จริงๆ แล้วคอนเซ็ปต์นี้ได้เริ่มต้นมาจากแบรนด์ลักชัวรี่ในต่างประเทศ เช่น Gucci, Chanel, Club Monaco และ Ralph Lauren ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างต้องการที่จะเติมเต็มประสบการณ์ช็อปปิ้งให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร เพราะอย่างที่รู้กันว่าคนสมัยนี้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องร้านอาหาร และคาเฟ่ร้านกาแฟกันมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับเราแล้ว ความสนุกของร้านค้าควบร้านอาหารคือเหมือนเราได้ใช้โปรโมชั่นไป 1 ได้ถึง 2 เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างเรามากบอกเลย! แถมแต่ละร้านในกรุงเทพฯ ที่เราคัดสรรมายังบรรยากาศดีไม่แพ้ร้านอาหารทั่วไปด้วย เรามาเลือกวันสบายๆ ที่ไม่เร่งรีบแล้วไปละเลียดใช้เวลากับเพื่อนหรือคนรู้ใจที่ร้านต่อไปนี้กันดีกว่า!

ตัวร้าน: Casa Pagoda คือร้านขายเฟอร์นิเจอร์นำเข้าสไตล์วินเทจ ภายในร้านตกแต่งราวกับเป็นบ้านพักในโพรวองซ์ ฝรั่งเศส และเน้นสินค้าที่มีดีไซน์แปลกใหม่มากกว่าร้านสาขาแรกที่ซอยสุขุมวิท 45

อาหาร: นอกจากกาแฟแล้ว Luka ยังเสิร์ฟเมนูอาหารง่ายๆ เช่น Breakfast burrito (280 บาท) Fried chicken sandwich (310 บาท) Grilled cheese with thick tomato soup (150 บาท) ซึ่งได้วัตถุดิบจากร้านชื่อดังอย่าง Conkey’s และ Sloane’s มาช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้เอร็ดอร่อยยิ่งขึ้น
64/1 ถ.ปั้น เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 10.00-19.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 08.30-19.00 น. โทร. 02-637-8558 fb.com/lukabangkok

ตัวร้าน: จากร้านเล็กๆ บนอินเตอร์เน็ต ในที่สุดร้าน Knock BKK ก็ได้ลงหลักปักฐานที่ใจกลางย่านทองหล่อ ที่นี่เชี่ยวชาญรองเท้า Nike Jordan, Nike Air, Adidas และ Saucony โดยราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,400 บาท ไปจนถึง 35,000 บาทขึ้นอยู่กับความหายากและความพิเศษของแต่ละรุ่น นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืดและแอกเซสซอรีจากแบรนด์สตรีทแวร์อย่าง ICNY และ Mostly Heard Rarely Seen ด้วย

อาหาร: เมนูอาหารที่นี่โดดเด่นเรื่องคอมฟอร์ทฟู้ดสไตล์ตะวันตก เช่น Fried chicken waffle cup cake (260 บาท) และ Shrimp Po’Boy (350 บาท)
ชั้น 3 333/1 ระหว่างซอยทองหล่อ 15 และ 17 เวลาทำการ อังคาร-ศุกร์ 12.00-21.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 11.00-22.00 น. โทร.081-375-6625 www.knockbkk.com

ตัวร้าน: แบรนด์แฟชั่น It’s Happened to be a Closet ย้ายบ้านมาหลายต่อหลายครั้งก่อนมาปักหลักที่ซอยสุขุมวิท 23 ที่นี่มีทุกสิ่งที่เราต้องการแบบครบวงจร ทั้งโซนเสื้อผ้า สินค้าจุกจิก ร้านทำเล็บ ร้านนวด และร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปต่างๆ ให้บริการ เช่น เวิร์กช็อปทำเครื่องประดับ (4,500 บาท) ซึ่งจัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดี

อาหาร: It’s Happened to be a Closet เสิร์ฟเมนูอาหารตะวันตกง่ายๆ อย่างหอยนางรมสด สลัด และพาสต้า อย่าลืมเช็กเพจเฟซบุ๊กของทางร้านก่อนไป เพราะบางวันจะมีเมนูพิเศษด้วย เช่น หอยแมลงภู่ จองโต๊ะก่อนไปด้วยก็ดีนะ
สุขุมวิท ซอย 23 เวลาทำการ ทุกวัน 08.00-00.00 น. โทร.081-565-2026 fb.com/happenedtobe

ตัวร้าน: เตรียมตัวไปงาน Wonderfruit ตั้งแต่วันนี้ได้ด้วยการไปช้อปปิ้งเครื่องประดับและแอกเซสซอรีสไตล์โบฮีเมียนที่ Featherstone โดยสินค้าส่วนใหญ่ประดับตกแต่งด้วยขนนกและหินตามชื่อร้านไม่มีผิด ราคาเริ่มต้นที่ 180 บาท

อาหาร: Featherstone เน้นอาหารทานง่ายสไตล์ตะวันตก ทั้งสลัก พาสต้า สเต็ก และพิซซ่า เมนูเครื่องดื่มที่เราชอบคือ Lavender soda (140 บาท) ที่ทั้งสวยทั้งอร่อย ใครเป็นคอกาแฟที่นี่เสิร์ฟกาแฟจาก Ceresia นะ
60 เอกมัย ซอย 12 เวลาทำการ พุธ-จันทร์ 10.30-22.00 น. โทร. 097-058-6846 fb.com/featherstonecafe

ตัวร้าน: Organika คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์สปาโดยนักแสดงสาวศรีริต้า เจนเซ่น ซึ่งในที่สุดก็เปิดบ้านต้อนรับลูกค้าที่โครงการพิมาน 49 ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทสำหรับ Organika Aromatic Massage และ 1,800 บาทสำหรับ Organika Facial Treatment ก่อนกลับอย่าลืมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย เราแนะนำ Lip scrub (625 บาท) และเซ็ต Body wash & lotion (1,150 บาท)

อาหาร: คาเฟ่ Organika เชี่ยวชาญด้านเมนูเพื่อสุขภาพเป็นพิเศษ เมนูแนะนำคือ Chicken garden salad (400 บาท) และ Backyard garden carrot salad (320 บาท) นอกจากนี้ยังมีเซ็ต Afternoon Tea พร้อมเสิร์ฟด้วย (1,250 บาท/2 คน)
ชั้น 6 พิมาน 49 ซอยสุขุมวิท 49 เวลาทำการ ทุกวัน 10.00-21.00 น. โทร. 02-665-1899 fb.com/organikahouse

ตัวร้าน: ถึงจะไม่ได้ใหม่แกะกล่องเท่าร้านอื่นๆ แต่ก็เป็นหนึ่งในร้านโปรดของเรา ด้วยบรรยากาศดิบๆ ผสมอินดัสเตรียลที่หลายคนถูกใจ รวมไปถึงไลน์แอคเซสเซอรีนำเข้า โดยเฉพาะแว่นกันแดดสไตล์เรโทรพร้อมต้อนรับซัมเมอร์ ราคาสินค้าเริ่มต้นที่ 850-13,000 บาท แต่ไฮไลท์ของร้านต้องยกให้ deadstock vintage specs (เริ่มต้นที่ 950 บาท) เช็กราคาสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.onionbkk.com

อาหาร: น่าจะเคยได้ยินกันมาแล้วว่าคาเฟ่ที่นี่โด่งดังในเรื่องกาแฟมาก เอสเพรสโซ่เบสทุกตัวจะเป็นกาแฟไทยล้วน นอกจากนี้ยังพร้อมบริการอาหารเบาๆ สำหรับมื้อสายในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยนะ
19/12 เอกมัย ซอย 12 โทร. 086-388-3303 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 9:00-18:00น. เสาร์-อาทิตย์ 9:00-20:00น.

ตัวร้าน: เดิมที (Un) Fashion เป็นเพียงร้านแฟชั่นวินเทจเล็กๆ เต็มไปด้วยสินค้าเครื่องหนังนำเข้า ตั้งแต่รองเท้า กระเป๋า และแอคเซสเซอรีสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ราคาอยู่ระหว่าง 380 บาท-5,000 บาท เราอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างตามงาน made by legacy ล่าสุดนี้ได้มีการขยายร้านออกมาในบริเวณเดียวกันในชื่อ (Un) fashion dining ภายในร้านใช้โทนสีอ่อนสบายตา มีกลิ่นอายความเป็นบีชคาเฟ่หน่อยๆ และสินค้าในโซนใหม่จะเน้นของตกแต่งบ้านนำเข้าจากอเมริกา

อาหาร: นอกเหนือจากกาแฟ และเมนูของหวานแล้ว อาหารที่ร้านจะเป็นเมนูง่ายๆ เช่น สลัดร็อกเก็ต แซนวิช ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น (185 บาท) ลาบหมู (230 บาท) พิซซ่าโฮมเมด (เริ่มต้นที่ 185 บาท)
เอกมัย ซอย 10 โทร. 099-527-9053 เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ (ยกเว้นวันอังคาร) 11:00-22:00 น.

ตัวร้าน: ถ้ากำลังมองหาร้านเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดี เราแนะนำให้มาที่ Thieves Studio เลย เพราะที่นี่เน้นสินค้าจากแบรนด์ดีไซน์เนอร์ไทย เช่น Greyhound และ Sretsis

อาหาร: อากาศร้อนๆ เมืองไทยทำให้เรามีข้ออ้างในการกินโฟรโยได้ตลอดเวลา ที่ Freeze Frozen เราสามารถเลือกได้ว่าอยากกินโฟรโยโปะท้อปปิ้งตู้มๆ (เริ่มต้นที่ 79 บาท) หรือจะกินเป็นโฟล้ตกับโซดาซ่าๆ ชื่นใจ (89 บาท) หรือเป็นพาร์เฟต์โฟรโย (169-179 บาท) ที่จัดเต็มทั้งครัมเบิ้ล บราวนี่ และซอสนานาชนิด
ถนนนาคนิวาศ เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 11.00-20.00 น. โทร. 095-164-6551
New: Printa Cafe

ตัวร้าน: Printa Cafe เจ้าของเดียวกันกับแบรนด์แว่นตาสุดเนี้ยบอย่าง Glazziq ดังนั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งของร้านจึงอุทิศเป็นโชว์รูมให้คนมาลองลูบๆ คลำๆ และสวมใส่แว่นก่อนตัดสินใจซื้อจริง เตือนไว้อย่างนึงว่า ซื้อเลยไม่ได้นะจ๊ะ ลองแล้วถูกใจคู่ไหนจงไปกดสั่งซื้อใน www.glazziq.com โลด! ราคาเริ่มต้นที่ 1,990 บาทนะ

อาหาร: ถึงแม้จะไม่ใช่หนุ่มแว่นสาวแว่นก็แวะมาเอ็นจอยบรันช์กันได้ตลอดวันที่ Printa Cafe เมนูเน้นหนักไปที่อาหารตะวันตกทานง่ายที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เช่น สลัด พาสต้า แซนด์วิช ส่วนเครื่องดื่มก็ครบครันทั้งชาและกาแฟ แต่อากาศร้อนๆ แบบนี้ เมนูที่เราต้องสั่งแน่ๆ คืออิตาเลียนโซดาเย็นชื่นใจ!
36/2 ถนนปั้น BTS สุรศักดิ์ เวลาทำการ ทุกวัน เว้นวันพฤหัสบดี 07.30-18.00 น. โทร. 095-542-4575
New: Craft n’ Roll Cafe

ตัวร้าน: ร้านแห่งนี้รวบรวมสินค้าแบรนด์ไทยหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า ของแต่งบ้าน โดยเบื้องต้นเราได้ยินมาว่าจะมีสินค้าจาก 8 แบรนด์มาวางจำหน่าย อาทิ Jirawat Leathergoods, Mupers Bangkok, Wear&Play, Gleamwood, Blacksheep Jeans, Vitime, Near Handcraft และ T-Rex Leather Studio ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง soft launch อยู่เลยนะ ใหม่แกะกล่องมาก

อาหาร: คอคราฟต์เบียร์ย่านจรัญสนิทวงศ์น่าจะถูกใจ Craft n’ Roll เพราะที่นี่เชี่ยวชาญเรื่องคราฟต์เบียร์ไทย โดยเตรียม 10 แท็ป ไว้สำหรับ 10 แบรนด์ เช่น Devanom Beer, Sandport และ Triple Pearl แถมมีเครื่องดื่มอื่นๆ และอาหารฟิวชั่นนานาชนิดด้วยนะ นั่งจิบเบียร์ชิวๆ แกล้มวิวแม่น้ำเจ้าพระยา แค่นี้ก็ฟินแล้ว
113 ซ. จรัญสนิทวงศ์ 92 ถ. จรัญสนิทวงศ์ โทร. 098-260-9292