Yuenan ร้านอาหารเวียดนามแห่งย่านเมืองเก่าที่เกิดจากการผสมผสานของเรื่องราวและรสชาติหลากวัฒนธรรม

 

Yuenan หรือ เยี่ยหนาน คือชื่อของร้านอาหารเวียดนามแห่งใหม่ล่าสุดของย่านกรุงเทพฯ เมืองเก่า ย่านที่ได้ชื่อว่ายืนหนึ่งสำหรับสายคัลเจอร์และสายชิมที่รักการเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านรสชาติ ซึ่งแม้ว่าเยี่ยหนานจะเสิร์ฟเมนูอาหารเวียดนาม แต่ก็เป็นรสชาติและความเวียดนามในแบบยุคโมเดิร์น ที่ผ่านการผสมผสานรสชาติจากหลากหลายวัฒนธรรม ตามประวัติศาสตร์ของเวียดนามที่เกี่ยวพันกับหลากหลายชนชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฝรั่งเศส หรืออเมริกัน ฯลฯ 

 

 

'เยี่ยหนาน' เป็นคำเรียกประเทศเวียดนามในภาษาจีน การตั้งชื่อร้านที่สะท้อนการผสานของวัฒนธรรมเช่นนี้สะท้อนซิกเนเจอร์หลักของร้านที่เป็นการผสมผสาน หรือ 'ฟิวชั่น' ตามความตั้งใจของ คุณแนน ปิยมน และ คุณแนท ดบฤดี บันทัดทอง 2 พี่น้องที่ตระเวนขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่วเวียดนาม เพื่อซึมซับวัฒธรรมและชิมรสชาติแบบที่คนเวียดนามแท้ ๆ เขากินกัน โดยคุณแนนอธิบายว่า คำว่ารสชาติเวียดนามแท้ ๆ ที่ทั้งสองหลงใหลนั้นไม่ใช่รสชาติโบราณตำรับร้อยปี แต่เป็นรสชาติที่หาได้ทั่วไปตามร้านแผงลอยริมถนน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือสตรีตฟู้ดของเวียดนาม ซึ่งเป็นรสชาติและรูปแบบที่คนเวียดนามทั่วไปคุ้นเคยและกินกันทุกวัน เหมือนที่คนไทยเราคุ้นเคยกับรสชาติของร้านส้มตำข้างทาง หรือร้านอาหารตามสั่งที่ฝากท้องทุกมื้อกลางวันนั่นล่ะ

 

 

และแม้ว่าจะได้แรงบันดาลใจในการคิดเมนูและรสชาติมาจากสตรีตฟู้ดเวียดนาม แต่ทางร้านก็ยังมีการทวิสต์รสชาติอีกชั้นเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมและสร้างรสชาติเฉพาะตัวของทางร้าน ด้วยเหตุนี้ที่เยี่ยหนานจึงเปิดมื้อให้ทุกคนด้วยการเสิร์ฟน้ำอ้อย ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มักเห็นพ่อค้าแม่ค้าคั้นกันสด ๆ ริมถนนในเวียดนาม แต่แทนที่จะเสิร์ฟน้ำอ้อยอย่างเดียว ทางร้านยังเพิ่มกิมมิกที่มาพร้อมกับความสดชื่น นั่นก็คือการวางส้มจี๊ดหั่นซีกข้างแก้ว เสิร์ฟพร้อมกันเพื่อให้เราได้บีบส้มจี๊ดลงไปก่อนดื่ม กลายเป็นเวลคัมดริงก์ที่เรียกทั้งความสดชื่นและเรียกน้ำย่อยไปพร้อม ๆ กัน

 

 

เมื่อพูดถึงอาหารเวียดนาม แน่นอนว่าเมนูที่ต้องสั่งเป็นธรรมเนียมประจำก็คือ ชุดแหนมเนือง (300 บาท) ที่ทางร้านเสิร์ฟหมูย่างเนื้อนุ่มมาแบบท่อนใหญ่ ๆ รูปร่างหน้าตาอาจจะแตกต่างจากแหนมเนืองที่เราคุ้นเคย แต่เป็นความตั้งใจของทางร้านที่จะทำแหนมเนืองแบบที่ยังเคี้ยวกรุบ มีเทกซเจอร์ ไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นลูกชิ้น กิมมิกของเมนูนี้ยังอยู่ที่การแทรกสับปะรดหั่นชิ้นมาในตะกร้าผักแนม เพื่อเพิ่มความหวานฉ่ำตัดกับรสเผ็ดจากพริกในคำที่เราห่อรวมเข้าปาก 

 

 

 

อีกหนึ่งเมนูคุ้นเคยสำหรับมื้ออาหารเวียดนามย่อมหนีไม่พ้น เจ่าโตม หรือ กุ้งพันอ้อย (250 บาท) ที่ทางร้านผสมกุ้งกับหมูใหม่สดทุกวัน และใช้สัดส่วนกุ้งถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องกลัวว่าเคี้ยวไปแล้วจะหากุ้งไม่เจอ 

 

 

สำหรับแฟนหมูยอ ยังไงก็ห้ามพลาดเมนู หมูยอเยี่ยหนาน (190 บาท) ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้าน ไม่เหมือนหมูยอที่ไหน ๆ แน่นอน เราชอบความหนุบหนับของเนื้อหมูยอที่ให้เทกซเจอร์ของหมูแบบเต็ม ๆ คำ ไม่โดนแป้งกลบ แถมรสชาติก็นัวสุด ๆ

 

 

เมนูต่อมาคือ ก่อยก๋วน หรือ ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม (220 บาท) ที่เป็นแป้งบาง ๆ ห่อไส้มาแบบล้นทะลัก ใน 1 เสิร์ฟมี 3 ชิ้น 3 ไส้ด้วยกัน คือกุ้งสด ไข่ และแตงกวาห่อหมูสับ เสิร์ฟมาพร้อมกับทีเด็ดอย่างน้ำจิ้มซอสเนยถั่วที่เพิ่มรสชาติและความกลมกล่อมให้กับทุกไส้ได้อย่างดี 

 

 

อีกหนึ่งเมนูที่เราขอยกใจให้คือ บั๊น แส่ว (220 บาท) หรือ ขนมเบื้องญวน ที่เราคุ้นเคยกันดี จานนี้เขาให้ไส้ข้างในที่ประกอบด้วยกุ้งสด เต้าหู้ ถั่วงอกมาแบบล้น ๆ  ผัดด้วยกันจนรสชาติถึงเครื่อง ตัวแป้งก็บางกรอบเคี้ยวกรุบสุด

 

 

Soimilk Says: ใครที่เป็นแฟนอาหารเวียดนาม เราขอเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด เพราะนอกจากเรื่องราชาติที่เขานำเมนูเวียดนามดั้งเดิมมาเพิ่มกิมมิกและทวิสต์ให้ถูกปากคนไทย เรายังรู้สึกได้ว่าวัตถุดิบทุกอย่างของเขาสดและตั้งใจคัดมาอย่างดีมาก ๆ จนทำให้เด็กกินผักยากอย่างเรายังลุยกินจนแทบเหมาตะกร้า ที่สำคัญคืออาหารจานโตแต่ราคาตะเล้กตะน้อยน่ารักมาก ๆ ชวนแก๊งเพื่อนมาช่วยกันสั่งหลายเมนู รับรองไม่ผิดหวัง!