA Prime และออสเตรเลียวากิวแบบ dry-aged รวมถึงเนื้อวัวออสเตรเลีย grass-fed และ grain fed ให้ได้เลือกกันแบบหนำใจ หรือจะจัดบุฟเฟ่ต์ของที่นี่ตกอยู่ที่หัวละ 899 บาทก็ได้ หันไปเห็นกองทัพเนื้อวากิวที่คัดมาเฉพาะเนื้อเกรด A4 และ A5 จากออสเตรเลียล้วน ๆ ที่เรียงรายมาเต็มโต๊ะ เราก็แทบช็อคกับราคาที่ก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าของร้านอยากได้กำไรจริง ๆ รึเปล่า!!
 
Wagyuism Rain Hill ชั้น 2 ซ.สุขุมวิท 47 เวลาทำการ ทุกวัน 11:00-23:00 น. โทร. 082-232-2323 BTS ทองหล่อ, พร้อมพงษ์ fb.com/wagyuism

วัวทองโภชนา

 
 
วัวทองโภชนา ชื่อร้านที่เหมือนตั้งมาล้อเลียนชื่อภัตตาคารยุคเก่า แค่ฟังก็รู้สึกว่าอินดี้สุด ๆ จนอยากเห็นหน้าคนตั้งชื่อแล้ว ยังไม่รวมโลเคชั่นสุดลึกลับในซอยเจริญกรุง 45 ฝั่งตรงข้ามศูนย์การสร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) แบบแค่เดินข้ามฝั่งมาก็ถึง เป็นโลเคชั่นทำเลทองสำหรับร้านฮิปสเตอร์โลกใหม่ที่แท้ ตัวร้านมาในดีไซน์กึ่งย้อนยุคที่แสนจะเรียบง่าย ใช้โครงสร้างตึกเก่าห้องหัวมุมมารีโนเวทใหม่นิดหน่อยให้ยังมีกลิ่นอายแบบเดิม ๆ ของสถาปัตยกรรมยุค Mid Century แฝงไปด้วยความฮิปสเตอร์ที่ไม่ได้ตั้งใจ
 
 
ที่นี่คัดสรรเนื้อวัวจากฟาร์มโลคัลในไทยที่ร้านนี้เลือกใช้ ทั้งเนื้อสไลด์ใบพายและเนื้อแก้มวัว ถูกนำมาตุ๋นกับเครื่องเทศสไตล์ยาจีนและวัตถุดิบลับอิมพอร์ตจากเมืองชิงเต่านานถึง 9 ชั่วโมง จนได้รสชาติเนื้อตุ๋นแบบ traditional จ๋า ๆ สูตรชิงเต่า และนำออกมาเสิร์ฟเป็นเมนูทีเด็ดต่าง ๆ ของร้านมากมาย อาทิ เกาเหลาเนื้อวัวทองโภชนา (150 บาท) ก๋วยเตี๋ยวแห้งเนื้อวัวทองโภชนา (125 บาท) และข้าวหน้าเนื้อตุ๋นวัวทอง (125 บาท) เป็นต้น
 
วัวทองโภชนา ซ.เจริญกรุง 45 เวลาทำการ ทุกวัน 10:00-21:00 น. โทร. 097-260-5305 BTS สะพานตากสิน (แล้วนั่งพี่วินต่อ, ร้านมีที่จอดรถ) fb.com/wuatongpochana

Yih Sahp Luhk

 
 
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าร้านนี้อ่านว่า ยี่สับหลก นะ และคอก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็น่าจะรู้จักกันดีแหละ ตึกห้างทองเก่าบนถนนเจริญกรุงแห่งนี้เป็นที่ตั้งของตำนานบทใหม่โดยทายาทลำดับที่สองของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อระดับเทพบนถนนพระอาทิตย์อย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ยนั่นเอง และชื่อร้านก็อิงจากเลข 26 ซึ่งเป็นวันเกิดของคุณตี๋-นภัทร เลิศเสาวภาคย์ เจเนอเรชั่นที่ 2 ของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย รวมถึงเป็นเจ้าของร้านอีกคนหนึ่งด้วย
 
 
ความพิเศษเมื่อมาเป็นร้านยี่สับหลก ก็คือการเสิร์ฟเมนูที่ดูอลังการขึ้น อาทิ หม้อไฟเนื้อ (550 บาท) ที่มีทั้งเนื้อสันใน เนื้อกรอบ เนื้อโกเบ ลูกชิ้นและผัก หรืออยากจะสั่งเป็น A la carte จานเด็ดมาเพิ่ม เช่น เนื้อกรอบ (120 บาท) เนื้อโกเบตุ๋น (150 บาท) หรือหมูตุ๋น (100 บาท) ก็ได้เหมือนกัน ส่วนใครที่ชอบกินข้าวอบ ที่นี่ก็มีเหมือนกันนะ เราชอบข้าวอบซี่โครงเนื้อโกเบ (250 บาท) หรือจัดหนักเป้นข้าวอบเนื้อสี่กั๊ก (950 บาท) ที่เสิร์ฟเนื้อ Oyster Blade ไปเลยก็ได้ แพงหน่อย แต่รับรองว่าฟินลืม
 
Yih Sahp Luhk ยี่สับหลก 19/2 ถ.เจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ เวลาทำการ อังคาร-ศุกร์ (ปิดวันจันทร์) 16:00-23:00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11:00-23:00 น. โทร. 062-545-9293 www.fb.com/26braisedbeef

Tora Tora Japanese Kitchen

 
 
สำหรับใครที่บ้านอยู่แถวประดิพัทธ์ น่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์อันเลื่องลือของร้านเนื้อในตำนานอย่าง Tora Tora Japanese Kitchen ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ อย่างซอยประดิพัทธ์ 6 ชื่อร้านว่า Tora (虎) มาจากภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า 'เสือ' ซึ่งแน่นอนว่าเสือเป็นสัตว์กินเนื้อ ! ใครที่รู้ตัวว่าเป็นสายเนื้อที่แท้ทรู เราขอกำชับไว้ตรงนี้เลยว่าควรมาโดน !
 
 
เกริ่นมาขนาดนี้ ถ้ามาถึงแล้วไม่ลองเมนูเนื้อคงโดนประณามไปตลอดชีวิต เราเลยลองสั่งสเต็กด้ง (299 บาท) เนื้อส่วนสันนอก (Striploin) นำไปกริลล์บนกระทะเหล็ก (Cast Iron) แล้วสไลด์มาเป็นชิ้นหนา ๆ โปะบนข้าวพร้อมไข่ออนเซน อีกสองจานที่เราลองแล้วถึงกับร้องโออิชิออกมาดัง ๆ  ได้แก่ ข้าวผัดเนื้อลูกเต๋ากระเทียมกรอบ (299 บาท) เนื้อสันนอกหั่นเต๋า กริลล์แบบสุก-ดิบกำลังดี ด้านล่างรองด้วยข้าวญี่ปุ่นผัดกระเทียมแล้วโรยด้วยกระเทียมทอดกรอบ ๆ และชุดเนื้อสไลด์ผัดกิมจิกระทะร้อน (169 บาท) เมนูกระทะร้อนสูตรญี่ปุ่นที่นำเนื้อสไลด์นุ่ม ๆ ไปผัดกับกิมจิ ก็คือดีงามจริง ๆ จ้า 
 
Tora Tora Japanese Kitchen ซ.ประดิพัทธ์ 6 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 12:00-14:30 น., 17:00-22:00 น. และอาทิตย์ 17:00-22:00 น. (ปิดวันเสาร์) โทร. 064-772-3787 BTS สะพานควาย,อารีย์ www.fb.com/ToratoraJapaneseKitchen

Fat Beef Bangkok

 
 
Fat Beef Bangkok เกิดขึ้นจากความชอบกินเนื้อของคุณโต๋-กสิณพจน์ นักบินสายการบินแห่งชาติที่ต้องหาโอกาสไปลองเนื้อดี ๆ เด็ด ๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพราะเขาเชื่อว่าเนื้อแต่ละประเทศก็มีดีไม่เหมือนกัน คราวนี้เมื่อถึงโอกาสเหมาะเจาะที่รู้สึกแล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรอีกอย่างนอกเหนือจากการเป็นนักบิน passion สายเนื้อของเขาก็คุกรุ่นขึ้นมาแล้วมุ่งมั่นว่า "เราสนใจในเนื้อ งั้นก็เปิดร้านเนื้อเลยแล้วกัน!" คุณโต๋จึงชักชวนแฟนอย่างคุณเบล-เบ็ญญาสาร และเพื่อนอย่างคุณแคน-ทศวรรษ มาร่วมด้วยช่วยกัน ร้าน Fat Beef จึงเกิดขึ้นจริงให้เราได้เปรมเนื้อกันในราคาน่าคบ
 
 
ด้วยชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าเราจะได้เจออะไรกันบ้าง ไล่ไปตั้งแต่ Fat Beef ที่แน่นอนว่าเมนูหลักของทางร้านจะเป็นเนื้อหลากหลายแบบ ทั้งริบอายโกเบวากิวไวน์ (399 บาท) ที่เลี้ยวน้องวัวด้วยกากองุ่นที่ทำมาจากไวน์ ออยสเตอร์เบลดหมักซอสมินท์ (219 บาท) ไปจนถึงคาลบี้วากิวสุรินทร์หมักเบียร์ (399 บาท) หรือจะเป็นส่วนต่าง ๆ ของวัวทั้งแก้มวัวหมักเบียร์ (139 บาท) ร่องซี่โครง (99 บาท) เนื้อสันคอติดมัน (99 บาท) ลิ้นวัวหมักเกลือ (99 บาท) เสือร้องไห้ (89 บาท) หนอกลาย (89 บาท) หรือจัดหนักอย่างโทมาฮอว์กชิ้นโตเข้ามาขาย (1,890 บาท) ที่ชิ้นหนึ่งมีขนาดถึง 800-900 กรัม ! ก็ได้เลย 
 
Fat Beef Bangkok เปิดทุกวัน 17:00-24:00 น. วันอาทิตย์เปิด 16:00-23:00 น.ชั้น 2 โครงการ De Forest นางลิ้นจี่ BTS ช่องนนทรีแล้วต่อ BRT สถานีเทคนิคกรุงเทพ โทร. 0-2117-9187, 084-666-2120082-777-0267facebook.com/FatBeefGrill/

KUH Grill & Bar

 
 
หากมีโอกาสแวะมาย่านอโศก แถวซอยสุขุมวิท 23 (ประสานมิตร) หลายคนคงเห็นว่าข้าง ๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นกลางซอยอย่าง Iwane 1975 นั้นมีร้านเนื้อหน้าใหม่มาตั้งอยู่ข้าง ๆ และถ้าเป็นสายเนื้อก็คงคุ้นเคยกับชื่อของ KUH Grill & Bar แห่งนี้เป็นอย่างดี ร้านที่มีชื่อมาจากภาษาเยอรมันในคำเดียวกันนี้ที่แปลว่าวัวตัวเมีย (เพราะเชื่อว่าเนื้อสเต๊กที่อร่อยต้องมาจากวัวตัวเมีย) นั่นเอง
 
 
เราขอให้ลองสั่ง Red Volcano (เล็ก 220 บาท / ใหญ่ 380 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ตระกูลข้าวหน้าเนื้อของที่นี่ที่เลือกเนื้อส่วน Rump ที่กริลล์มากำลังมีเดียม โปะพูน ๆ พร้อมซอสโยเกิร์ตสูตรพิเศษของทางร้าน นอกจากนี้ยังมี Black Brick (เล็ก 220 บาท / ใหญ่ 380 บาท) ข้าวหน้าเนื้อแบบตัดมันหน่อย ๆ แล่เป็นชิ้นยาวพอดีคำ พร้อมซอสที่รสจัดขึ้น สำหรับคนชอบกินอะไรรสเข้มหน่อย ๆ ส่วนใครไม่ใช่คอเนื้อ ก็มีเมนูอื่นให้ลองอีกเยอะเลยนะ
 
KUH Grill & Bar 14 สุขุมวิท 23 (ข้างร้าน Iwane 1975) เวลาทำการ 15:00 - 22:00 น. ปิดทุกวันจันทร์ โทร. 089-927-2212 BTS อโศก

BADBQ

 
 
ร้านนี้มีทั้งเนื้อวัวและเนื้อแพะ แถมยังมีสูตรเด็ดที่เรียกว่า เหยียนเปี่ยน อีกต่างหาก ซึ่งคือชื่อของเมืองแห่งหนึ่งในประเทศจีน ที่นี่เขามีเครื่องเทศที่เอาไว้กินกับเนื้อแพะ ประกอบไปด้วยสมุนไพรหลักอย่างยี่หร่าเพื่อดับกลิ่นคาวของเนื้อแพะ ความเก๋ของมันคือ นอกจากการใช้หมักเนื้อแพะในขั้นตอนเตรียมเนื้อแล้ว ยังสามารถเอามาโรยขณะปิ้งเพื่อกลิ่นสโม้กกี้นิด ๆ ของเครื่องเทศ และเอาไว้จิ้มตอนสุดท้ายแทนซอส
 
 
ใครที่มาร้านนี้ครั้งแรก เราอยากให้ลองสั่งเซ็ต มิกซ์อะวอร์ด (499 บาท) มาประเดิมได้เลย เพราะเซ็ตนี้จะอัดแน่นด้วยเนื้อสัตว์ 12 ไม้ ที่มีทั้งเนื้อหมูจากฟาร์มโลคัล เนื้อแพะหมักผง Yanbian กุ้ง เนื้อวัวส่วนเนื้อหนอก ร่องซี่โครง และเสือร้องไห้ รวมถึงเนื้อไก่ที่เอามาหมักเป็นสูตรไก่รถไฟฟ้ารสชาติในวัยเยาว์ รวมถึงผักชนิดต่าง ๆ อีก 5 ไม้ ส่วนคอเนื้อที่แท้ทรูก็อย่างลืมสั่ง Bad-B-Cube (350 บาท) ล่ะ เพราะมันคือเนื้อหมูและเนื้อวัวที่วางซ้อนกัน 9 ไม้จนกลายเป็นเจ้าก้อนเนื้อทรงลูกเต๋าขนาดใหญ่ให้ปิ้งกันเพลิน ๆ ยันดึกกันไปเล้ยยย
 
BADBQ ซ.สยามสแควร์ 9 เวลาทำการ ทุกวัน 15:00-21:00 น. โทร. 098-405-7577 BTS สยาม fb.com/badbqsiam

Hanji

 
 
Hanji เป็นภาษาจีนไต้หวันที่แปลว่า 'มันหวาน' สาเหตุที่เลือกชื่อนี้เพราะ คุณโอ๊ต-อิทธินันท์ ไตรรัตโนภาส หนึ่งในเจ้าของร้านได้บอกกับเราว่า "คนไต้หวันเขาชอบเปรียบเทียบตัวเองเป็นเหมือนมันหวาน เพราะมันหวานมันปลูกง่าย โตง่าย แถมมีความคงทน และยังเป็นชื่อออกเสียงได้ง่ายสำหรับคนไทยด้วย" บรรยากาศของทางร้านได้จำลองมาจากหมู่บ้านที่ไต้หวันจริง ๆ คือ Erkan Historical Village โดยสถาปนิกของทางร้านได้จำลองมาจากสถานที่จริง
 
 
เราลองสั่งเซ็ตเมนูแนะนำของทางร้านมาลองก่อนเป็นอย่างแรก เริ่มด้วย Shimabara F1 Wagyu Striploin (940บาท) เป็นเนื้อวากิวส่วนสันนอกไฮบริด จากเมืองชิมาบาระของประเทศญี่ปุ่น มีความสวยของมัน และความมันกำลังพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป สัมผัสได้ถึงรสชาติเนื้ออย่างเต็มที่ (สายเนื้อห้ามพลาดเมนูนี้นะ) ต่อด้วย AUS Wagyu Outside Flat (550บาท) ที่รสชาติดีเช่นเดียวกัน และสำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อ ทางร้านก็มีเมนูหมูแนะนำอย่าง Tontoro Pork Neck (440บาท) เนื้อหมูทงโทโร่ เป็นเนื้อหมูส่วนคอที่ได้จากฟาร์มเชียงใหม่นะ
 
Hanji 38 ซ.พร้อมพรรค เวลาทำการ ทุกวัน 11:00-22:00 น. โทร 02-120-6673 BTS ทองหล่อ แล้วต่อพี่วิน fb.com/hanjibkk