เที่ยวพัทยารับซัมเมอร์กับ 11 ร้านใหม่ที่ต้องรีบไปโดน!

 

ร้านอาหารเช้าแห่งนี้ได้เปิดให้บริการมากว่าสี่ปีแล้ว ส่วนสาขาใหม่ตั้งอยู่ที่ welcome town คอมมิวนิตี้มอลล์แห่งใหม่ของเมืองพัทยา มีทั้งอาหารตะวันออกและตะวันตก แนะนำให้ลองเห็ดดอยแม่สลองผัดสไตล์ยุนนาน (155  บาท) ขนมปัง ciabatta หน้ามาสคาโพเน่ชีส แซลม่อนรมควันและเครื่องเทศ (185 บาท) เฟรนช์โทสต์ (เริ่มต้นที่ 225 บาท) และชุด english breakfast (275 บาท) บรรยากาศด้านในเป็นสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ และมีมุมเล็กๆ สำหรับขายชุดว่ายน้ำด้วยนะ เผื่ออยากไปว่ายน้ำเผาผลาญแคลหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว

 

 

 

 

จากนาเกลือสู่ถนนพระตำหนัก ในที่สุดคาเฟ่เพื่อสุขภาพ tree tales ก็เปิดสาขาที่ 2 แล้ว แม้ว่าเมนูอาหารจะน้อยกว่าเดิม แต่ยังสั่งน้ำผลไม้สกัดเย็นได้ครบทุกสูตร รวมทั้งสูตรโปรดของเราอย่าง green potion ซึ่งผสมผักโขม แอปเปิ้ลเขียว ผักชีล้อม และส้มแมนดารินเข้าด้วยกันได้อร่อยมาก

 

 

 

ที่ร้านเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าตลอดวัน จานเด็ดที่ต้องลองคือ eggs benny ไข่ลวกในน้ำวนราดซอสฮอลลองเดสกับเบคอนวางบนขนมปังปิ้ง ทานคู่กับผักร็อกเก็ตและหัวแรดิชฝาน หรือไม่ก็ green burger ขนมปังสีเขียวจากใบโหระพาโรสแมรี และผักโขม สอดไส้หมูตุ๋นฉีกเส้น อย่าลืมตบท้ายด้วยของหวานสไตล์ออสเตรเลียอย่าง lamington สปันจ์เค้กทรงเหลี่ยมเคลือบช็อกโกแลตและผงมะพร้าว

 

 

 

 

ร้านกึ่งบาร์กึ่งคาเฟ่เล็กๆ แห่งนี้มีเจ้าของเดียวกับ betta x beach cafe คาเฟ่ฮิปๆ บนหาดบางแสนนั่นเอง ในเมนูมีรายการอาหารและของหวานเกือบร้อยอย่าง ทั้งอาหารไทยดั้งเดิมและเมนูฟิวชั่น

 

 

 

เราอยากแนะนำให้ลอง น้ำพริกลงเรือปลาทูน่าฟู (240 บาท) และแกงเผ็ดเป็ดย่าง (120 บาท) สำหรับของหวานก็มีโทสต์หลายท็อปปิ้ง (เริ่มต้นที่ 170 บาท) ช็อกโกแลตฟองดู (120 บาท) แต่ไฮไลท์คงต้องยกให้เมอร์แรงมะม่วง (120บาท) พอพลบค่ำแล้วคาเฟ่ไม้สไตล์โรงนาน่ารักๆ แห่งนี้ก็จะกลายเป็นบาร์ดนตรีโฟล์ค มีการแสดงสดทุกวันธรรมดาระหว่าง 21:00-23:00น.  

 

 

 

ตั้งอยู่ติดกับโรงแรมดีไซน์สุดชิคอย่าง Veranda คือ คาเฟ่สุดชิวแห่งนี้ มีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และบีนแบ็กลายทางให้ความรู้สึกทะเล๊ทะเล เมนูเน้นหนักไปทางขนมหวานที่เราคุ้นเคย เช่น วาฟเฟิล บราวนี่

 

 

 

แต่เมนูที่เราชอบที่สุดคือแซนด์วิชไอศครีมทำจากคุ้กกี้และข้าวพอง เราแนะนำให้ลองคุ้กกี้ดาร์กช็อกโกแลตชิพสอดไส้ไอศครีมรสดาร์กมอคค่า หรือไม่ก็ fruit loops สอดไส้ไอศครีมวานิลลาซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน

 

สำหรับใครที่อยากกินของคาว เราขอชี้เป้าให้ว่า burgler burger ฟู้ดทรักซึ่งจริงๆ ถือกำเนิดจากกรุงเทพฯ นั้นจอดอยู่ใกล้ๆ ร้าน skoop beach cafe เลย เมนูเด็ดคือ nuclear burger ชีส 3 อย่างโปะบนเนื้อออสเตรเลีย อเมริกา และวากิวชิ้นโตหนักถึง 180 กรัม!

 

 

 

อะไรจะเหมาะสำหรับหน้าร้อนไปมากกว่าขนมหวานเย็นๆ ถ้าจะไปพัทยาเราแนะนำให้แวะชิมไอศครีมซอฟต์เสิร์ฟจากร้าน mini mellow รสชาติที่ห้ามพลาดคือ milky vanilla และ belgian chocolate หรือจะกินตามเทรนด์ด้วยเมนูน้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่นหลากหลายรสชาติ มาพร้อมกับหลากหลายท็อปปิ้งให้เราเลือกจับคู่เองได้ เราแนะนำให้ลองน้ำแข็งรสนมถั่วเหลืองโปะด้วยกล้วยคาราเมล หวานหอมและเย็นชื่นใจสุดๆ

 

 

 

อะลาคอมปาณย์ คือร้านอาหารซึ่งจำลองเอาหมู่บ้านในชนบทแถบยุโรปมาไว้ใจกลางพัทยา แต่เมนูอาหารที่นี่ไม่ได้จำกัดเฉพาะอาหารฝรั่ง เพราะมีทั้งเมนูอาหารไทยและเอเชียด้วย โดยแยกอาคารตามประเภทอาหาร เช่น somtam villa และ tea factory & more นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและแกลเลอรี รวมทั้งอาคารสำหรับจัดกิจกรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ เช่น โยคะ และเวิร์กช็อปต่างๆ นอกจากนี้ยังมีตลาดนัด farmers’ market ทุกเสาร์-อาทิตย์อีกด้วย

 

 

 

 

ร้านอาหารของรีสอร์ทริมทะเลแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเขาพระตำหนัก เป็นจุดที่เหมาะสำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มสบายๆ ระหว่างนั่งชมพระอาทิตย์ตกม๊ากมาก บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ ทางร้านมีบริการ signature ม็อกเทลกว่า 10 อย่าง รวมทั้งน้ำผลไม้สดๆ และอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดง่ายๆ เช่น แซนวิช สปาเก็ตตี้ และซี่โครงหมูย่าง

 

 

 

 

โรงงานช็อกโกแลตริมทะเลแห่งนี้ขยับขยายมาจากสาขาแรกที่เขาใหญ่ นอกจากช็อกโกแลตแล้ว ทางร้านยังเสิร์ฟเพสทรีฝรั่งเศสรสเลิศโดยฝีมือ eric perez เชฟขนมชื่อดังที่มีโรงเรียนสอนทำมาการองเป็นของตัวเองที่กรุงเทพฯ ถ้าจะให้ดีต้องไปตอนแดดร่มลมตก นอกจากจะได้ดูวิวสวยๆ แล้ว ยังจะได้สั่งอาหารจากเมนูมื้อค่ำที่มีจานพระเอกอย่าง grilled australian lamb rack with rosemary sauce เป็นตัวชูโรง แต่ถ้าอยากกินรสจัดต้องสั่งแซลมอนแช่น้ำปลาซึ่งแซ่บถึงใจมากๆ นอกจากนี้ถ้าไปในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีเวิร์กช็อปทำช็อกโกแลตด้วยนะ

 

 

 

ถ้าพูดถึงร้านอาหารที่เป็นที่นิยมในเมืองพัทยาที่คนรู้จักกัน หลายๆ คนก็คงจะนึกถึง the glass house ร้านอาหารเรือนกระจกริมทะเลที่แจ้งเกิดไปในปี 2011 ซึ่งตอนนี้เจ้าของร้านก็ได้หันมาเปิดห้องอาหารใหม่บนหาดวงอมาตย์ เน้นเมนูอาหารญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน ห้องอาหารด้านในมีการตกแต่งแบบอาร์ตเดโค

 

 

อาหารของที่นี่ได้เชฟหนุ่ม ธนินทร จากรายการเชฟกระทะเหล็กมาดูแล มีทั้งเมนูดั้งเดิมและฟิวชั่น เช่น ชุดซาชิมิ ประกอบไปด้วยปลาฮามาจิ ทูน่า และแซลม่อน (1,700 บาท), robusta Kagoshima wagyu (1,850 บาท) และ chilled angel hair pasta with salmon tartar (250 บาท) ส่วนด้านเครื่องดื่มนั้นก็ได้มิกโซโลจิสท์อย่างคุณกานต์ เลียงศรีสุขจาก escapade burgers & shakes มาออกแบบเมนูค็อกเทล ส่วนตัวเราแนะนำสาเกแตงโม (320 บาท) และ little blood ซึ่งเป็นการดัดแปลง bloody mary โดยนำเบค่อนกรอบมาใช้ (320 บาท) ทางร้านยังมีการแสดงดนตรีแจ๊สและโซลทุกวันอังคาร-อาทิตย์อีกด้วยนะ! เราแนะนำให้โทรไปจองล่วงหน้าถ้าอยากนั่งโต๊ะริมหาดด้านนอก

 

 

 

 

รีสอร์ทหรูประจำพัทยาอย่าง cape dara เพิ่งเปิดตัวบาร์น้องใหม่บนชั้นล็อบบี้ แต่ถึงจะอยู่ชั้นล่างสุด การตกแต่งภายในบาร์แห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดวงดาว แถมรายการเครื่องดื่มก็เป็นธีมอวกาศ เช่น interstellar และ berry comet

 

 

 

ร้านอาหารและบาร์น้องใหม่ในพัทยาใต้แห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหน้า mind resort pattaya ทางร้านจะเน้นเมนูที่ทำจากอาหารทะเล เราแนะนำให้สั่งเซ็ตอาหารทะเลมานั่งปิ้งชิวๆ อย่าลืมสั่งเบียร์เย็นๆ มาจิบแกล้ม นี่แหละวันหยุดริมทะเลอย่างแท้จริง! เริ่มเปิดบริการวันที่ 10 เมษายนนี้ ทันต้อนรับวันสงกรานต์พอดีเลยด้วย!