หลังจากที่เราเพิ่งแนะนำ Pijiu Bar (ผี้จิ่วบาร์) บาร์คราฟต์เบียร์สไตล์จีนในซอยนานา แหล่งแฮงก์เอาท์ที่กำลังคึกคักในย่านเมืองเก่าบนถนนเจริญกรุง วันนี้เราก็มีอีกบาร์สไตล์จีนมาแนะนำอีกแห่งนั่นคือ Ba Hao ที่รับรองว่าเต็มไปด้วยฟีเจอร์เด็ดที่เราไม่ควรพลาด
จุดเริ่มต้นของ Ba Hao (อ่านว่า ปา เฮ่า หมายถึงหมายเลข 8) เริ่มต้นจากการที่กลุ่มเพื่อน 6 คนที่ต่างใช้ความสามารถในแบบต่างๆ ของตัวเองมาปรับปรุงตึกเก่าในหัวมุมถนนนานาตัดกับซอยพันธ์จิตต์ และถนนไมตรีจิตต์ ให้กลายเป็นที่ๆ เราอยากไปทิ้งตัวทั้งวัน เพราะที่นี่เป็นทั้งบาร์เสิร์ฟค็อกเทล และคราฟต์เบียร์ พร้อมอาหารจีนสไตล์ comfort food และชั้นบนยังเป็นที่พัก Airbnb ที่สวยบาดใจไปในตัวด้วย
เริ่มกันตั้งแต่คอนเซปต์เลข 8 นั้นนำมาจากเลขที่บ้าน ซึ่งเป็นของคุณภูมิ สมบูรณ์กุลวุฒิ ที่มีความคิดอยากเปลี่ยนบ้านให้เป็นบาร์ในย่านที่กำลังเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์มาแรง แถมเลข 8 เองก็ยังเป็นเลขมงคลของชาวจีนด้วย เลยนำมาตั้งเป็นชื่อบาร์แบบไม่ต้องคิดมาก
แก้วโปรดจากโลกตะวันออก
คุณบัว-กานต์ชนิต เจริญยศ หนึ่งในหุ้นส่วนเผยกับเราว่า ด้วยความที่ต้องการชูคาแรคเตอร์ของความเป็นวัฒนธรรมตะวันออกของทั้งตัวย่านที่เป็นย่านไชนาทาวน์ แถมยังได้มิกโซโลจิสต์มือดีมาจาก The Never Ending Summer และ Junker and Bar ด้วย คอนเซ็ปต์บาร์เลยออกมาเป็นแนวจีนที่เสิร์ฟค็อกเทลตัวเด็ดๆ อย่าง Five Rivers หรือแม่น้ำทั้ง 5 ที่รวมสมุนไพรพะโล้ 5 อย่างกับรัมออกมาเป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์
หรือจะเป็นค็อกเทล Opium ที่ใช้เนโกรนีมาผสมกับโสมและเหล้าสมุนไพร ส่วนค็อกเทล Forbidden Gold ก็นำบ๊วยบดมาผสมกับเหล้าท้อ มะนาว และเบียร์ซิงเตา ทั้งหมดยังขายในราคาเดียวคือ 288 บาท ให้เข้ากับคนเซปต์เลข 8 ของร้านด้วย ที่ถูกใจเราอีกอย่างคือการเลือกคราฟต์เบียร์ของ Ba Hao คือเน้นเบียร์จากโลกตะวันออก เช่นเบียร์ Tsingtao ของจีน Moonzen Monkey King คราฟต์เบียร์จากฮ่องกง (258 บาท) Lion คราฟต์เบียร์ stout จากศรีลังกา (188 บาท) ZEFFER’S เบียร์ไซเดอร์บ่มด้วยใบชาจากนิวซีแลนด์ (268 บาท)
นอกจากนี้ยังมีเบียร์สดสัญชาติเวียดนามอย่าง Pasteur Street Brewing ที่มีความเป็นตะวันออกสูง โดยเฉพาะตัวหลักอย่าง Jastmin IPA ที่ให้กลิ่นมะลิหอมอย่างที่เราคุ้นเคย ถ้าหากโชคดี เราอาจจะได้ลองคราฟต์ตัวเด็ดๆ อย่างส้มโอ หรือเสาวรส ในอนาคตด้วยนะ
สตรีทฟู้ดหลากที่มา
ถึงแม้ Ba Hao จะตั้งต้นเป็นบาร์ แต่อาหารของที่นี่เราบอกเลยว่าไม่อยากให้พลาด เพราะเป็นหนึ่งในงานคราฟต์ของเชฟเก๋-ฑิฆัมพร ชื่นกิตติวรวัฒน์ หนึ่งในหุ้นส่วนที่นำเอาประสบการณ์ที่เคยทำงานอยู่ที่ China House ของโรงแรม Mandarin Oriental Bangkok มาออกแบบเมนูที่แม้จะมีน้อย แต่มากด้วยรูปแบบ เพราะจะเป็นอาหารแนว street comfort food สไตล์จีนที่ปรับอาหารถูกปากตามท้องถนนของจีนและไต้หวันมาเพิ่มลูกเล่น
เต้าหู้เย็นและเคาหยก
เริ่มตั้งแต่เมนู starter อย่างเต้าหู้เย็นราดซอสและไข่เยี่ยวม้า (158 บาท) ที่ราดด้วยซอสเปรี้ยวใส่ขิงและเครื่องเทศจีน กระเทียม หรือจะเป็น Xiao Patongko (158 บาท) ที่เอาปาท่องโก๋ตัวเล็กกรอบมาคั่วกับพริกแห้งและเกลือพร้อมใส่เครื่องพะโล้ลงไป
ส่วนเมนูหลักก็มีให้เลือก 3 จาน ตั้งแต่เกี๊ยวเป็ด (218 บาท) ที่เนื้อเป็ดปรุงเพิ่มรสด้วยน้ำมันงา ขิงสับ และหอมสับให้ความสดชื่น อีกจานเป็น Jian Bing (248 บาท) ที่ดัดแปลงจากอาหารเช้าของคนไต้หวัน ซึ่งเป็นเครปไส้ฟองเต้าหู้ราดซอสพริกเสฉวน จานสุดท้ายเป็น เคาหยก (248 บาท) ที่นำหมูตุ๋นมาเสิร์ฟพร้อมไข่ดาวบน scallion pancake หรือโรตีต้นหอมของจีนให้ทานแบบ wrap เหมือนทาโก หรือเคซาดียา
Jian Bing
Ba Hao's Pudding
เราขอให้เผื่อท้องไว้สำหรับขนมหวานอีก 3 ตัว ได้แก่ Ba Hao’s Pudding (148 บาท) พุดดิ้งใส่แยมทำจาก Goji Berry หรือว่าเก๋ากี้ เม็ดแดงๆ ที่เรามักจะเจอในจานตุ๋น ที่เชฟเก๋นำไปเชื่อมกับน้ำตาลก่อนจะเอามาโรยบนพุดดิ้ง อีกจานเป็นบัวลอยน้ำขิง (158 บาท) ที่ตัวบัวลอยจะเสิร์ฟแห้งโดยนำมาคลุกกับงาตัด งาขาว และผงถั่ว เคียงด้วยน้ำขิงที่เสิร์ฟในถ้วยชา จานสุดท้ายคือ Coriander Ice Cream (158 บาท) หรือไอศกรีมผักชีที่นำผักชีไปผสมกับไอศกรีมกะทิ วางบนแป้งปอเปี๊ยะสดโรยหน้าด้วยถั่วตัดและผักชี
บัวลอยน้ำขิง
Airbnb เก๋ในเมืองเก่า
ด้วยความที่เป็นตึกเก่านับร้อยปี การจะรีโนเวทที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ทางกลุ่มเพื่อนเลยมอบหมายให้คุณทอพ-ธนพลพจน์ โรจน์ณัฐกุล อีกหนึ่งหุ้นส่วนและผู้ก่อตั้ง If Integrated Field บริษัทออกแบบมารับหน้าที่ปรับปรุงที่นี่ หลังจากที่เคยฝากฝีมือกับการออกแบบฟาร์มเกษตรสุดฮิปอย่าง Corofield ที่สวนผึ้งมาแล้ว และผลลัพธ์ก็ออกมาสวยเสียจนเราอยากจะ staycation ในเมืองซะให้รู้แล้วรู้รอด
ที่สำคัญคือมีแค่ 2 ห้องเท่านั้น!
ห้องสันติภาพ
คุณบัวเผยว่า ตึกก่อนปรับปรุงค่อนข้างจะโทรมมากแต่ก็มีรายละเอียดของตึกที่สวยมากเช่นกัน เลยอยากจะเก็บรายละเอียดต่างๆ ของตึกไว้โดยใช้วิธีการเหมือนการทำฝังเข็มคือใช้การปรับปรุงเป็นส่วนๆ รักษาเป็นจุดๆ ไปเพื่อทำให้ระบบของตึก flow ขึ้น เปรียบกับร่างกายคนก็เหมือนกับทำให้ให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นนั่นเอง
ห้องนั่งเล่น
หากเดินขึ้นมาตามบันไดแคบๆ จนถึงชั้น 2 ก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นเพดานสูงที่เป็นแชร์สเปซที่ได้รับการตกแต่งเหมือนบ้านจริงๆ เพราะมีทั้งทีวีและโซฟาหนังพร้อมเก้าอี้ พร้อมมินิบาร์ที่มีทั้งเครื่องปิ้งขนปัง และอาหารเช้าแบบง่ายๆ ติดกันเป็นตู้เย็นสไตล์วินเทจ ข้างโต๊ะเขียนหนังสือที่มองออกไปเป็นถนนในซอยนานา
ห้องไมตรีจิตต์
เดินขึ้นบันไดไม้ไปชั้น 3 และชั้น 4 ก็จะเจอกับห้องพักที่ทำออกมาให้เหมือนบ้านแต่เก๋มากกว่าบ้าน เช่นห้อง Maitri Chit (ไมตรีจิตต์ คืนละ 2,900 บาท) ก็จะมีห้องน้ำแบบนู้ดที่กั้นมีเพียงกระจกบางๆ กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ อีกด้านก็เจาะผนังออกไปทั้งแผงแล้วใส่หน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดานให้เราได้นั่งชมวิวซอยนานาจากห้องได้อย่างเต็มตา
ห้องไมตรีจิตต์
ส่วนห้อง Santiphap (สันติภาพ คืนละ 3,900 บาท) ก็จะเก๋ขึ้นไปอีกเลเวล เพราะเป็นห้องกว้างที่เพดานตีด้วยระแนงไม้เข้ากับกำแพงเปลือยอิฐและพื้นสีเขียวเย็นตาพร้อมฟูกยาวไว้ให้นอนเหยียดขาได้เต็มที่ ส่วนที่ดีงามที่สุดเห็นจะเป็นหัวเตียงที่เจาะช่องเป็นสีเหลี่ยมมองออกไปเห็นวิวยอดสีทองของวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เหมือนภาพวาดมีชีวิตที่เปลี่ยนสีไปตามช่วงเวลาทั้งวัน
ห้องสันติภาพ
ลิสต์อาหารเช้าที่นี่ก็ดีงาม เพราะจะมีให้เลือกเมนูจากร้านเจ้าอร่อยในละแวกใกล้เคียงซอยนานาในเยาวราช ซึ่งก็มีตั้งแต่โจ๊กเจ้าอร่อย ต้มเลือดหมู โกยซีหมี่ บะหมี่หมูแดงที่คนท้องถิ่นอย่าง Ba Hao คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง สำคัญคือต้องแจ้งให้ทราบในคืนก่อนหน้า จะได้จัดให้ตามที่บอก
ว่าแล้วใครอยากไปนอนหรือไปจิบดริงก์โปรดก็จองไว้แต่เนิ่นๆ เลยนะ
ที่อยู่ 8 ซอยนานา ถ.ไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบ เบอร์โทร. 081-454-4959 เปิด 18:00 น.-เที่ยงคืน www.ba-hao.com
