หากใครเคยเดินลัดเลาะไปตามถนนเส้นเล็ก ๆ ในชุมชนย่านตลาดน้อย คงจะสังเกตได้ว่า ตึกรามบ้านช่องและวิถีชีวิตในชุมชน ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่ไม่ไหลไปตามกระแสของกาลเวลา ในขณะเดียวกันก็ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยในบางส่วนเช่นกัน ชุมชนแห่งนี้จึงมีความเป็นร่วมสมัยที่มีเสน่ห์แบบจับต้องได้ และด้วยความน่าสนใจของพื้นที่ก็ทำให้อาคารบ้านเรือนในชุมชนบางส่วนถูกฟื้นฟูและคืนชีพใหม่อีกครั้ง ซึ่ง บ้านไทง้วนเองกี่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

บ้านไทง้วนเองกี่ เป็นบ้านที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และเดินทางผ่านยุคสมัยเป็นเวลา 200 ปี โดยที่ยังคงยืนต้นเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์จีนในสมัยนั้น เช่นเดียวกับบ้านในละแวกเดียวกันอย่างบ้านโซวเฮงไถ่ แต่เดิมบ้านไทง้วนเองกี่เป็นโกดังเก็บเหล้ามาก่อน และก่อตั้งโดย อากงตันฮองเอ๋ง ตัณดาราพร ชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองไทย อากงได้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันกับศาลเจ้าโจวซือกงที่อยู่ข้าง ๆ และด้วยอายุอานามกว่าสองร้อยปี ทำให้เราสามารถเรียกบ้านไทง้วนเองกี่ว่าเหล่ากงหรือคุณทวดแห่งชุมชนตลาดน้อยได้เลย


ในเวลาต่อมาบ้านไทง้วนเองกี่ก็ได้ถูกส่งต่อจนมาถึงเจ้าบ้านคนปัจจุบัน โดยที่สภาพของอาคารก็มีความเสื่อมสภาพและผุกร่อนไปตามกาลเวลาจนโครงสร้างบางส่วนถล่มลงมา ทำให้บ้านหลังนี้ถึงเวลาที่จะถูกนำมารีโนเวตคืนชีพใหม่อีกครั้ง โดยมีทีมงานสถาปนิกและนักวิจัยคุณภาพจากโครงการย่านจีนถิ่นบางกอกเข้ามาดูแลรักษาและฟื้นฟูโครงสร้าง ซึ่งการรีโนเวตก็ได้เพิ่มวัสดุใหม่และโครงสร้างใหม่ที่ถอดรูปมาจากลักษณะดั้งเดิมของตัวอาคาร จนออกมาเป็นหน้าตาแบบปัจจุบัน


อยู่มาวันหนึ่ง บ้านไทง้วนเองกี่ก็ไปเตะตา คุณไมค์-อติโรจน์ ชื่นสมทรง หนึ่งในหุ้นส่วนของไทง้วนคาเฟ่ ในขณะเดียวกันพี่สาวคุณไมค์หนึ่งในหุ้นส่วนก็รู้จักกับเจ้าของบ้านพอดี และได้เข้าไปติดต่อเจ้าของบ้านเพื่อขอพื้นที่บ้านหลังนี้มาเช่าทำเป็น Taiguan Cafe จึงได้มีการตกแต่งเพิ่มเติม ทั้งการปูกระเบื้อง การเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ การเพ้นต์กำแพง การทำเคาน์เตอร์ชงกาแฟ ไปจนถึงดีเทลเล็ก ๆ อย่างการตกแต่งด้วยดอกไม้สดทุกอาทิตย์ เพื่อให้ร้านมีความสวยงามสไตล์จีนโมเดิร์นและมีจุดถ่ายรูปในร้านแบบที่ถ่ายตรงไหนก็สวย

ในส่วนของเครื่องดื่มและขนม เขาก็ยังคุมธีมอย่างไม่หลุดคอนเซ็ปต์ ซึ่งในส่วนนี้น้องสาวคุณไมค์หุ้นส่วนคนสุดท้ายเป็นคนดูแล และเมนูทั้งหมดเธอก็เป็นคนคิดค้นขึ้นมาเองกับมือ โดยสร้างเมนูที่มีความไทยจีนผสมกันอย่างลงตัว และปรับให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อเข้าถึงทั้งวัยรุ่นและวัยอากงอาม่าได้อย่างเหมาะเจาะ เราจึงจะได้เห็นขนมที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากลับมาแปลงโฉมใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์และรสชาติความอร่อยไว้เต็มเหนี่ยว


อย่างแรกที่เราลองสั่งคือ ซอร์เบต์เต้าทึง (57 บาท) เต้าทึงที่ถูกแปลงโฉมและเสิร์ฟมาในแก้วค็อกเทล โดยจะเปลี่ยนน้ำลำไยที่เราคุ้นเคยเป็นไอศกรีมซอร์เบต์ แล้วท็อปด้วยเครื่องเต้าทึงแบบจัดเต็ม ต่อมาที่ หมั่นโถวดิป (67 บาท) หมั่นโถวก้อนกลมชิ้นใหญ่จุใจที่อบมาแบบร้อน ๆ ให้สัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มใน สามารถฉีกแล้วดิปกับช็อกโกแลต นมข้นหวาน และช็อกโกแลตผสมถั่ว เพิ่มความหลากหลายได้ 3 สเตป


ย้ายมาที่แผนกเครื่องดื่ม Plum Espresso (107 บาท) เครื่องดื่มที่ฮอตที่สุด โดยเป็นการรวมตัวของน้ำบ๊วย โซดา และ Espresso Shot ทั้งซ่า สดชื่น และหอมหวานไปด้วยกลิ่นของบ๊วยสดที่ตัดกับความเข้มของรสกาแฟได้อย่างลงตัว แก้วนี้ดื่มง่ายมากสำหรับคนที่ดื่มกาแฟไม่เก่ง ชุดชาสมุนไพร (120 บาท) ที่อุดมไปด้วยสมุนไพรจีนทั้งเก๋ากี้ ซานจา และเก๊กฮวย โดยเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมไทยอย่างสัมปันนีและวุ้นกรอบ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรจีนแต่เราบอกเลยว่าชาชุดนี้สดชื่นมาก ถ้าทานพร้อมกับขนมจะช่วยให้คล่องคอ ลุยจานถัดไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งชุดนี้เราสามารถเติมน้ำร้อนได้เรื่อย ๆ เลย

และแก้วสุดท้าย เป็นเมนูลับของทางร้านที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับใครหลายคนที่รักช็อกโกแลตแบบเข้ม ๆ โดยเป็นเมนูที่พัฒนามาจาก Bump Dark (117 บาท) ช็อกโกแลตเย็นสูตรดั้งเดิมของทางร้าน แต่แก้วที่เราได้ชิมนี้ จะเพิ่มช็อกโกแลตเข้ามาแบบสองเท่า เพราะฉะนั้นได้รสเข้มถึงใจแน่นอน และแม้จะยังไม่มีชื่อเมนูแบบเต็มตัว แต่เวลาสั่งก็บอกบาริสต้าไปเลยว่าขอ Bump Dark แบบเข้มพิเศษแก้วนึงค่ะ

แม้จะมีตึกเก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอดีตและเสน่ห์ที่หาได้ยากในปัจจุบันถูกทุบทิ้งไปหลายตึก แต่เราก็ดีใจที่ใครหลายคนเริ่มตื่นตัวที่จะอนุรักษ์สถาปัตยกรรมรุ่นเหล่ากงอยู่ ถือเป็นลมหายใจของย่านชุมชนที่กลับมาโลดแล่นอยู่ในเทรนด์ปัจจุบันได้อย่างไม่ตกยุค แถมบ้านไทง้วนเองกี่นี้ก็ยังไม่หยุดพัฒนา เพราะเราได้ยินมาว่า เขามีแพลนจะต่อเติมให้กลายเป็นครัวอาหารคาว ด้านหลังก็จะปรับปรุงให้เป็นโฮสเทล และชั้น 2 ก็จะทำเป็นแกลเลอรีจัดแสดงผลงานศิลปะ แถมทุก ๆ ครึ่งปีเขาก็จะจัดร้านกันใหม่หมดแบบที่ว่าไปกี่ทีก็ไม่มีเบื่อเลยขอบอก

Soimilk Says : ด้วยความที่ชุมชนตลาดน้อยเป็นชุมชนที่ใกล้เยาวราช และคนไทยเชื้อสายจีนก็มักจะแวะเวียนมากินเจแถวนี้บ่อย ๆ สำหรับใครที่อยากพาอากงอาม่ามาเที่ยว ที่นี่ก็เหมาะมากทั้งสำหรับรุ่นใหญ่และรุ่นเล็กเลย แถมถ้ามากันเป็นครอบครัวกรุ๊ปใหญ่ ๆ เขาก็มีห้อง Meeting ที่นั่งได้หลายคน แถมไพรเวทมาก แวะมาจิบชายามบ่ายได้ชิลล์ ๆ เลยจ้า
Taiguan Cafe 770 ถ.เจริญกรุง เวลาทำการ 10:00-20:00 น. (หยุดวันพุธ) โทร.087 387 7770 MRT หัวลำโพงแล้วต่อพี่วิน www.fb.com/TaiGuanCafe