Skip to main content

คุยกับ โบ ณวัชรี ปิยะมงคล ถึงการทำงานกับศิลปินหนุ่มสุดฮอต Keshi และเบื้องหลังการทำงานในสารคดี Gabriel

เอเชียนพาวเวอร์นี่ทรงพลังจริง ๆ

คุยกับ โบ ณวัชรี ปิยะมงคล ถึงการทำงานกับศิลปินหนุ่มสุดฮอต Keshi และเบื้องหลังการทำงานในสารคดี Gabriel
July 27, 2022 Bangkok time
กลั้นใจรออีกแป๊บเดียว คออินดี้และแฟน ๆ ของหนึ่งในศิลปินสายอินดี้ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้อย่าง Keshi ก็จะได้ไปพบกับเขาแบบตัวเป็น ๆ บนเวทีคอนเสิร์ตในประเทศไทย ที่เจ้าตัวจะบินลัดฟ้ามาเป็นเฮดไลเนอร์สุดปังของเทศกาลดนตรี Very Festival ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งเราก็ต้องขอแสดงความยินดีกับแฟนคลับของศิลปินหนุ่มชาวเวียดนาม-อเมริกันคนนี้ด้วยจริง ๆ เพราะหลังจากที่ตั้งตารอและกุมพระกันมานานมาก ในที่สุดก็สมหวังและจะได้ไปฟังเสียงทรงเสน่ห์ของเจ้าตัวผ่านหูจริง ๆ กันแล้ว
 
 
ก่อนที่จะบินลัดฟ้ามาตกแฟน ๆ ด้วยมนตร์เสน่ห์ความเย้ายวนในเพลงดังอย่าง like i need you, 2 soon หรือ beside you เจ้าตัวก็ได้ทำการอุ่นเครื่องแฟน ๆ ด้วยการปล่อยสารคดีเบื้องหลังการทำงานในอัลบัมล่าสุดอย่าง Gabriel ออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกัน ซึ่งแฟน ๆ ที่ดูจบก็น่าจะรู้สึกเหมือนกับเราว่า การชมสารคดีตัวนี้ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดและได้เข้าใจความคิดของศิลปินที่เราตกหลุมรักคนนี้มากขึ้น 
 
และหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้ชมอย่างเรารู้สึกเหมือนได้เข้าไปสำรวจตัวตนของ Keshi แบบเป็นส่วนตัวมาก ๆ ในสารคดีนี้ก็คือเรื่องของงานภาพที่เผยมุมความเป็นส่วนตัวของเขาออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเมื่อเราได้รู้ว่าเบื้องหลังงานภาพและการตัดต่อในสารคดีชิ้นนี้ รวมไปถึงภาพนิ่งแทบทั้งหมดในโปรเจกต์อัลบัม Gabriel เป็นฝีมือของศิลปินสาวชาวไทยอย่าง โบ ณวัชรี ปิยะมงคล ศิลปินภาพถ่ายและคนทำหนังที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศด้วยสไตล์การถ่ายภาพและการเล่าเรื่องที่สำรวจแง่มุมความเป็นส่วนตัวของซับเจกต์ เราจึงรีบต่อสายตรงคุยกับเธอ เพื่อนำประสบการณ์เบื้องหลังการทำงานร่วมกับ Keshi มาแบ่งปันให้ชาวซอยมิลค์และแฟน ๆ ของเจ้าตัวได้กรี๊ดไปด้วยกัน!
 
 
ในฐานะมือตัดต่อและคนทำ Post-production ช่วยเล่าโจทย์ในการทำงานในสารคดี Gabriel ให้เราฟังหน่อย
 
โบ: หลังจากที่เรานั่งดูฟุตเทจที่ถ่ายมาทั้งหมด เราก็มีชอยส์ในใจว่า เราสามารถเล่าเรื่องได้ 3 แบบ คือ การเล่าตามเพลงในอัลบัม เรียงลำดับจากคำถาม หรือจะเล่าตาม ลำดับเหตุการณ์ (Chronological Order) ไปเลย เพื่อให้เป็นธรรมชาติและทำให้คนดูมีอารมณ์และประสบการณ์ร่วมได้มากที่สุด ซึ่งส่วนตัวเราชอบแบบหลังที่สุด เลยลองตัดแบบนั้น พอเราเริ่มทำงาน เราก็รู้สึกว่าเราอยากให้ภาพทั้งหมดมีสีแบบนี้ ๆ เลยติดต่อน้องที่เป็น Colorist ที่เคยร่วมงานด้วยให้มาทำงานด้วยกัน ซึ่งทาง Keshi เขาก็โอเคหมดเลย
 
งานของคุณโบที่ผ่านมามักนำเสนอ 'อารมณ์' เป็นหัวใจหลัก ในการทำงานครั้งนี้ก็เป็นเช่นนั้นรึเปล่า?
 
โบ: เราคิดว่าเราใส่สิ่งนี้ลงไปในวิธีการเล่าเรื่อง เราไม่อยากให้ตัวสารคดีออกมาโดยเน้นอัดข้อมูลอย่างเดียว เราอยากเน้น Journey ของเขามากกว่า เราอยากพาคนดูไปสำรวจว่าแต่ละ Journey หรือแต่ละเพลงของเขามันออกมาได้อย่างไร? เขาใส่ความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัวลงไปในเพลงของเขาอย่างไร? เราเลยเน้นเก็บโมเมนต์น่ารัก ๆ ของเขา หรือโมเมนต์ที่นำเสนออารมณ์ของเขามาก ๆ 
 
เราอยากให้คนดูเห็นว่า เขาให้ความสำคัญต่อเพลงหนึ่งเพลง  หรือคำหนึ่งคำมากแค่ไหน เราอยากมั่นใจว่าในสารคดีนี้ คนดูจะได้เห็นว่าเขาใส่ความเป็นตัวเองลงไปขนาดไหนให้ได้มากที่สุด ซึ่ง Keshi เองเขาก็อยากให้อารมณ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะได้เห็นในสารคดีตัวนี้
 
 
ประทับใจอะไรในผลงานของ Keshi?
 
โบ:  เราชอบเพลงเขามาก ๆ ตั้งแต่เพลงแรก ๆ เลย รู้สึกว่าเนื้อเพลงของเขามันทำให้เราปล่อยใจ และพูดถึงสิ่งที่เราก็เข้าถึงหรือมีประสบการณ์ร่วม ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เขาสับสน เสียใจ หรือเวลาที่เขาแฮปปี้ ทุกอย่างมันค่อนข้างจับต้องได้ แล้วเราเป็นคนทำหนังแบบนั้นอยู่แล้ว เราชอบนำสิ่งที่ใกล้ตัวมาก ๆ และเป็นส่วนตัวมาก ๆ มาทำหนัง เราชอบที่เขาค่อย ๆ เปลี่ยนแล้วค่อย ๆ ทดลองความเป็นตัวเองไปเรื่อย ๆ ซึ่งพอได้มาเจอตัวจริง เราก็พบว่าเขาเป็นมนุษย์ที่น่ารักมาก ๆ คนหนึ่ง เป็นคนที่ทั้งฉลาดและตลกในเวลาเดียวกัน
 
 
ชอบอะไรในอัลบัมล่าสุดอย่าง Gabriel?
 
โบ: เราชอบที่เขานำเสนอมู้ดของฝั่งเวสต์ไซด์ของอเมริกา ซึ่งเราก็อยู่ฝั่งนั้นเหมือนกัน เราชอบที่เขาถ่ายทอดประสบการณ์ของการใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ เพลงที่เล่าถึงการบินมาแอลเอเพื่อมาทำเพลง แล้วเมื่อไหร่เขาจะได้ย้ายออกไป? เขาสับสนว่าเขาจะอยู่ที่นี่ไปเพื่ออะไร? เขากำลังรออะไรอยู่? รอว่าเมื่อไหร่จะเป็นเวลาที่ใช่ของเขา? เราเองเราก็เป็นคนที่ทำงานด้วยการบินไปมาระหว่างไทยกับแอลเอ เราเองก็มีคำถามเดียวกับเขา เมื่อไหร่เราจะลงหลักปักฐานได้? เมื่อไหร่เวลาของเราจะมาถึง? มันเป็นคำถามที่เราถามตัวเองอยู่ตลอดเวลา มันมีท่อนหนึ่งในเพลงที่ถามว่า มันพอมั้ย? เขาทำเงิน ทำชื่อเสียง ทำงานที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่มัน 'พอ' มั้ย... ที่จะทำให้เขากับคู่ชีวิตของเขาอยู่กันไปได้ เพลงของเขาพูดถึงการติดอยู่ในอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบมาก ๆ
 
เห็นว่าได้ถ่ายภาพเบื้องหลังการทำงานของ Keshi ด้วย เล่าให้เราฟังหน่อยว่าการทำงานใกล้ชิดกับเขาเป็นอย่างไร?
 
โบ: เพลงของเขาเซ็กซี่มาก ๆ แต่ตัวจริงเขาเป็นคนน่ารัก สุภาพเรียบร้อย แล้วก็ไนซ์มาก ๆ เป็นคนฉลาด มองภาพกว้างได้ดี เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่วิเคราะห์ความรู้สึกของตัวเองเก่ง แล้วนำเสนอมันออกมาได้ดี นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่หยิบประสบการณ์ในชีวิตมาเล่าได้เก่งมาก ๆ เรื่องในชีวิตต่าง ๆ เขาหยิบมาเล่าได้หมด ทั้งความงง ความสับสน ความพยายาม พยายามแล้วมันได้อะไร? หรือพยายามแล้วมันไม่ได้อะไรเลย? 
 
ในการทำงานถ่ายรูปเบื้อง เราต้องการให้ผู้ชมได้เห็นความตั้งใจในการทำงานของเขา ถ้าถ่ายออกมาแล้วเป็นรูปเบื้องหลังที่ดูออฟฟิเชียลมาก ๆ หรือดูเป็นรูปโปรโมตมาก ๆ มันก็ได้แค่ความเท่ แต่เราคิดไว้แล้วว่าอยากได้รูปถ่ายเบื้องที่นำเสนอมุมความเป็นมนุษย์ของเขา ซึ่ง Keshi เขาเป็นคนที่มีความเป็นมนุษย์มาก ๆ ไม่ได้ต้องรอเวลาแอ็กชันหรือโพสท่า ภาพที่ออกมาเลยตรงกับที่เราคิดพอดี
 
 
คิดว่าคนมาดูจะได้อะไรกลับไปจากการชมสารคดี Gabriel?
 
โบ: สำหรับแฟน ๆ ถ้าชอบอัลบัมนี้อยู่แล้ว ก็จะชอบมากขึ้น เพราะจะได้เห็นดีเทลเล็ก ๆ และได้เห็นว่าเขาใส่ใจแค่ไหนกับการทำเพลงหนึ่งเพลง ทุกผลงาน ทุกถ้อยคำ ทุกโซโลกีตาร์ ทุกบีต ทุกเบส มันผ่านการคิดจากเขาเยอะมากจริง ๆ เขาต้องมั่นใจว่าทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบและเขาชอบมันแล้วจริง ๆ เพื่อคนฟังของเขา
 
เราตัดสารคดีตัวนี้ไป เราก็มีความสุขไปด้วย เพราะได้ฟังเพลงของเขาที่เพราะอยู่แล้ว ยิ่งได้รู้เบื้องหลังของเขาก็ยิ่งเพราะขึ้นไปอีก ซึ่งเราคิดว่าแฟน ๆ ของ Keshi หลังจากที่ได้ดูแล้ว ก็น่าจะรู้สึกเหมือนกันกับเรา
 
 
ติดตาม โบ ณวัชรี ปิยะมงคล ได้ทาง IG @boboboh และ nawacharee.com
 

เครดิตภาพจาก โบ ณวัชรี ปิยะมงคล
soimilk adsoimilk ad