สายกินดื่มฝั่งธนน่าจะคุ้นเคยกันดีกับชื่อ The 14th Barrel บาร์ขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่ใน ซ.เจริญกรุง 14 ซึ่งนอกจากบรรยากาศความเป็นกันเองเหมือนนั่งสังสรรค์อยู่บ้านเพื่อน และความขึ้นชื่อเรื่องการเป็นบาร์คราฟต์เบียร์ที่มีทั้งคราฟต์ไทยและคราฟต์นอกแล้ว ทีเด็ดที่ร่ำลือกันปากต่อปากก็คืออาหารเมนูฟิวชันรสชาติเด็ดสุด แบบที่แม้จะเป็นบาร์ แต่อาหารก็สุดแสนจะอร่อยจริงจัง

ด้วยเหตุนี้เอง แม้ว่า The 14th Barrel จะปิดตัวลงไปแล้ว แต่เมื่อเราได้ยินว่าทางทีมเขาได้เปลี่ยนหน้าตาของบาร์เพื่อนรักนักกินดื่มในยามกลางคืน มาเป็นร้านกลางวันที่เสิร์ฟเมนูสุดอบอุ่นอย่างราเมน เราจึงไม่ลังเลที่จะขอไปเคาะประตูบ้านใหม่ของ The 14th Barrel ที่ยังตั้งอยู่ที่เดิม แต่เปลี่ยนหน้าตาเป็นร้านกลางวันในชื่อ Shun Ramen ด้วยความเชื่อมั่นในรสชาติของเขาที่ร่ำลือกันมาตั้งแต่สมัยเสิร์ฟเมนูกับแกล้ม!

เบื้องหลังของ Shun Ramen ยังคงเป็นทีมเดิม เพียงแต่เปลี่ยนเมนูความคราฟต์จากคราฟต์เบียร์ มาเป็นคราฟ์ราเมนชามชามพิเศษที่แม้จะมีเมนูให้เลือกไม่มาก แต่ทุกชามอัดแน่นด้วยความตั้งใจและทำใหม่ ๆ ชามต่อชาม จนทำให้ทางร้านเสิร์ฟเพียง 60 ชามต่อวัน เพื่อการันตีคุณภาพและให้เวลาพ่อครัวในการคราฟต์แต่ละชามอย่างตั้งใจ

คุณโฟม พีระวัฒน์ หาญสมบูรณ์เดช พ่อครัวผู้อยู่เบื้องหลังคราฟต์ราเมนชามต่อชามเล่าให้เราฟังว่า จุดเริ่มต้นของการผันหน้าบาร์มาเป็นร้านราเมนนี้ มาจากความชอบกินราเมนเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา คุณโฟมจึงมีเวลาผละจากหน้าบาร์มาศึกษาเรื่องราเมนอย่างจริงจัง ใช้เวลาเกือบ 1 ปี จึงสามารถคิดค้นสูตรที่ลงตัวได้ เลยตัดสินใจเปลี่ยนบาร์มาเป็นร้านราเมนที่ตั้งใจทำทุกส่วนประกอบเอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป หมูชาชู ไปจนถึงตัวเส้นที่มีการสั่งคัสตอมเป็นพิเศษจากร้านที่รู้จักกัน ซึ่งด้วยความที่คุณโฟมมองว่าราเมนหนึ่งชามคืองานปะ ทุกชามที่เสิร์ฟที่ Shun Ramen จึงตั้งใจและใช้เวลาในการค่อย ๆ จัดทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นชามที่ควรค่าแก่การนำไปพรีเซนต์ต่อลูกค้าที่สุด

น้ำซุปที่ Shun Ramen จะยืนพื้นขายประจำอยู่ที่ 3 ตัวด้วยกัน คือซุปกระดูกหมู ซีฟู้ด และซิกเนเจอร์ โดยตัวแรกที่เราได้ลองชิมก็คือ ชิโอะราเมน ราเมนซุปใสรสชาติกินง่าย ไลต์ เหมาะกับสายราเมนแบบดั้งเดิมและคนที่กำลังมองหาเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดอุ่น ๆ กินในวันสบาย ๆ

ชามต่อมาคือ Shun Ramen ซึ่งเป็นตัวซิกเนเจอร์ของทางร้าน ตัวน้ำซุปเป็นซุปทงคัตสึกระดูกหมูเคี่ยวนานเป็นวัน ๆ รสชาติกลมกล่อมและหอมมาก ๆ ไฮไลต์สำหรับเราคือหมูสามชั้นชิ้นหนาแต่นุ่มแบบละลายในปาก (ไม่ได้พูดเล่น) ทำให้รสชาติของทั้งชามลงตัวสุด ๆ อีกหนึ่งสิ่งเล็ก ๆ ที่เราชอบในชามนี้คือไข่ที่ลวกมาได้เยิ้มกำลังดี

ชามสุดท้ายคือ Black Garlic Ramen ราเมนในน้ำซุปเคี่ยวกระดูกหมูที่มีทีเด็ดอยู่ตรงซอสกระเทียมดำรสชาติเข้มข้น และเพิ่มเลเยอร์ให้ชามนี้มีทั้งกลิ่นและรสที่ซับซ้อนมากขึ้น ชามนี้น่าจะเหมาะกับคนที่อยากลองรสชาติที่ต่างไปจากซุปราเมนแบบดั้งเดิม ขอบอกเลยว่าความมันของน้ำซุปที่กลมกล่อมพอดี ไม่มันเลี่ยน เข้ากันได้ดีมาก ๆ กับหมูชาชูชิ้นโตที่มีมันแทรกให้พอชุ่มฉ่ำชุ่มใจ

และหากใครยังคิดถึงรสชาติอาหารจาก The 14th Barrel ที่นี่ก็ยังเสิร์ฟเมนูทีเด็ดขวัญใจลูกค้าประจำเมื่อสมัยยังเป็นบาร์อยู่ นั่นก็คือ เนื้อปิ้งเสียบไม้ เมนูกับแกล้มขึ้นชื่อที่เปลี่ยนมาเสิร์ฟเป็นเมนูทานเคียงกับราเมนชามโปรดที่เราเลือก ทางร้านเลือกใช้เนื้อไทย-เฟรนช์ที่นุ่มกำลังดี และนอกจากรสดั้งเดิมแล้วก็ยังมีอีก 3 รสชาติให้เลือก คือ หม่าล่า ข้าวคั่ว และ พริกไทยดำ เราแนะนำให้สั่งมาลองทุกรสชาติ เพราะเมนูนี้เขาเด็ดทุกรสจริง ๆ
Soimilk Says: ใครที่คิดถึงการไปกินราเมนรสชาติต้นตำรับที่ญี่ปุ่น แต่ช่วงนี้บินไปไม่ได้ เราขอผายมือมาที่ร้านคราฟต์ราเมนแห่งนี้ที่ให้ฟีลและรสชาติ 'ญี่ปุ่นทิพย์' แบบแทบไม่ต่างกัน! เราประทับใจในความตั้งใจรังสรรค์แต่ละชามของพ่อครัวที่แค่ยกมาเสิร์ฟก็เห็นถึงความน่ากินและความบรรจงสร้างแบบสุด ๆ เรื่องรสชาติคือเรายกให้เป็นหนึ่งในร้านราเมนสแตนด์อะโลนที่เด็ดที่สุดในกรุงเทพฯ เลยล่ะ!

Shun Ramen เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) 11:30 - 19:30 น. ซ.เจริญนคร 14 โทร. 085-327-9889 fb.com/shunramenbar