ลมพัดโชยอ่อน ใบไม้เปล่งสีสัน ทะเลวาดคลื่นเป็นเกลียวระลอกกระทบฝั่งเป็นจังหวะ ท้องฟ้าสะอาด เมฆขาวนุ่มคล้ายสำลีลอยเอื่อย เป็นสัญญาณบอกว่า เรากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในฤดูร้อน ช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะต้องทนทุกข์กับความร้อนของไอแดด แต่ใช่จะแย่ไปเสียทั้งหมด เพราะหน้าร้อนมักจะเป็นช่วงเวลาของการได้พร้อมหน้าพร้อมตาทำกิจกรรมร่วมกัน บางคนเลือกไปภูเขา และอีกหลายคนเลือกไปทะเล ใช่แล้ว! ไปทะเลกันสิ วันนี้เรามีเส้นทางการท่องเที่ยวแบบ Inland Sea ฉบับ เซโตะอุจิ อาณาจักรทะเลสุดยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่น มีชายฝั่งยาวไกลถึง 1,500 กิโลเมตร และถูกแวดล้อมไปด้วยจังหวัดทั้ง 7 ประกอบไปด้วย ยามากุจิ, ฮิโรชิมะ, เอฮิเมะ, คางาวะ, โอคายามะ, เฮียวโงะ, และโทคุชิมะ ความสวยงามของเส้นทางเลียบชายฝั่งนี้ ต้องบอกเลยว่า เราจะได้สัมผัสความสวยงามของทิวเขาที่ตั้งเป็นฉากตัดกับท้องฟ้า และด้านล่างเป็นเวิ้งทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สลับกับการมีตึกรามบ้านช่องที่ตั้งเป็นระเบียบสะอาดตา เรียงรายจัดองค์ประกอบอย่างมีเสน่ห์ และอีกสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ของดีประจำจังหวัด เราจะพาสายกิน สายเที่ยวไปฟินกัน
ยามากุจิ
เริ่มต้นกันที่จังหวัด ยามากุจิ พิกัดตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮนซู มีสถานที่ท่องเที่ยวอุดมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ว่ากันว่าเมืองนี้เป็นคู่แข่งของเกียวโต ด้วยการเติบโตทางวัฒนธรรมในช่วงยุคสงครามของญี่ปุ่น จึงถูกขนานนามว่าเป็น เกียวโตตะวันตก เมืองนี้อาจจะไม่ได้ดังในญี่ปุ่นมาก เพราะคนในประเทศเองก็ยังไม่ค่อยย่างกรายมาเช่นกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมไปกันก็จะมี ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นภาพเสาโทริอิแดง 123 ต้น ตั้งเป็นอุโมงค์ให้เดินลอดระยะทางกว่า 100 เมตร เดินไปก็อธิฐานกันไป ใครจะขอให้ประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรก็สุดแล้วแต่ใจจะปรารถนา แต่ก่อนจะเดินลอดอุโมงค์ หากสังเกตให้ดีที่นี่จะมีกล่องรับบริจาคเงินซึ่งไม่ธรรมดาเพราะ กล่องนี้วางอยู่บนปลายเสาโทริอิเหนือพื้นสูงขึ้นไป วิธีการบริจาคก็คือ ตั้งอธิฐานขอพรเสร็จ ก็เสี่ยงด้วยการโยนเหรียญ (นิยมใช้เหรียญ 5 เยน หรือ โกะเอน ที่มีเสียงพ้องกับ (ご縁) แปลว่า ขอพรจากพระเจ้า ดังนั้นจึงนิยมใช้เหรียญชนิดนี้เพื่อให้ได้ใกล้ชิดพระเจ้าได้มากขึ้น) ให้เข้ากล่องได้ สิ่งที่ขอก็อาจจะสมหวังตั้งใจ นอกจากเรื่องของความศรัทธาแล้ว ก็ยังมีความสวยงามเป็นวิวทิวทัศน์ติดทะเลกว้าง กลุ่มหินขนาดใหญ่ที่เมื่อไหร่คลื่นสีน้ำเงินปนฟ้าอ่อนพัดเข้ามากระทบพวกมันจะสร้างกระเซ็นน้ำให้ได้ถ่ายรูปกันเพลิดเพลินเลยแหละ
หากมองหาของกินที่ต้องไปลองประจำเมืองนี้ต้องเมนูนี้เลย นั่นคือเมนูอาหารที่ชื่อ คาวาระโซบะ อาหารประจำ ชิโมโนะเซกิ เมืองหนึ่งของจังหวัดยามากุจิ มีต้นกำเนิดมาช้านานตั้งแต่ ค.ศ.1961 มีไอเดียมาจากทหารในยุคนั้น พวกเขานำหญ้าและเนื้อมาปรุงอาหารกันบนกระเบื้อง ในปัจจุบันอาจจะใช้กระทะร้อนหรือจานในการรับประทานเมนูนี้ก็ได้ แต่หากยึดตามประเพณีนั้น กิมมิกของเมนูนี้จะไม่ใส่จานแต่ว่าใช้กระเบื้องแทน โดยการนำเส้นโซบะที่มีส่วนผสมของชาเขียวต้มสุกไปวางไว้บนกระเบื้องร้อน ๆ วางไข่ทอดซอยเป็นเส้นไว้ที่ชั้นสอง ส่วนประกอบอื่น ๆ จะมีเนื้อหรือหมูเลือกตามชอบปรุงรสให้ออกหวานปนเค็ม สาหร่าย ต้นหอม เลม่อน และด้านบนสุดหัวไชเท้าบดผสมพริกตามลำดับ เครื่องเคียงจะมีน้ำชาเขียวร้อน ๆ ให้ซดคล่องคอหนึ่งกา และน้ำซุปอีกถ้วยไว้แกล้มกับทุกอย่างบนกระเบื้อง เวลาจะโซ้ยก็รอให้เส้นโดนความร้อนจนมีความกรอบนิดหน่อยนำไปจุ่มลงถ้วยซอสให้นุ่มนิ่มเคี้ยวทุกอย่างรวมกัน แต่กระเบื้องห้ามกิน! สุโค่ยไปเลย
ยามากุจิยังโดดเด่นเรื่องของสะพาน ยกตัวอย่างสะพานไม้คินไตเคียวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งก่อสร้างที่ดูก็รู้ว่าเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านจริง ๆ ใช้วิธีสร้างแบบดั้งเดิมที่ไม่มีตะปูแม้แต่ตัวเดียวที่สำคัญ ณ ปัจจุบัน สะพานนี้เสื่อมโทรมตามกาลเวลาทำให้ต้องบูรณะการอยู่หลายครั้ง และยังมี สะพานสึโนะชิมะ เมื่อครั้งอดีตเคยเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ก่อนจะโดนโค่นตำแหน่งลงด้วยสะพานที่ยาวกว่าอย่าง สะพานอากาชิไคเกียว (จะข้ามต้องจ่ายค่าผ่านทาง) แต่สะพานสะพานสึโนะชิมะก็ไม่ยอมแพ้ด้วยการประกาศว่า ฉันเป็นสะพานที่ยาวสุดในญี่ปุ่นแบบไม่ต้องเสียค่าบริการผ่านทางยังไงล่ะ
ฮิโรชิมะ
สำหรับฮิโรชิมะ นับเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกต้องรู้จักในเรื่องของความหดหู่น่ากลัวครั้งที่เกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันจังหวัดนี้กลายเป็นเมืองสงบเงียบที่น่าอยู่ไม่น้อย จากความเรียบง่ายของวิถีชีวิตริมทะเล ของดีประจำจังหวัดนี้คงหนีไม่พ้น หอยนางรม ฮิโรชิมะถูกยกเป็นเมือง หอยนางรมที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น จนมีฉายาว่า น้ำนมแห่งทะเล อาจเป็นเพราะเมืองนี้มีแม่น้ำทั้ง 6 สายไหลผ่านสารอาหารต่าง ๆ จึงถูกพัดพามาทั่วสารทิศ ส่งผลให้เมืองนี้มีคุณสมบัติสำหรับการเพาะเลี้ยงหอยนางรม จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมขนาดใหญ่ของชาวบ้านวางตัวยาวตลอดชายฝั่ง ผลิตภัณฑ์ของเขาอวบอ้วนและมีรสชาติเฉพาะตัวแตกต่างจากที่อื่นจริง ๆ
อีกหนึ่งความอเมซิ่งหรือเปล่าไม่รู้ของเมืองนี้คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ของเมืองฮัตสึกาอิจิ มีนักท่องเที่ยวต่อวันข้ามเรือไปเยือนมากมาย ศาลเจ้าที่ว่านี้มีอายุยาวนานกว่า 1,400 ปี ความโดดเด่นของศาลนี้คือ เสาโทริอิ สีแดงที่มองดี ๆ ก็อาจเป็นส้มหรือจะเป็นแดงแกมส้ม ส้มผสมแดงก็แล้วแต่เถอะ! เมื่อไหร่ที่น้ำจากมหาสมุทรหนุนขึ้น ศาลนี้ก็จะตระหง่านอยู่กลางทะเล แต่ถ้าน้ำลดเราจะได้เห็นตอผุดตามสำนวนไทยนั่นแหละ ทางด้านตัวศาลเจ้าเองก็ถูกสร้างขึ้นให้ยื่นลงไปในทะเล ช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนสูง ศาลนี้จึงถูกเรียกว่า ศาลเจ้าลอยน้ำ จึงได้รับการกล่าวขานว่าเป็น 1 ใน 3 วิวทิวัศน์ที่งดงามยิ่งในญี่ปุ่นและได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1996 ด้วยนะ
มาฮิโรชิมะอย่าลืมเดินเล่นชมวิวเมืองเงียบสงบนี้ในยามค่ำคืนด้วย บรรยากาศเย็นสบาย ๆ ของที่นี่มักจะเชื้อชวนให้เราหาอะไรร้อน ๆ ลงท้อง อยากชวนทุกคนไปกิน ฮิโรชิมะยากิ หรือ พิซซ่าญี่ปุ่น เมนูนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนในจังหวัดเป็นอย่างมาก ขนาดที่มีตึกสำหรับจำหน่ายเมนูพิซซ่าญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เราจะได้เจอวัฒนธรรมการกินอาหารหลังเลิกงาน แบบนั่งล้อมรอบเตาพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกันของชาวญี่ปุ่น ดื่มเบียร์ เชียร์กีฬา พ่อครัวตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอย่างสุดฝีมือ คนกินก็เอร็ดอร่อยมีความสุข
เอฮิเมะ
เอฮิเมะเป็นจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือบนเกาะชิโกกุ มีธรรมชาติเป็นภูเขาและทะเลห้อมล้อม แบ่งเป็นเกาะน้อยใหญ่ มีเมืองหลักคือมัตสึยามะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งต่อเรือสำคัญแห่งหนึ่ง รวมถึงอาณาจักรอุตสาหกรรมสำหรับสิ่งทอ กระดาษ เคมีภัณฑ์ และยังมีแหล่งขุดเจาะน้ำมันอีกด้วย โดยสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมได้แก่ โดะโงะออนเซ็น เรียกว่าเป็นเมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น อายุกว่า 3,000 ปี สถาปัตยกรรมหลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโดโงะออนเซ็นคือ อาคารไม้ 3 ชั้น โดยถูกยกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญของญี่ปุ่น เป็นบ่อน้ำพุร้อนมีชื่อเสียง เปิดให้บุคคลภายนอกได้เข้าใช้บริการเพื่อแช่น้ำผ่อนคลายสัมผัสความเก่าแก่ และได้ข่าวแว่ว ๆ มาว่าอีกไม่นานจะต้องขออนุญาตปิดปรับปรุง หากใครเป็นแฟนแอนิเมชันของ Studio Ghibli ก็คงจะคุ้น ๆ สถานที่แห่งนี้ในเรื่อง Spirited Away อยู่บ้าน เพราะอาคารสัญลักษณ์หลังนี้นี่เองที่ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสถาปัตยในเรื่อง
ความขึ้นชื่ออีกอย่างของจังหวัด เอฮิเมะ คือเป็นเมืองที่มีผลผลิตเป็นส้มจำนวนมาก เยอะขนาดที่ถูกแซวว่า ท่อระบายน้ำของที่เมืองไหลเป็นน้ำส้มนั่นแหละ จึงไม่แปลที่จะขนานนามเมืองนี้ว่า ราชอาณาจักรแห่งส้ม ไม่ว่าจะขนม เครื่องดื่ม หรือ อาหาร ล้วนแล้วแต่มีส้มเป็นส่วนประกอบ หนึ่งความอร่อยที่อยากแนะนำ เห็นจะเป็น โมจิส้ม ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีกรรมวิธีโดยนำส้มพื้นถิ่นมานวดกับเปลือกอิโยะคังหรือวัตถุดิบที่มีลักษณะแบบแป้งกะไม่ใช่หรือจะเป็นเยลลี่ก็ไม่เชิงมีความนุ่มลื่น ให้รสสัมผัสแบบนึบหนับบรรจุมาในแพ็กเกจรูป ตัวการ์ตูนมิคัง มาสคอนประจำจังหวัด ซื้อเป็นของฝากนะ คนรับน่าจะรักตายเลย
คางาวะ
น่าจะเป็นจังหวัดที่ถูกนิยมมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก สำหรับคนไทยเองเราได้เห็นการมาเยือนเกาะนี้กันมากมาย จนมีหนังสือ มีคลิปวิดีโอ ตลอดจนสื่อต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับจังหวัดนี้ก็มีให้เลือกเยอะจริง ๆ สำหรับคนที่ชอบการขอพร นับถือความเชื่อเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อยากให้ลองไปเดินขึ้นบันไดกว่า 2,000 ขั้นที่ ศาลเจ้าโคโตฮิระกู กันดูนะ เป็นศาลเจ้าที่สถิตของเทพเจ้าแห่งทะเล ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งซึ่งชาวเรือมักจะมาเคารพบูชา และศาลนี้ยังเป็น 1 ใน 88 ศาลเจ้าและวัดแห่งการแสวงบุญของญีุ่ปุ่นอีกด้วย
ส่วนใครที่เป็นสายชอบเสพ (งานศิลปะ) แน่นอนว่า เกาะนาโอชิมะหรือเกาะแห่งศิลปะแห่งร่วมสมัย นั้นต้องเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่พลาดไม่ได้แน่ ๆ เพราะที่นี่รวบรวมงานศิลปะชั้นเยี่ยมของคุณป้าลายจุด เจ้าฟักทองสีแดงกับเหลืองไว้ให้ถ่ายรูปสวย ๆ ประกอบกับทะเลสีสันสดใส และถ้าไม่ไปที่พิพิธภัณฑ์ของสถาปนิกชาวญี่ปุ่นผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกอย่าง Tadao Ando กับงานสุดเดิร์นที่จะทำให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบศิลปะที่สร้างขึ้นอยู่ร่วมกลมกลืนกับธรรมชาติแล้วล่ะก็ คงเหมือนไปไม่ถึงคางาวะ นอกจากนี้แล้วยังมีผลงานศิลปินชื่อดังมากมายกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งบริเวณเกาะอีกด้วย
ลืมบอกไปว่ามา คางาวะทั้งทีอย่าลืมไปลิ้มลองรสชาติของ ซานุกิอุด้ง ผลิตภัณฑ์ดีเด่นดีประจำเมือง มีจุดเด่นตรงที่ความเหนียวนุ่มแบบเฉพาะตัว เพราะคัดสรรจากวัตถุดิบข้าวสาลีที่ใช้วิธีปลูกแบบดั้งเดิมและกรรมวิธีที่สืบทอดส่งต่อกันมาจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้คงรสชาติของเส้นอุด้งของเมืองนี้แตกต่างและดีงามมาก
โอคายามะ
สำหรับจังหวัดนี้ คนที่ชอบย่านเมืองเก่าจะต้องถูกใจ ก็เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้คือเขตประวัติศาสตร์บิคัง เมืองโบราณจากยุคเอโดะ เราจึงได้สัมผัสกับวัฒนธรรมในยุคก่อน และตัวอาคารหลาย ๆ แห่งก็มีความเป็นญี่ปุ่นโบราณผสมผสานกับสถาปัตยกรรมจากซีกโลกตะวันตกอย่างสวยงาม ได้รับการอนุรักษ์โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ให้คงรูปแบบอาคารดั้งเดิมเอาไว้ ร้านค้าต่าง ๆ ที่ได้เห็นจึงตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ สามารถนั่งรถลากโบราณเที่ยวชมทัศนียภาพของเมืองโดยรอบหรือล่องเรือชมแม่น้ำคุราชิกิ ที่ไหลผ่านใจกลางเขตประวัติศาสตร์บิคังได้อีกด้วย
เฮียวโงะ
มาถึงจังหวัดสุดท้ายซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนใต้ของเกาะฮนชู ต้องบอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรักเนื้อชัด ๆ ใครมาที่นี่จะต้องถึงขั้นนิพพานไปกับ เนื้อโกเบ ของดีสุด ๆ จากเมืองหนึ่งในจังหวัดชื่อทาจิมา ด้วยชื่อเสียงเรียงนามที่ดังพลุแตกไปทั่วโลกเราจึงไม่ต้องอธิบายสรรพคุณใด ๆ กันให้เวิ่นเว่ออีกต่อไปแล้ว บอกได้เลยว่าโกเบโอเคสุด ๆ
The Mall Japan Discovery 2019 : Sparkling Setouchi
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ กำลังกดจองตั๋วเพื่อไปเยือนเซโตะอุจิ แต่ทำอย่างไรก็ยังไม่ได้ไปในเร็ว เรามีหนึ่งงานมานำเสนอ ซึ่งงานนี้ชื่อว่า The Mall Japan Discovery 2019 : Sparkling Setouchi งานเทศกาลญี่ปุ่นสุดยิ่งใหญ่แห่งปีที่จัดขึ้นในไทยโดยผู้จัดอย่าง เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น อยากเชิญชวนทุกคนได้ไปเที่ยวเดินเล่นในงานนี้ เตรียมความพร้อมไปลิ้มรส อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ที่ทางผู้จัดเขาบินลัดฟ้าไปคัดเลือก คัดสรร สิ่งดี ๆ ขึ้นชื่อ อิมพอร์ตสินค้าเข้ามาจากจังหวัดทั้ง 6 ของญีปุ่นทั้ง ยามากุจิ, ฮิโรชิมะ, เอฮิเมะ, คางาวะ, โอคายามะ, เฮียวโงะ กันเลยทีเดียว
เทศกาลญี่ปุ่นในไทยนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 25 สิงหาคม 2562 บริเวณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น จี เดอะมอลล์ บางกะปิ นอกจากเมนูดัง ของเด็ดของดีแล้ว ยังได้ตระการตาไปกับโชว์วัฒนธรรมโบราณสุดยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในเอเชีย! กับการแสดง HIROSHIMA KAGURA SHOW บินตรงจากฮิโรชิมะมาทำการแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ บรรยากาศภายในงานก็จำลองกลิ่นอายเสน่ห์เมืองเก่า คุระชิกิ เมืองโบราณยุคเอโดะ ให้ได้ถ่ายรูปกันจนเต็มอิ่ม และนอกจากนี้ยังมีบูธแนะนำการท่องเที่ยว และร้านจำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่นให้เลือกชอปกันอีกต่างหาก สำหรับใครที่อยู่โคราชก็เตรียมพบกับงานนี้ได้ในวันที่ 6 - 15 กันยายน 2562 ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช นั่นเอง
16 – 25 สิงหาคม 62 GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ บางกะปิ
6 - 15 กันยายน 62 GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
