นั่งนึกย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน วงดนตรีสายบรรเลงชื่อดังจากสก็อตทิชอย่าง Mogwai เดินทางมาทำการแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก พ่วงด้วยวงเปิดตัวแทนจากไทยเป็น "หมาทันสมัย" Moderndog วงดนตรีต้นแบบแห่งยุค 90s ฝั่งอินดี้ และเชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ตื่นตาไปกับการโชว์ของ toe วงดนตรีบรรเลงลูกผสมจากญี่ปุ่นอีกหนึ่งวงที่ร่วมแสดงเป็นวงเปิดในงานครั้งนั้น และนั่นกลายเป็นจุดเชื่อมโยงให้ใครหลายคนผูกใจสมัครเป็นแฟนคลับไปเลย
แฟนเพลงไทยนั้นเฝ้ารอคอยการกลับมาของ toe (สรุปแล้วต้องออกเสียงว่า โท หรือ โทเอะ กันนะ เพราะเป็นวงจากแดนปลาดิบ) และพวกเขาก็บินกลับมาในฐานะคอนเสิร์ตเดี่ยวเมื่อปี 2013 โดยได้วงดนตรีเปิดเป็นวงอินดี้ซึ่งตอนนี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีแล้วในปัจจุบัน อย่าง Two Million Thanks ณ ขณะนั้นยังเป็นยุคที่สังกัดอยู่กับค่าย SO::ON DRY FLOWER
ในปี 2019 โปรโมเตอร์ผู้จัดงานที่ขึ้นชื่อเรื่องการขนวงดนตรีจากฝั่งเอเชียชื่อ Seen Scene Space ได้บอกใบ้เป็นตัวอักษร T และรูปภาพมาเล็กน้อย พร้อมบอกวันที่ทำการแสดงมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแน่นอนงานนี้ไม่น่าใช่ Toe Sillyfools T_047 หรือ Tame Impala อย่างที่แซว ๆ กันแน่นอน
เราเชื่อว่าเพลงสาย Instrumental ในwไทยค่อนข้างมีความเฉพาะกลุ่มฟังเป็นกระจุกแต่ไม่ได้กระจายเหมือนคนรวยบ้านเรา เพราะว่าดนตรีแนวนี้นั้นไร้เนื้อร้อง หาสิ่งยึดโยงจับต้องยากและบางวงก็มีความดุดัน เนิบช้า แถมซาวนด์ก็ชวนปวดหูอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับคนที่ชอบแนวเพลงบรรเลงแล้วนั้น พวกเขาก็จะบอกกลับว่าบทเพลงที่มีแต่ดนตรีเช่นนี้จะช่วยให้มีสมาธิ จดจ่ออยู่กับเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยิน ได้สนุกไปกับอารมณ์ของเพลง และบางครั้งถึงกับได้ปลอดปล่อยตัวเองล่องลอยไปกับท่วงทำนอง และเราไม่ได้กรอกหู สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ฟัง เราอยากให้ได้ลองฟังกันดู โดยไม่ต้องเริ่มจากวงอื่นวงไกล เอาวงดนตรีจากญี่ปุ่นชื่อ toe ที่กำลังจะมาแสดงที่ไทยนี่แหละนะ เผื่อจะได้มาเพิ่มเป็นแฟนเพลงวงนี้ไปด้วยกัน
แนะนำตัวกันเล็กน้อย toe คือวงดนตรีสัญชาติญี่ปุ่นจากเมืองโตเกียว ถือกำเนิดเมื่อปี 2000 โดยสมาชิกทั้ง 4 คน ประกอบไปด้วย Yamazaki Hirokazu มือกีตาร์ที่บางครั้งเล่นไฟฟ้าบ้างครั้งก็เป็นโปร่งและอาจมีส่งเสียงร้องบ้างเป็นคำสองคำ มีมือกีตาร์คู่บุญอีกคนคือ Mino takaaki ส่วนมือเบสสายหนึบคือ Yamane Satoshi และที่ขาดไปไม่ได้เลยมือกลองฟิลลื่งโหดอย่าง Kashikura Takashi ทั้งหมดคือ 4 สหายที่ร่วมยืนบนเวทีกันมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
จากปี 2000 จวบจนถึงวันนี้ toe สามารถผลิตผลงานได้อย่างมากมาย โดยแบ่งภาพให้เห็นชัดเจน พวกเขาจะมี Studio Album หรืออัลบัมเต็มทั้งหมด 3 อัลบัม ในปี 2005 กับ The Book About My Idle Plot on a Vague Anxiety อัลบัม 2 ชื่อว่า For Long Tomorrow สำหรับชุดนี้เพลงดังติดลมบนคงหนีไม่พ้นเพลงยาวราว 6 นาทีกว่า Goodbye หรือ เพลงช้าสัดส่วนเท่เช่น two moons ส่วนอัลบัม 3 เป็น Hear You ที่เราได้ยินซาวด์ดนตรีที่ผสมผสานอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเพิ่มเป็นอีกกลิ่นเพิ่มรสชาติที่ได้ยินจากพวกเขา
นอกจากอัลบัมเต็มทั้ง 3 ชุดแล้ว ปี 2002 ยังมี Splits album หรือ อัลบัมที่ทำผลงานร่วมกับศิลปินอื่น ๆ อีกด้วย ต้องบอกเลยว่า toe นั้นผลิตผลงานที่จำแนกเป็น Ep Album มาไม่น้อย ตั้งแต่ปี 2003 ยาวมาจนถึง 2018 ทั้งหมดราว 6 อีพี และยังมีอัลบัมรวมฮิตและรีมิกซ์อีกประปราย
สำหรับแนวดนตรีแบบ toe มีความครบเครื่องของระบบนิเวศแนวดนตรีที่หลากหลายอย่างมาก พวกเขามีเสาหลักเป็นดนตรี Rock ที่แตกแขนงออกเป็นกลิ่นของดนตรีร่วมสมัยเช่น ความดุดันเป็น Post Rock มีสัดส่วนทางดนตรีที่หากใครนับจังหวะได้จะสนุกไปกับความเป็น Match Rock ของพวกเขา และยังได้ยินเสียงเครื่องดนตรีอคูสติกเข้าไปผสมผสานอีกต่างหาก
หากได้ติตดามการแสดงของพวกเขาผ่านช่องออนไลน์ต่าง ๆ จะเห็น Performance รูปแบบการแสดงสุดลุยของพวกเขา ที่ปล่อยพลังทั้งสีหน้าทางอารมณ์ สำเนียงการเล่นเครื่องดนตรีต่าง ๆ เทคนิคเฉพาะที่แต่ละเครื่องต่างเล่นกันอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้การชมดนตรีที่พวกเขาเล่นนั้นเราจะไม่มีโอกาสได้ละสายตาอย่างแน่นอน ใครยังไม่เคยได้ชมการแสดงของวงดนตรีจากญี่ปุ่นวงนี้ ต้องบอกว่า ไม่ควรพลาด! เมื่อมีข่าวสารอัปเดตต่าง ๆ จากทางผู้จัดเราจะรีบส่งข่าวมาบอกกันให้ไวไม่ต้องห่วง
ก่อนจะได้ดู toe เราจะได้พบกับวงดนตรีประเภทเดียวกันนี้อย่าง MONO ด้วย ในวันที่ 24 ก.ย.ในงาน MY BEER presents MONO Asia Tour 2019 in Bangkok และยังมีการจับมือดชว์ร่วมกันของ Sunset Rollercoaster x Gym and Swim ในวันที่ 5 ต.ค. ในงาน Amazing Business Trip | Sunset Rollercoaster x Gym and Swim และอย่าลืมสายโซลเกาหลีที่บัตรหมดไปอย่างไวกับ ADOY Live in Bangkok 2019 ในวันที่ 25 ต.ค. โดยผู้จัดเจ้าเดียวกันอย่าง Seen Scene Space
วันจำหน่ายบัตร ราคา และสถานที่ สามารถติดตามระละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.fb.com/SeenSceneSpace
