Me After Me นิทรรศการที่สะท้อนวิถีชีวิตของศิลปินออกมาเป็นงานศิลปะ

หนุ่มสาวชาวไทยหลายคนคงจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของวัยเบญจเพสดี อย่างที่เรารู้กันว่าเมื่อครบรอบวันเกิดปีที่ 25 หลายคนมักจะเจอเรื่องราวคราวเคราะห์ตามแต่ดวงชะตาจะอำนวย บ้างก็ฟาดเข้าไปหนักหน่อย บ้างก็ฟาดเบา ๆ พอหอมปากหอมคอ ไว้คอยเตือนเป็นคติธรรมของชีวิตให้ตั้งมั่นอยู่บนความไม่ประมาท และไม่นานมานี้ก็มีศิลปินคนหนึ่งที่เพิ่งผ่านพ้นวันเกิดปีที่ 25 มาหมาด ๆ ซึ่งเธอก็ตัดสินใจจัดงานนิทรรศการเดี่ยว Me after Me เพื่อสะท้อนและบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเธอเองผ่านงานศิลปะ

 

 

หากใครเคยไปเดินดูงานนิทรรศการช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมที่ The Jam Factory คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับลายเส้นและสไตล์การวาดภาพของ Lily Lockwood ดี เพราะเธอเป็นหนึ่งในศิลปิน 3 ใบเถาที่ร่วมกันจัดงาน DEN Exhibition งานนิทรรศการที่เปลี่ยนแกลเลอรี่ให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นแสนสะดวกสบาย เพื่อจำลองบรรยากาศให้ศิลปะใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นในช่วงต้นปีเธอก็ได้แวะเข้าไปแขวนงานที่ 10ml. แกลเลอรี่ย่านราชรัชดาภิเษกเช่นกัน และเดือนนี้นี่แหล่ะที่จะเป็นช่วงเวลาที่เธอจะได้มีโอกาสมาจัดนิทรรศการเดี่ยวที่โลเคชันใจกลางเมือง ณ GlowFish คอมมูนิตี้สเปซสุดชิคใจกลางเมือง 

 

 

โดยงานนิทรรศการ Me After Me เป็นงานนิทรรศการที่ Lily Lockwood ตั้งใจจะสะท้อนชีวิตตลอด 25 ปีที่ผ่านมาของเธอลงไปในงานศิลปะ เบื้องหลังผลงานอันแสนสดใส เธอก็เป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยเผชิญกับเรื่องราวที่ยากลำบากมาก่อน เธอต้องเอาชีวิตรอดในโลกอันโหดร้ายและแสนจะวุ่นวาย ต้องยอมรับความจริงและช่วงเวลาอันแสนเศร้า แต่สุดท้ายเธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ประสบการณ์ได้เปลี่ยนตัวตนของเธอไป และประสบการณ์เหล่านี้ จะเป็นเกราะป้องกันที่จะพาเธอผ่านพ้นปีที่ 25 นี้ไปได้ โดยเธอก็ถือโอกาสนี้บอกเล่าเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาให้ทุกคนฟังผ่านงานเพ้นต์ติ้งที่เธอถนัด 

 

 

และนอกจากจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ผ่านงานศิลปะแล้ว เธอยังเตรียมกิจกรรม Live Portrait ยกอุปกรณ์มาวาด Portrait ให้ดูกันสด ๆ  2 วันเต็ม ๆ วันที่ 19 และ 20 ตุลาคม ตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าโมงเย็น ใครสนใจอยากไปนั่งจ้องตากับ Lily Lockwood ก็เตรียมเงิน 200 บาทมาที่ Glowfish Offices Green zone ตามเวลาที่กำหนดได้เลย ในงานยังมีของกระจุกกระจิกสไตล์แฮนด์เมดมาวางขายด้วยนะ แม้ค่าเข้าชมจะฟรี แต่ต้องเหน็บกระเป๋าตังค์มาอุดหนุน Lily Lockwood หน่อยแล้วล่ะ