มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบออกจากบ้านเพื่อไปอยู่บ้าน ไม่ต้องทำงง เพราะบ้านในที่นี้หมายถึงบ้านชั่วคราว ซึ่งไม่ใช่บ้านเล็กบ้านน้อยแบบนั้นด้วย แต่หมายถึง บ้านที่จะทำให้เราได้ผ่อนคลายไปกับความสงบ ความแปลกใหม่ ความสะดวกสบาย และได้รับบรสชาติอื่นของชีวิตเป็นบรรยากาศแปลกใหม่ต่างจากที่เคยเจอ ซึ่งเติมเต็มหล่อเลี้ยงหัวใจ ชาร์จแบตให้กับร่างกายและหัวใจได้มีพลังขับเคลื่อนอีกครั้ง เราจึงอยากแนะนำสถานที่พักแห่งใหม่ อยู่ไกลจาก กทมฯ ไม่กี่อึดใจก็ถึง โรงแรมน้องใหม่ที่ว่านี้พิกัดอยู่ที่ เขาใหญ่ นครราชสีมานั่นเอง


โฮเทล ลาบาริส (Hotel Labaris) สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งโลกสมมติซึ่งถูกนิยามให้ชื่อว่าเป็น อาณาจักรลาบาริส ดินแดนแห่งเทพนิยาย และมีคิงมิโนเทอร์ เป็นกษัตริย์ครองเมือง มีบริวารเป็นเหล่าสัตว์วิเศษในจินตนาการซึ่งแต่ละตัวนั้นก็เป็นสัตว์พื้นถิ่นมีชีวิตอยู่บนเขาใหญ่นั่นเอง เมื่อย่างกรายเข้าไปยังดินแดนเทพนิยายแห่งนี้ดูเผิน ๆ แล้ว สถาปัตยกรรมนั้นให้โทนแบบเรื่อง Alice in wonderland ผสมกันกับดินแดนแห่งเวทย์อย่าง Harry Potter สีหลักจะเป็น ขาว เทา ดำ รายล้อมไปด้วยสีเขียวจากต้นไม้ หากมองด้วยดวงตานกลงมาจะเห็นพื้นที่แห่งนี้เป็นเหมือนโลกอีกใบที่แบ่งเป็น อาคาร สีเขียวของพืชและสีฟ้าของสระว่ายน้ำ และในโลกของอาณาจักรลาบาลิสแบ่งอาณาบริเวณออกเป็น 5 Chapter ที่เปรียบเป็นเหมือนการเปิดเทพนิยายอ่านไปทีละบท พลิกไปทีละหน้าจะได้ข้อมูลเป็นแนวคิดการออกแบบพื้นที่ของอาณาจักรแห่งนี้
Chapter 1: Welcome Zone


บทที่ 1 นั้นจะเป็นโซนที่มีไว้ต้อนรับนักเดินทางเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ขนาดกระทัดรัดชื่อบ่งบอกถึงความน่ารักอย่าง Rabbit Cafe ออกแบบพื้นที่โดยจำลองให้เป็นเหมือนโพรงเล็ก ๆ ของเหล่าสัตว์วิเศษตัวน้อย เมื่อเราเข้าไปยังคาเฟ่ก็ทำให้รู้สึกว่า ตัวเราเองถูกย่อส่วนลงให้กลมกลืนไปโดยอัตโนมัติ คาเฟ่สีขาวโพลนที่ตกแต่งด้วยแสงไฟสีส้มอ่อน ตัดสลับสีน้ำตาลของเฟอร์นิเจอร์ ให้อารมณ์ของความเรียบง่าย ปลดเปลื้องทุกความเหน็ดเหนื่อยด้วยกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟคั่วบดจากบาริสต้า ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มเย็น ๆ และเบเกอรีสดใหม่ทุกวันพร้อมเสิร์ฟ ด้านนอกยังมีลานสนามหญ้าและฉากหลังเป็นปราสาทสวย ๆ ให้ถ่ายรูปด้วยนะ ใครขยันหน่อยก็ลองเดินสำรวจรูปปั้นสัตว์วิเศษตัวน้อย ๆ กันดูว่ามีกี่ตัว?
Chapter 2: The Heart of Labaris



บทที่ 2 นักเดินทางจะได้ย่างกรายเข้ามาสู่ดินแดนของลาบาริส โดยจะมีผู้นำทางคอยต้อนรับดูแลและนำสารจากคิงมิโนเทอร์มาให้แทนคำขอบคุณสำหรับการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ ผู้นำทางจะพาเราเดินผ่านเขาวงกตไปยังห้องพักที่เป็นปราสาท 2 หลัง มีชื่อว่า Starry และ Midnight Castle ซึ่งมีลักษณะห้องพักให้เลือกด้วยกันทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ Deluxe Room ตั้งอยู่บนชั้นสองซึ่งหลังห้องจะมองเห็นภูเขาลูกใหญ่ด้วยนะ จูงมือคนรักไปสวีทกันน่าเหมาะ แบบที่ 2 คือ Grand Deluxe ใหญ่ขึ้นมาอีกเท่าหนึ่งสังสรรค์กับเพื่อนสิห้องนี้รออะไร และสุดท้ายในแบบที่ 3 Duplex Room ที่พักนี้มี 2 ชั้น โดยพื้นที่ส่วนแรกนั้นเป็นห้องนั่งเล่นขนาดกว้างและจัดให้โซนที่นอนนั้นอยู่บนชั้นลอยด้านบน วิวภูเขาหลังห้องก็กว้างใช่ได้ แอบบอกว่าไปเป็นครอบครัวเถอะห้องนี้มีขนาดใหญ่จะได้รู้สึกไม่เหงาเกินไป
Chapter 3: Explore The Secret Room : Laughing Stone Garden



อย่างที่บอกว่า เขาวงกตคือความลี้ลับที่ดินแดนลาบาริสแห่งนี้ใช้ซ่อนความพิเศษต่าง ๆ ไว้ Labaris นั้นมีที่มาจากคำว่า Labyrinth หรือ เขาวงกต นั่นเอง โดยในบทนี้เราจะพบกับสวนอันไร้ขอบเขตที่ล้อมรอบตัว ลวงตาเราไว้ด้วยกำแพงกระจกสะท้อน ในโซนนี้เองที่มีหมู่บ้านลึกลับซ่อนตัวรอการค้นพบอยู่ ซึ่งต้องบอกว่าสำหรับใครที่รักความสงบ ความเป็นส่วน ความไม่วุนวายต่าง ๆ นานา แล้วล่ะก็ จะต้องหลงรักหมู่บ้านแห่งนี้จนอยากจะขอกลับมาอีกไม่รู้เบื่อ เพราะห้องพักนี้มีทางเข้าเป็นเขาวงกต ปิดล้อมความเป็นส่วนตัวไว้ด้วยกำแพงเขียวสุดธรรมชาติ ห้องกว้างขวางขนาดใหญ่ที่รองรับได้ทั้งคู่รักและครอบครัว เปิดประตูระเบียงห้องนอนออกไป มีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้แหวกว่ายกันแบบไม่ต้องเขินใคร จะปาร์ตี้หรือพักผ่อนไม่ต้องกลัวข้างบ้านจะบ่นอีกต่อไปแล้ว เย้
Chapter 4: Tracking The Beauty of Romance


สำหรับบทที่ 4 นี้แบ่งเป็นอาคาร 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นในส่วนของความอิ่มอร่อยเพราะที่นี่คือ Labaris Restaurant ห้องอาหารตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูหรู ดีไซน์ให้ผนังกลายเป็นกระจกเพื่อจะได้มองเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างเต็มตา เสิร์ฟมื้ออาหารสุดพิเศษสไตล์ Thai Cusine and Grill Bar คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในจาน นอกจากเมนูจากต่างประเทศแล้ว เมนูพื้นบ้านไทย ๆ หากินยากที่นี่ก็มีเสิร์ฟให้ได้ลองรสกันอีกด้วย ภาคค่ำก็ไม่ต้องห่วงเพราะที่นี่นั้นยังมีบริการบาร์เครื่องดื่มที่หลากหลายมีให้เลือก ทั้งไวน์ เหล้า หรือค็อกเทล และยังมีเครื่องดื่มอีกมากมายที่พร้อมจะสร้างสรรค์มาให้เราได้ดื่มด่ำไปกับค่ำคืนแห่งความสุข อาคารอีกฝั่งหนึ่งสามารถใช้เป็นห้องจัดงานประชุม สัมมนา งานเลี้ยง หรืออิเวนต์ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ เรียกว่าครบจบในที่เดียวจริง ๆ
Chapter 5: The Meander Wonders


บทสุดท้ายก่อนจะพลิกหน้าปิดเทพนิยายเรื่องดินแดนลาบาริส จะพามาพบกับพื้นที่สวนซึ่งอยู่โซนด้านหลังสุดของอาณาจักรแห่งนี้ ในส่วนตรงนี้เราจะได้พบการออกแบบสระว่ายน้ำให้เป็นแม่น้ำคดเคี้ยวไม่มีที่สิ้นสุดเรียกว่า Creek สามารถว่ายได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เชื่อว่าพื้นที่ส่วนตรงนี้จะช่วยกระชับกิจกรรมแบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะยังมีความพิเศษอีกอย่างกับสะพานข้ามไปยังลำธารตามธรรมชาติที่เรียกว่า Endless River จะได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางการโอบกอดของธรรมชาติ รับความงามสงบเงียบอันยิ่งใหญ่ของผืนป่าเป็นพลังงานที่ดีไม่น้อย