กลับมาอีกแล้วกับอัลบัมชวนฟังชวนเก็บตกจากเดือนพ.ค.ที่เราอยากชวนชาวซอยมิลค์มาลองฟังกัน เดือนนี้ก็มีทั้งอัลบัมที่เกิดขึ้นในช่วงกักตัว การกลับมาของยานแม่ และบรรดาเพลงแนวทดลองที่เราอยากให้ศิลปินเขาทดลองทำต่อไปเรื่อย ๆ เพราะชุบชูแก้วหูและหัวใจคนฟังอย่างเรามาก ๆ
Charli XCX - how i'm feeling now

อัลบัมล่าสุดจากศิลปินสาวเจ้าของเพลย์ลิสต์สุดตื๊ดประจำผับบาร์ แต่เนื่องจากสถายการณ์ล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา how i'm feeling now ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ Charli XCX กำลังกักตัว จึงเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้เธอได้ดำดิ่งลงไปสำรวจตัวตน และอยู่นิ่งกับตัวเองมากขึ้นแน่นอนว่าทั้ง 11 แทร็ก ยังคงถ่ายทอดผ่านดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเสียงสังเคราะห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว แต่ทุกเพลงมีความละเมียดช้าและละมุนละไมมากขึ้น ทำให้ how i'm feeling now เป็นอัลบัมที่ศิลปินจะทำในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ ไม่ฟูลออปชันเท่าที่ควร แต่คนฟังก็สามารถเปิดฟังได้เพลิน ๆ ในช่วงกักตัวได้ทั้งวันเช่นกัน
อยากให้ฟัง: Forever, 7 Years
Lady Gaga - Chromatica

การกลับมาของยานแม่ที่ทำให้เหล่า Little Monsters ทั้งจักรวาลต้องกรีดร้องแซ่ซ้อง และลุกขึ้นมากระโดดให้ผืนแผ่นปฐพีโลกได้สะเทือนพร้อมกัน เมื่อท่อนฮุกของ Rain on Me ดังขึ้น แม้เสียงวิจารณ์ที่มีต่ออัลบัมนี้จะค่อนไปทางเฉย ๆ เพราะสไตล์ดนตรีแบบแดนซ์แหลกและอีดีเอ็มจ๋าที่เหมือนแม่ตั้งใจทำมาให้เหล่าลูก ๆ ได้เอาไปเปิดเต้นกันที่บ้าน แต่ Little Monsters อย่างเราก็ต้องบอกว่า นี่แหละคือสไตล์ของแม่ที่เราคิดถึงที่ห่างหายไปนาน แถมคอนเซปต์ของอัลบัมที่เป็นการ Empowering Women ด้วยการชวนเหล่าลูกสาวทั้ง แอริอานา แกรนเด, Blackpink รวมทั้งเจ้าป้า เอลตัน จอห์น มาร่วมฟีเจอริง ก็ทำให้เรารู้สึกว่านี่คืออัลบัมของแม่ที่เราคิดถึง และที่สำคัญคือฟังสนุกมาก
อยากให้ฟัง: Rain on Me, Enigma
Perfume Genius - Set My Heart on Fire Immediately

เรารู้สึกว่ามีศิลปินเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถเปลี่ยนเรื่องราวของตัวเองให้กลายเป็นงานศิลปะที่ยังคงสะท้อนเอกลักษณ์และตัวตนของตัวเองได้อย่างเด่นชัด ซึ่ง Perfume Genius ก็คือหนึ่งในนั้นสำหรับเรา Set My Heart on Fire Immediately เป็นอัลบัมที่ตอกย้ำ Aesthetic หรือสุนทรียะส่วนตัวของเจ้าตัวต่อจากอัลบัมที่แล้วอย่าง No Shape ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีไม่แพ้กัน ดนตรีของ Perfume Genius บอกเล่าเรื่องราวของคนที่ผ่านความเจ็บปวด การเป็นคนนอก และการต่อสู้เพื่อให้ได้เป็นตัวเอง แต่ถ่ายทอดออกมาในสไตล์อาร์ตร็อกที่เปี่ยมอารมณ์และงดงามเหมือนบทกวี
อยากให้ฟัง: Whole Life, On the Floor, Moonbend
Car Seat Headrest - Making A Door Less Open

อัลบัมที่แสดงให้เห็นการเติบโตของวงอินดี้ร็อกสัญชาติอเมริกันวงนี้ได้อย่างน่าสนใจ Car Seat Headrest อาจจะเป็นวงร็อกที่เป็นภาพแทนของเจเนอเรชันที่เติบโตมากับอินเทอร์เน็ตยุคแรก ๆ อย่างพวกเราได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะใน Making A Door Less Open นี้ที่ทำให้เราฟังแล้วรู้สึกเหมือนกับกำลังท่องไปในโลกไร้พรมแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและข้อมูลมากมาย อยู่ดี ๆ เพลงโฟล์กก็โคจรมาบรรจบกับพังก์ได้ อะไรแบบนั้น คือเป็นอัลบัมที่ฟังเพลินและมีอะไรให้เซอร์ไพรส์ในทุกเพลง
อยากให้ฟัง: Weighifters, Deadlines (Hostile), Hollywood
Moses Sumney - græ

ใครอยากรู้ว่าความรู้สึกที่เรียกว่า Eargasm เป็นอย่างไร เชิญชวนฟังอัลบัมนี้เลยจ้า นี่ขอเป็นแม่ยกเชียร์อัลบัมนี้ของศิลปินคนนี้แบบสุดตัว เพราะทุกแทร็กในนี้พี่เขาช่างบรรจงทำ บรรจงสร้าง หนึ่งเพลงมีเลเยอร์ซ้อนกันเยอะยิ่งกว่าเครปพันชั้น ฟังหนึ่งเพลงเหมือนการเล่นล่องแก่งในธาราดนตรีแบบโซลอิเล็กทรอนิกส์ที่พาเราขึ้นสุดลงสุดและเซอร์ไพรส์ในทุกจุดที่ไปถึง อวยขนาดนี้แล้วต้องกดฟังแล้วเด้อ
อยากให้ฟัง: insula, In Bloom, Bless Me (ทางที่ดีฟังมันทั้งอัลบั้มไปเลย!)
The Soft Pink Truth - Shall We Go On Sinning So That Grace May Increase?

ผลงานล่าสุดจากโปรเจกต์ส่วนตัวของ ดรูว์ แดเนียล หนึ่งในคู่หูดูโอ้วงเฮาส์มิวสิก Matmos ที่แยกตัวออกมาทำงานของตัวเองโดยใช้สเตจเนมว่า The Soft Pink Truth ความประทับใจจากการฟังอัลบัมนี้ก็คือ 'มันไม่มีอะไรไปด้วยกัน' เลยเว้ยแก เอาจริง ๆ มันเหมือนกับการฟังซาวนด์ของสิ่งนั้นสิ่งนี้มาประกอบกันกลายเป็น 1 เพลง แต่มันดีเฉย ทุกซาวนด์ทุกเสียงมันดันทำงานในตัวมันเองได้ดีแล้วถูกจับมาเรียบเรียงโดยคนที่รู้ว่าจะให้แต่ละจังหวะทำหน้าที่ตรงไหน กลายเป็นอัลบัมที่บางเพลงโยกตาม บางเพลงฟังเพลิน ฟังจนจบ เอ้า! ดีว่ะแก
อยากให้ฟัง: Shall, We, Go, On, Sinning, So, That, Grace, May Increase (ใช่จ้ะ ชื่อแต่ละเพลงต่อกันเป็นชื่ออัลบั้ม เพราะฉะนั้นฟังทั้งอัลบั้มไปเลยจ้า)
Sparks - A Steady Drip, Drip, Drip

อัลบัมที่ควรค่าแก่การเปิดฟังเพื่อรับพลังบารมีของตำนานที่ยังมีลมหายใจของฝั่งอังกฤษ A Steady Drip, Drip, Drip คืออัลบัมปูชนียวัตถุของดูโอ้ปูชนีบุคคลแห่งโลกดนตรี ที่โลดแล่นในวงการเพลงมาแล้ว 5 ทศวรรษ แต่ก็ยังไม่มีแผ่ว โดยผลงานในอัลบัมนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่ากาลเวลาทำลายพลังความสร้างสรรค์ของลุงทั้งสองไม่ได้เลย ทุกแทร็กในอัลบัมยังคงสะท้อนความงดงามและความมันของดนตรีแกลมร็อกได้อย่างสดใหม่ บางเพลงกดฟังโดยไม่ตั้งใจก็นึกว่าเป็นเพลงจากวงอินดี้ร็อกรุ่นใหม่ที่ไหน
อยากให้ฟัง: All That, I’m Toast, Left Out in the Cold
Owen Pallett - Island

ใครที่กำลังหาเพลย์ลิสต์เพลงสบาย ๆ ใหม่ ๆ ไว้ฟังระหว่างทำงาน ลองกดฟังอัลบัมนี้จาก โอเวน พัลเลตต์ คอมโพเซอร์เนิร์ดเกมที่ได้ดีจากการทำเพลงทริบิวต์ให้ Final Fantasy แล้วเนื้อหอมจนหลายค่ายจีบไปช่วยทำเพลง โดยเฉพาะเพลงประกอบหนังต่าง ๆ ซึ่งอัลบัม Island ที่ออกมาล่าสุดก็คือผลงานที่สะท้อนความรักของพัลเลตต์ในดนตรีคลาสสิกและความเชี่ยวชาญในการใช้เสียงสังเคราะห์มาเพิ่มสีสันให้กับเครื่องดนตรีคลาสสิก ฟังแล้วเหมือนดูหนังหนึ่งเรื่องเลยอะ
อยากให้ฟัง: The Sound of the Engines, Perseverance of the Saints, Polar Vortex
Blake Mills - Mutable Set

อีกหนึ่งอัลบัมชวนฟังระหว่างทำงาน หรือยามที่อยากปล่อยใจให้ลอยล่องไปในความว่างเปล่า Mutable Set คือผลงานที่สะท้อนความละเมียดละไมทางดนตรีของโปรดิวเซอร์คนทำเพลงที่มีเครดิตในอัลบัมของศิลปินดังอย่าง จอห์น เลเจนด์ และ Perfume Genius ข้างบนนั่นไง ทุกเพลงกลั่นมาจากการค่อย ๆ ประกอบสร้างแต่ละโน้ตขึ้นมาอย่างเชี่ยวชาญและใส่ใจในทุกรายละเอียด แนะนำให้ลองใช้เวลากับอัลบัมนี้หน่อยแล้วจะเลิฟ
อยากให้ฟัง: May Later, Summer All Over, Vanishing Twin
Tim Burgess - I Love The New Sky
ปิดท้ายด้วยอัลบัมสดใสฟ้าสวยที่จะช่วยพาเราก้าวเข้าครึ่งปีหลังของปี 2020 อันแสนโหดร้ายได้อย่างไม่เซ็งเศร้านัก หลายคนอาจคุ้นชื่อของ ทิม เบอร์เจส ในฐานะนักร้องนำของวงร็อกบริตป็อปสุดเก๋าอย่าง The Charlatans แต่เราอยากชวนให้ทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักคุณอาผมม้ากะลาครอบคนนี้ให้มาฟัง I Love The New Sky อัลบัมล่าสุดจากโปรเจกต์ส่วนตัวของเขาด้วยกัน เพราะดนตรีสไตล์ร็อกแอนด์โรลที่ถ่ายทอดออกมาด้วยพลังบวกมันเพิ่มพลังหัวใจให้เราได้ดีจริง ๆ ทุกเพลงมันชวนให้เราโยกเบา ๆ และหวนคิดถึงดนตรีร็อกในช่วงยุคสมัยบ้านเมืองยังดีสุด ๆ ขาร็อกอัลเทอร์เนทีฟห้ามพลาดเด็ดขาด

อยากให้ฟัง: Empathy For the Devil, Sweetheart Mercury, Lucky Creature