นอกจากบทบาทการเป็นภาพแทนของ 'ยุคทองดนตรีอินดี้ของไทย' สำหรับหนุ่มสาววัย 20 บวก ๆ ๆ แล้ว อีกบทบาทหนึ่งของ บอล ต่อพงศ์ จันทบุบผา หรือ พี่บอล วง Scrubb ก็คือการนั่งแท่นเป็นดูแลเหล่าศิลปินอินดี้รุ่นใหม่ภายใต้สังกัด What The Duck ที่มีรายชื่อศิลปินที่วัยรุ่นไทยยุคเจนซีคุ้นเคยกันดีอย่าง The Toys, Whal & Dolph, Bowkylion และ Mints อยู่ในค่าย ซึ่งล่าสุดค่ายเพลงบินสูงในฝูงเป็ดแห่งนี้ก็ไม่ได้แค่สร้างสีสันและเปิดซีนใหม่ ๆ ให้วงการเพลงไทยด้วยนักร้องรุ่นใหม่ไฟแรงเท่านั้น แต่เขากำลังจะมีโปรเจกต์เปิดโลกดนตรีในไทยกันอีกครั้ง ในรูปแบบของเทศกาลดนตรีออนไลน์ครั้งแรกของประเทศไทย First Interactive Online Music Festival: Top Hits Thailand

ด้วยความที่ทางค่ายเขากำลังคิดทำการใหญ่ ประจวบเหมาะกับที่ Scrubb เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ในฐานะผู้ผลิตเพลงชาติของด้อมบอยเลิฟ เราจึงบุกไปยังรังเป็ดเพื่อแสดงความยินดีกับกระแส Scrubb ฟีเวอร์ล่าสุด และถามไถ่ถึงลูกบ้าของพี่บอลและทีมงาน What The Duck กับการพาศิลปินนอกค่ายในค่ายกว่าหลายสิบชีวิตมาเจอกับผู้ชมทางบ้านนับพันคน
Soimilk: ยินดีกับกระแส Scrubb ฟีเวอร์ในช่วงที่ผ่านมาด้วย พี่บอลรู้สึกยังไงบ้างที่ตอนนี้เพลงของ Scrubb เหมือนเป็นเพลงชาติของด้อมบอยเลิฟไปแล้ว
พี่บอล: เราก็ดีใจนะ (หัวเราะ) คือเอาจริง ๆ เราเซอร์ไพรส์ที่เพลงเรามันกลายเป็นนิยาย 1 เรื่องได้ ตอนแรกที่ทางทีมงานติดต่อมาว่าอยากได้เพลงของ Scrubb ไปใช้ในซีรีส์ เราก็นึกว่าจะเป็นเพลงประกอบเฉย ๆ แต่เรามารู้ทีหลังว่า JittiRain (ผู้เขียนนิยาย เพราะเรา… คู่กัน ที่นำมาทำเป็น 2GETHER THE SERIES) ที่เป็นผู้แต่งเขาเป็นแฟนเพลงของเรา และใช้เพลงของ Scrubb เป็นแกนในแต่ละตอนของนิยาย เราก็เซอร์ไพรส์แล้วก็ดีใจมากที่งานของเรามันสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดงานอีกชิ้นหนึ่งได้
Soimilk: พี่บอลได้ดูซีรีส์มั้ย
พี่บอล: ได้ดูตอนช่วงกักตัวที่ผ่านมานี่แหละ ปกติวันเสาร์อาทิตย์เราก็จะออกไปเล่นดนตรีหรือไปเจอเพื่อนใช่มั้ย แต่พอออกไปไม่ได้ เราก็หาอะไรดูที่บ้าน ก็เลยได้ดูซีรีส์นี้ด้วย ก็สนุกดีนะ ฝั่งเราน่ะไม่เท่าไหร่ ก็คือเรายังรู้ความเป็นไปว่า เออ กระแสมันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ เมื่อย (ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ) นี่ไม่เก็ตเลย เขายังทำความเข้าใจไม่ได้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นนะ ทำไมคนกลับมาพูดถึงเพลงเก่า ๆ ของเรา เขายังต้องจูนอยู่ (หัวเราะ)
Soimilk: Scrubb ก็ได้แฟนคลับรุ่นเล็กมาเพียบ
พี่บอล: ใช่ คืออายุน้อยสุดที่ทักมาในอินบอกซ์อายุ 14 อะ ก็คือตอนที่เราเริ่มทำเพลง เขายังไม่เกิดเลย แต่อะไรแบบนี้ มันก็ทำให้เราเข้าใจนะว่า เราทำงานของเราไปเถอะ ทำในสิ่งที่เรารัก แล้วก็ตั้งใจเล่ามันออกมา เพราะบางสิ่งที่เราทิ้งไว้ เดี๋ยวช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งมันก็จะไปสัมผัสหรือทัชใครบางคน ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจสร้างงานต่อไป
Soimilk: อย่างเหตุการณ์นี้ก็คือเพลงทำให้เกิดงานเขียน และนำไปสู่ซีรีส์
พี่บอล: ใช่ อย่างเราเองก็โตมากับการได้แรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ที่เขาทำงานมาก่อนเรา แล้วเพลงของเราก็ให้แรงบันดาลใจกับคนเขียน แล้วคนอ่านคนดูก็กลับมาฟังเพลงของเราอีก มันเป็นวงจรที่ดี และเราไม่เคยคาดหวังเลยว่ามันจะไปได้ขนาดนี้ ตอนนี้เราต้องรื้อฟื้นภาษาอังกฤษด้วยเพราะมีแฟนซีรีส์ต่างชาติทักเข้ามาในอินบอกซ์เยอะมาก แล้วซีรีส์ก็พาให้เราได้ไปเล่นดนตรีกับวง Ben & Ben จากฟิลิปปินส์ด้วย (เพลง ทุกอย่าง กลับมาติดชาร์ตที่ฟิลิปปินส์เพราะกระแส #คั่นกู ฟีเวอร์ที่นั่น) คือทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของแรงบันดาลใจและการทำงานที่ดีมาก ๆ
Soimilk: พูดถึงการทำงานของพี่บอลกับเทศกาลดนตรีออนไลน์ Top Hits Thailand มีที่มาที่ไปยังไง
พี่บอล: ก็ต้องบอกตามตรงว่าเริ่มมาจากโควิดนี่แหละ ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมามันทำให้ 'ออนไลน์' เป็นช่องทางเดียวในการสื่อสารระหว่างกัน ธุรกิจบันเทิงก็ไม่ต่างกัน โควิดมันทำให้อะไร ๆ ที่เราคุ้นเคยกลายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ แต่เราก็ไม่อยากนั่งนอนกันเฉย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราต้องปรับตัวและช่วยกันคิด เราเกิดความพยายามที่จะช่วยเหลือคนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับกระทบในแวดวงนี้ทั้งหมด พออิเวนต์มันเกิดไม่ได้ มันไม่ได้มีแค่ศิลปินที่ได้รับผลกระทบ ทุกคนที่เกี่ยวข้องในระบบนี้ได้รับผลกระทบหมด ไม่ว่าจะเป็นออร์แกไนเซอร์ ซัพพลายเออร์ คนดูแลติดตั้งระบบเวที เครื่องเสียง คนขับรถตู้ มันเหมือนว่าพอต้นน้ำแห้ง ทุกคนก็กระทบกันไปหมด เราเลยต้องช่วยกันคิดกันว่าเราจะทำยังไงได้บ้างให้มันรันต่อไปได้
Soimilk: ทางค่ายก็เลยลองเปิดทางด้วย Whal & Dolph Online Market Concert ก่อน
พี่บอล: ใช่ คือเราเป็นค่ายเพลง ธุรกิจของเราคือการมอบความบันเทิงเป็นหลัก เรากับน้อง ๆ ก็มาช่วยกันคิดว่าจะช่วยเหลือคนในอุตสาหกรรมนี้ได้ยังไงบ้าง แล้วเราทำอะไรได้บ้าง รูปแบบที่เราคุ้นเคยก็คือการทำคอนเสิร์ตระดมทุน จับกีตาร์ร้องเพลงง่าย ๆ อะไรอย่างนี้ใช่มั้ย แต่เราอยากให้มันเกิดเป็นความเคลื่อนไหวในวงการ แล้วเราก็มีทีมโปรดักชันคอนเสิร์ตระดับประเทศ H.U.I. ที่เขาก็อยากร่วมด้วย เราก็ช่วยกันคิดว่าจะทำยังให้คนดูเห็นเรา แล้วเราก็เห็นคนดู มันจึงเกิดการโยนไอเดียกันไปมาเหมือนเล่นปิงปอง ฉันมีศิลปิน ฉันมีจอ ฉันมีแอปพลิเคชัน ฉันมีเครื่องมือและสถานที่ พอมันมาถึงขนาดนี้แล้วเราก็ต้องลองดู ทำเลย มันจึงเกิดการลองด้วย Whal & Dolph Online Market Concert ก่อน
Soimilk: จากคอนเสิร์ตเดี่ยว ขยับสเกลขึ้นมาเป็นเทศกาลดนตรีได้ยังไง
พี่บอล: เราได้ประสบการณ์จากงานที่แล้ว แล้วเราก็รู้แล้วว่าเรามีทรัพยากรตรงนี้ เราได้รู้แล้วว่าถึงจะเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์ แต่มันก็ยังมีความสนุก ความบันเทิง คนดูยังตื่นเต้น ที่สำคัญคือเราเผชิญกับปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นมาหมดแล้ว เรามีบทเรียน รู้ว่าต่อไปจะต้องเตรียมตัวยังไง ปัญหาหน้างานน่าจะมีอะไรบ้าง พอผ่านประสบการณ์มาก่อนแล้ว เราเลยลองที่จะไปอีกขั้น น้อง ๆ ในทีมนี่แหละที่เป็นคนเดินเข้ามาพร้อมแผนทั้งหมด ว่าเขาอยากทำอย่างนี้ ๆ นะ แล้วเราก็คุยกันศิลปินว่าเราอยากทำต่ออีกหน่อย
Soimilk: อย่างศิลปินนอกค่าย เราติดต่อหรือชวนเขามายังไง
พี่บอล: คือเราก็เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันนี่แหละ ซึ่งพอโควิดมา เราก็ไม่ได้เจอกัน จากที่ปกติจะเจอกันตามงานหรือเฟสติวัลต่าง ๆ ก็ไม่ได้เจอ ศิลปินบางคนที่เราอยากดูเขาแสดงก็เป็นไปไม่ได้ The Toys นี่ตั้งแต่มีโควิดคือเขาอยู่บ้านเฉย ๆ เลยนะ (หัวเราะ) มันก็เริ่มมาจากตรงนั้น เราคุยกับเพื่อน ๆ พี่น้องในวงการ ทุกคนอยากกลับมาแสดง อยากเล่นดนตรี ไม่มีใครอยากนั่งอยู่เฉย ๆ หรอก ถึงจะได้เพอร์ฟอร์มบ้างจากการเล่นระดมทุน แต่มันก็เป็นแบบคนดูเห็นศิลปินอย่างเดียว มันสื่อสารทางเดียวไง เรายังคิดถึงบรรยากาศในคอนเสิร์ต คิดถึงการได้เห็นหน้า ได้อินเทอร์แอ็กกับผู้ชม ทุกคนก็เลยมาร่วมกันตรงนี้

Soimilk: ทำไมถึงเป็น Top Hits Thailand
พี่บอล: ช่วงที่เราอยู่บ้าน เราก็ฟังเพลงจากสตรีมมิง จาก YouTube และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เราก็สนใจว่าคนส่วนมากช่วงนี้เขาฟังอะไรกัน แล้วถ้าเหตุการณ์เป็นปกติ เขาจะอยากดูศิลปินคนไหนบ้าง จากนั้นเราก็ไปเริ่มติดต่อเพื่อน ๆ น้อง ๆ รอบตัวเรา
Soimilk: Whal & Dolph Online Market Concert ที่ผ่านมาคือใช้ลูกเล่นกับแอปพลิเคชันเยอะมาก คราวนี้ก็ต้องจัดเต็มกว่าเดิมใช่มั้ย
พี่บอล: ใช่ครับ ซึ่งเอาจริง ๆ สถานการณ์แบบนี้มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ นะ คือถ้าสถานการณ์ไม่เป็นแบบนี้ ถ้าเรายังจัดคอนเสิร์ตกันได้แบบปกติ เราก็จะไม่รู้เลยว่ามันมีเทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชันที่สามารถเอามาเล่นในคอนเสิร์ตได้ มันมีฟังก์ชันที่เราสามารถทำให้มือถือของทุกคนในห้องเป็นแสงสีเดียวกัน อะไรแบบนี้ ซึ่งอะไรแบบนี้ก็จะเป็นสิ่งที่เราเอาไปใช้ในคอนเสิร์ตตอนที่สถานการณ์กลับเป็นปกติแล้วด้วย
Soimilk: เห็นว่าคอนเสิร์ตคราวนี้ยิงยาว 6 ชม. เลย จัดเต็มมาก
พี่บอล: เราอยากดึงบรรยากาศตอนไปเฟสติวัลหรือไปคอนเสิร์ตจริง ๆ กลับมา แบบว่าเราต้องเตรียมตัวกับเพื่อนเรานะว่าจะแต่งตัวกันไปยังไง ธีมไหน มีเพลงไหนที่เราต้องฝึกร้องให้เป็น มีกิจกรรมแจกรางวัล ปกติเราไปดูคอนเสิร์ตทีก็ 3-4 ชม. รวมเวลาทั้งนัดเจอเพื่อนอะไรด้วย เราก็อยากให้คนที่มาเฟสติวัลนี้มีประสบการณ์นั้นเหมือนกัน จะเป็นยังไงเดี๋ยวต้องลองดู (ยิ้ม)
Soimilk: คนส่วนใหญ่มักบอกว่าคอนเสิร์ตออนไลน์มันเทียบไม่ได้กับคอนเสิร์ตจริง แล้วพี่บอลคิดว่ามีอะไรที่คอนเสิร์ตออนไลน์ให้ได้ แต่คอนเสิร์ตปกติให้ไม่ได้บ้าง
พี่บอล: เราไม่อยากเปรียบว่าอันนี้ทำได้ อันนั้นทำไม่ได้ คือมันก็จริงที่คอนเสิร์ตออนไลน์มันคงให้ประสบการณ์แบบคอนเสิร์ตที่เราไปเจอหน้ากันจริง ๆ ไม่ได้ มันไม่มีอะไรทดแทนกันได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเรามองในอีกมุมหนึ่ง นี่คือสิ่งชดเชยที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ และอยากให้มองว่ามันคือสิ่งใหม่ที่เราจะได้เรียนรู้ เราจะได้เห็นคนแปรงฟัน ทำกับข้าว วิ่งบนลู่วิ่ง แต่ก็อยู่ในคอนเสิร์ตเดียวกันกับเรา เราจะได้เห็นลูกเล่นใหม่ ๆ ที่เอาไปใช้ในคอนเสิร์ตที่เราจะเจอกันจริง ๆ ได้ ศิลปินอยู่ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ก็สามารถมาจอยได้ เราเซ็นโปสเตอร์ผ่านหน้าจอได้ อยากให้มองในมุมนั้นมากกว่า
Soimilk: คำถามสุดท้าย ช่วงนี้พี่บอลติดฟังเพลงอะไรบ้างคะ
พี่บอล: ไม่เชิงเป็นเพลงเสียทีเดียว คือผมติดฟังก์ชัน Discovery Weekly ใน Spotify มากเลย ที่ทุกวันจันทร์อัลกอริทึมมันจะเลือกเพลงที่ผมน่าจะชอบมากองไว้ให้ ซึ่งผมจะเปิดฟังทุกเช้าตลอดสัปดาห์นั้นเลย แล้วบางทีมันทำให้ผมได้ฟังเพลงที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ฟัง แบบเปิดโลกทางดนตรีมาก ฟังก์ชันนี้มันทำให้ผมได้ฟังเพลงจากประเทศเพื่อนบ้าน จากมาเลเซียหรือฟิลิปปินส์ ทำให้รู้ว่า เออ วงการเพลงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มันก้าวหน้ามากนะ ซึ่งถ้าผมชอบเพลงไหน ผมจะกดใส่มันในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ผมจะมีเพลย์ลิสต์อยู่ 2 อัน คือ Today Me จะเป็นเพลงที่ผมว่าเข้ากับมู้ดของตัวเองในวันนั้น ๆ ส่วนอีกอันหนึ่งคือ Wrong About Forever ที่จะเอาไว้ฟังตอนทำงาน คือชื่อเพลย์ลิสต์อันนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรนะ เพียงแต่เพลงที่ผมแอดเข้าไปเพลงแรกมันชื่อ Wrong About Forever แล้วก็ไม่ได้แก้ (หัวเราะ) ก็ลองไปฟังกันดูได้ครับ

Top Hits Thailand แสดงวันอาทิตย์ที่ 7 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom ซื้อบัตรได้ทาง Ticketmelon ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพจ Whattheduck