เพียงแค่มีข่าวการประกาศสร้างซีรีส์ที่ไม่มีรายละเอียดอื่นใดนอกจากชื่อ ชินวอนโฮ ในฐานะผู้กำกับ และ อีอูจอง เป็นคนเขียนบท ก็จุดกระแสความสนใจในโลกโซเชียลกันแบบเกรียวกราว แถมคอซีรีส์และนักวิจารณ์ก็เก็งกันไว้เนิ่น ๆ ว่าให้เคลียร์พื้นที่บนชาร์ตเรตติงไว้ได้เลย เพราะทีมผู้สร้างชุดนี้เขามาเพื่อปังและปังเท่านั้น ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูเครดิตของทีมนี้ที่มีซีรีส์ตระกูล Reply 3 ซีซัน คือ Reply 1997, Reply 1994 และ Reply 1988 พ่วงด้วยซีรีส์เรื่อง Prison Playbook ติดอยู่ใน 20 อันดับ ซีรีส์ช่องเคเบิลที่มีเรตติงสูงสุดตลอดกาล ก็ไม่มีใครกังขาว่าผลงานล่าสุดของทีมผู้สร้างชุดนี้จะต้องมาเพื่อฆ่าซีรีส์คู่แข่งเรื่องอื่น ๆ อย่างแน่นอน
และเมื่อ Hospital Playlist ผลงานล่าสุดของดรีมทีมแห่งวงการซีรีส์เกาหลีออกอากาศ มันก็เดินหน้าสร้างสถิติอันน่าประทับใจตามที่ชาวเน็ตและนักวิจารณ์เขาเก็งกันไว้ ซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของแพทย์ 5 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยโรงเรียนเตรียมแพทย์ เดินหน้าทำเรตติงสูงขึ้นในทุกตอนที่ออกฉาย เป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวของ A World of Married Couple ที่ขึ้นแท่นเป็นซีรีส์เรตติงสูงสุดในประวัติศาสตร์ซีรีส์เกาหลีไปแล้ว

ว่าแต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้ผลงานจากทีมผู้สร้างชุดนี้ได้รับเสียงตอบรับแบบถล่มทลายเสมอมา? อะไรคือข้อแตกต่างที่ทำให้ Reply Series, Prison Playbook และ Hospital Playlist ชนะคู่แข่งเรื่องอื่น ๆ ที่ฉายในช่วงเวลาเดียวกันได้? วันนี้เราจะชวนชาวซอยมิลค์ไปสำรวจด้วยกัน
ทีมนักแสดงเข้าขาและการเกลี่ยบทที่น่าสนใจ
จุดเด่นที่ซีรีส์ทั้งสามเรื่องมีร่วมกันก็คือ การที่ผู้สร้างเลือกที่จะใช้ตัวละครนำหลายคน แทนที่จะมีแค่พระเอกกับนางเอกเหมือนเรื่องอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นใน Reply Series ที่เล่าถึงสมาชิกหลากครอบครัวที่อาศัยอยู่ในย่านเดียวกัน หรืออย่างใน Prison Playbook ที่เล่าถึงมิตรภาพระหว่างนักโทษกับผู้คุม รวมถึงการเจาะลึกเรื่องราวชีวิตผู้ต้องขังแต่ละคนก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในคุก ส่วน Hospital Playlist ที่กำลังเดินหน้าฉายสัปดาห์ละตอน ณ ขณะนี้ ก็ว่าด้วยเรื่องราวความแตกต่างของเพื่อนหมอแต่ละคนในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้ทีมผู้สร้าง ที่เขาเลือกนักแสดงได้เคมีเข้ากันสุด ๆ และสามารถรับส่งบทให้กันได้อย่างมีเสน่ห์ โดย Hospital Playlist ยังเป็นการรวมตัวกันของทีมนักแสดงที่เคยร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ชินวอนโฮในผลงานก่อนหน้าทั้ง Reply Series และ Prison Playbook มาแล้วด้วย
เรื่องราวชวนหัวเราะร่าน้ำตาริน
หนึ่งในจุดขายของซีรีส์จากทีมผู้สร้างชุดนี้ก็คือบรรดามุกตลกที่ใส่มาได้อย่างลื่นไหลและชวนขำค้างได้ทุกครั้งที่นึกถึง แต่ถึงจะเป็นซีรีส์ชวนหัว ทีมผู้สร้างเขาก็ยังโทนดาวน์โมเมนต์ชวนหัวเราะด้วยฉากซึ้ง ๆ น่าประทับใจ หรือไม่ก็เรื่องราวชวนเสียน้ำตา ทำให้ทั้งสามเรื่องสะท้อนความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งสุขและทุกข์ดูได้ไม่เบื่อ อย่าง Reply Series ก็จะว่าด้วยเรื่องราวทั้งขำและขื่นในครอบครัว, Prison Playbook เป็นมุกตลกร้ายที่สะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำและปัญหาในสังคมของคนเกาหลี ส่วน Hospital Playlist ก็นำเสนอมิตรภาพอบอุ่นหัวใจระหว่างเพื่อนหมอและเรื่องราวเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาในโรงพยาบาล
สายสัมพันธ์ ความรัก และมิตรภาพ
จุดขายของซีรีส์ทั้งสามเรื่องยังอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่นและความรักของคนในครอบครัว หรือมิตรภาพและสายสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อน หรือกลุ่มคนที่ต้องมาเผชิญชะตากรรมร่วมกัน ซึ่งหาก Reply Series เป็นธีมที่ว่าด้วยความรักและความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว และ Prison Playbook ว่าด้วยมิตรภาพของกลุ่มคนที่มาลงเอยในสถานที่เดียวกันแล้ว ซีรีส์ล่าสุดอย่าง Hospital Playlist ก็จะว่าด้วยความสัมพันธ์และมิตรภาพเช่นเดียวกับสองเรื่องแรก เรียกว่ายังคงซิกเนเจอร์ของทีมผู้สร้างไว้ได้แบบกราฟไม่ตก แต่สิ่งที่แทรกเติมเข้ามายังมีเรื่องสายสัมพันธ์และความเห็นอกเห็นใจกันระหว่างเพื่อนมนุษย์ ที่แพทย์กลุ่มนี้ได้เรียนรู้จากความเป็นความตายของคนไข้ที่ผ่านเธอพวกเขานั่นเอง
Reply Series, Prison Playbook และ Hospital Playlist สตรีมได้แล้วทาง Netflix