ไม่นานมานี้ก่อนที่สถานการณ์ COVID-19 จะรุนแรงขึ้น ระหว่างที่เราผ่านไปมาแถวย่านบางลำพูก็เริ่มสะดุดตากับประตูไม้ลึกลับที่แทรกตัวอยู่ระหว่างตึกแถวเก่า ความสนใจพาให้เราคอยสังเกตประตูไม้บานนี้ทุกครั้งที่เราผ่านไปแถวนั้น จนในที่สุดความสนใจนั้นก็พาเราเข้าไปหลังประตูบ้านนั้น แล้วพบกับห้องทดลองขนาดย่อมของเชฟมือฉมังผู้หวนกลับมาหาความสุขอันเรียบง่ายจากการทดลองทำอาหารจานง่าย ๆ แต่มีศาสตร์อันลึกซึ้ง นั่นก็คือพาสต้านั่นเอง

00 Pasta เกิดจากความตั้งใจของเชฟ โมน ธีระธาดา เฮดเชฟแห่ง Na-Oh Bangkok ที่ตั้งใจพาตัวเองกลับคืนสู่ความสามัญในการทำอาหาร โดยใช้พาสต้าเป็นเมนูในการพาตัวเองกลับมาค้นหาความสุขในการคิดค้นทดลองเมนูที่ทุกคนรู้จัก แต่ไม่ง่ายนักที่จะทำออกมาได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์
ในวัยเพียง 20 ปี เชฟโมนน่าจะได้ทำสิ่งที่คนทำอาหารหลายคนใฝ่ฝันจนเกือบครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปั้นทีมของตัวเองเพื่อไปลุยเสิร์ฟเมนูไฟน์ไดนิงบนซากเครื่องบินใจกลาง ช่างชุ่ย ChangChui หรือการพาตัวเองไปประลองฝีมือกับเชฟตัวพ่อคนอื่น ๆ ในฐานะ เชฟหน้ากากแดง แห่งรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (Iron Chef Thailand) การไปยืน ณ จุดที่เชฟหลายคนใฝ่ฝันมาแล้ว ทำให้เชฟโมนคิดถึงความสุขอันเรียบง่ายในห้องครัว และนั่นก็ทำให้เขาพาทีมจาก Na-Oh Bangkok มาลุยเส้นทางใหม่ ด้วยการค้นหาความสุขและความเป็นไปได้ต่าง ๆ ในการรังสรรค์เมนูพาสต้า


ชื่อของ 00 Pasta มาจากแป้งสาลีเบอร์ 00 ซึ่งเชฟอธิบายว่า เป็นแป้งที่มีปริมาณของโปรตีนและกลูเตนที่เหมาะสมที่สุดในการทำเส้นพาสต้า โดยลูกค้าที่มาก็สามารถนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ เพื่อชมการทำเส้นพาสต้าสด ๆ จากเชฟได้เลย โดยเส้นพาสต้าที่ร้านจะทำแบบวันต่อวัน โดยเริ่มต้นทำวันละ 5 เสิร์ฟ แล้วทำเติมเรื่อย ๆ ไม่มีการเก็บค้างคืนให้เสียคุณภาพและรสชาติในแป้ง ซึ่ง ณ วันที่เราไปชิมนั้น เชฟเล่าว่าตอนนี้ที่ร้านมีพาสต้า 8 อย่างด้วยกัน แต่กำลังเล็งที่จะเพิ่มอีกหลาย ๆ แบบ
นอกจากเมนูประจำแล้ว ทางร้านยังจัดพาสต้าแต่ละแบบที่มีมาวางไว้บนเคาน์เตอร์ เพื่อให้เราสามารถมาเลือกดูเอาเองได้ว่าอยากทานเส้นแบบไหน แล้วให้เชฟช่วยจัดให้ได้ว่าจะทานคู่กับซอสแบบใด
ก่อนจะไปชิมพาสต้าที่เป็นเมนูหลักของร้าน เราขอเริ่มวอร์มลิ้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Baba Ghanoush / Pita (190 บาท) เมนูดิปปิงแบบเมดิเตอร์เรเนียน โดยตัวดิปประกอบด้วยแตงกวาดองกับมะเขือม่วงย่างลอกเปลือกสับ แล้วนำไปตีกับครีมและโยเกิร์ต เติมรสชาติและกลิ่นหอมด้วยน้ำมันโหระพา แล้วโรยเมล็ดทานตะวัน เป็นจานที่เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์เพราะไม่คิดว่าจะสร้างความประทับใจได้มากขนาดนี้ รสชาติของตัวดิปที่นุ่มละมุนและสดชื่นเข้ากันได้ดีกับเทกซเจอร์หนุบหนับของแป้งพิสต้า ไป ๆ มา ๆ ทานเพลินจนรู้ตัวอีกทีก็กวาดเกลี้ยงทั้งจาน
อีกหนึ่งเมนูที่เชฟภูมิใจนำเสนอก็คือ Pork Belly Steak Mustard Orange (240 บาท) ซึ่งเป็นจานที่ทุกโต๊ะมาแล้วต้องสั่ง โดยเขาใช้เนื้อหมูส่วนท้องหรือหมูสามชั้น นำไปหมักในน้ำเกลือและน้ำผลไม้ เพื่อให้เนื้อนุ่มและเด้ง แล้วจึงนำไปย่างในกระทะ เสิร์ฟพร้อมกับซอสออเรนจ์มัสตาร์ดและเนื้อส้ม รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นของส้มที่แสนจะเข้ากันกับเนื้อหมูนุ่มแทรกด้วยไขมันกำลังพอดี ทำให้เมนูนี้เป็นจานโปรตีนที่ไม่หนักเกินไปสำหรับสั่งมาทานกับจานพาสต้า และต้องขอรับประกันว่า อร่อยมากกกก
เดินทางมาถึงจานพระเอกของร้านนั่นก็คือเมนูพาสต้า วันนี้เชฟโมนแนะนำให้เราลองชิม 3 เมนูด้วยกัน จานแรกเป็น Spaghetti Bacon York Parmesan (150 บาท) ซึ่งเกิดจากการที่เชฟสังเกตว่า ในกรุงเทพฯ ยังไม่ค่อยมีร้านพาสต้าที่เสิร์ฟสปาเกตตี้คาโบนาร่าแบบดั้งเดิม ส่วนใหญ่จะเป็นคาโบนาร่าที่เป็นซอสครีมเข้มข้นเน้นความครีมมี่หนัก ๆ เขาจึงตั้งใจเสิร์ฟจานนี้ให้คนที่มาทานได้ชิมสปาเกตตี้คาโบนาร่าแบบดั้งเดิมที่มีเพียงแค่ ไข่แดง ชีสพาเมซาน แล้วเหยาะครีมให้เบาที่สุด เพื่อให้ได้รับรสชาติหอม มัน เข้มข้น จากชีส และไข่แดงแบบเต็ม ๆ ทานคู่กับเส้นสปาเกตตี้ทำใหม่ ๆ ก็คือลงตัวแบบพอดีไม่มีเลี่ยน
จานถัดมาคือ Ravioli Ox Tongue Garlic & Chilli (200 บาท) ราวิโอลี หรือเกี๊ยวแบบอิตาลี ข้างในเป็นไส้ลิ้นวัวตุ๋นเปื่อยนุ่ม ผัดกับเครื่องที่เป็นหอมสับ กระเทียม พริกแห้ง และเห็ด สชาติและความหอมของกระเทียมเข้ากันดีกับตัวแป้งหนึบ ๆ และไส้ลิ้นวัวตุ๋นนุ่ม ๆ สุด ๆ จานนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานอะไรที่ครีมมี่มาก
จานสุดท้ายคือ Pappardelle Ragu Beef (180 บาท) เส้นที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลพาสต้า ราดด้วยซอสรากูเนื้อที่เขานำเนื้อก้อนใหญ่นุ่มหนาไปตุ๋นกับซอสมะเขือเทศที่ทางร้านเคี่ยวเอง ตุ๋นนานถึง 12 ชม. เพื่อให้ได้ความนุ่มแบบแทบละลายในปาก ทานเข้ากันดีกับเส้นที่ทำมาได้สุกได้ที่มีความเด้ง นุ่ม หนึบ เป็นเมนูโฮมมี่ที่รับรองว่าถูกใจสายเนื้อแน่นอน
ภาพจาก 00 Pasta
Soimilk Says: ถึงสถานการณ์ช่วงนี้จะทำให้เราไปนั่งทานนั่งดูเชฟทำเส้นสด ๆ กันต่อหน้าไม่ได้ แต่ก็ยังรับความอร่อยจากครัวของเชฟไปทานกันได้ที่บ้านผ่านบริการเดลิเวอรี่นะ ถึงแม้ว่าออร์เดอร์ตอนนี้จะมีแค่เฉพาะเทกอะเวย์ แต่ทางร้านเขาก็ยังทำเส้นสดวันต่อวัน แทบจะจานต่อจานกันเหมือนเดิม และด้วยความที่เขาพิถีพิถันทำกันจานต่อจาน ใครที่สั่งช่วงนี้ก็ขอให้อดใจรอกันนิดนึง ทางที่ดีคือเผื่อเวลาสัก 20-30 นาทีนะ
00 pasta อยู่ระหว่างซ.สามเสน 3 กับซ.สามเสน 5 ใกล้วัดสามพระยา เปิด 3 ช่วงเวลา คือ 11.00 - 14:00 น. และ 17.00 - 22.00 น. โทร. 086-300-1234 fb.com/00-pasta