เชื่อว่า เหล่าดีไซน์กี๊กและคนที่ติดตามวงการงานออกแบบในไทยต้องเคยได้ยินชื่อ Trimode Studio (ไตรโหมด สตูดิโอ) สตูดิโอออกแบบและบริษัทตกแต่งภายในที่มีลายเซ็นเป็นความโมเดิร์น เรียบ เท่ โดยเฉพาะการขับเน้น 'ความดิบ' ของวัสดุแบบไม่ปรุงแต่ง เพื่อสร้างความหมายใหม่ผ่านวิถีการดีไซน์นั่นเอง
ฤกษ์งามยามดี ไตรโหมดสตูดิโอ ที่อายุ 15 ปีบริบูรณ์ เขาก็ถือโอกาสย้ายบ้านใหม่ แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล เพียงแต่ขยับจากโลเคชันเดิมที่อยู่ในซอย ออกมาสู่พื้นที่บริเวณต้นซ.เจริญกรุง 82 เสมือนเป็นการเปิดประตูออกไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านมากขึ้น และเปิดรับวิถีชุมชนซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของสตูดิโอเสมอมา จนเกิดเป็นคาเฟ่และพื้นที่แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ที่ชื่อว่า Tangible ที่กำลังเชื้อเชิญให้คนได้เข้ามาทำความรู้จักสตูดิโอแห่งนี้ในพื้นที่กรุ่นกลิ่นกาแฟและการออกแบบภายในที่ 'จับต้องได้' ถึงพลังความสร้างสรรค์ ตามความหมายของชื่อร้าน ซึ่งแค่เดินผ่านประตูลิฟต์ที่ถูกดัดแปลงมาเป็นประตูร้าน ก็พาเราเข้าสู่โหมดเนิร์ดดีไซน์แล้ว

การตกแต่งภายในร้านที่โดดเด่นด้วยการเล่นระดับของพื้น และการโชว์ซิกเนเจอร์ของสตูดิโอแห่งนี้ด้วยเฟอร์นิเจอร์รอว์แมทีเรียล เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดในการตกแต่งสเปซภายใต้คอนเซปต์ Creative Flow ที่เขารวบรวมดีเทลและสิ่งที่จุดประกายความคิดที่พวกเขาพบเจอระหว่างการทำงานออกแบบ มาใส่ไว้ในพื้นที่แห่งนี้ เพื่อให้คนที่เข้ามาใช้พื้นที่ได้เกิดความคิดสร้างสรรค์ระหว่างที่นั่งจิบกาแฟแก้วโปรด

สเปซของ Tangible ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ 'โชว์ของ' ของไตรโหมดสตูดิโอ ที่เขานำผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาออกแบบภายใต้แบรนด์ลูกที่ชื่อว่า Trimode Accessories และผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาพัฒนาร่วมกับชุมชนภายใต้ชื่อ Trimode.C มาวางไว้ให้เราเลือกหยิบชอปกันได้ เช่นเดียวกันไอเทมต่าง ๆ ที่พวกเขาชอบเป็นการส่วนตัว ก็ถูกนำมาวางให้เลือกหยิบตามสไตล์ซีเลกเต็ดชอปเช่นกัน
เดินตามกลิ่นกาแฟหอม ๆ แบบเข้มข้นชัดเจนมาที่พื้นที่ถัดมาซึ่งเป็นส่วนของคาเฟ่ อย่างที่รู้กันดีว่าเครื่องดื่มคู่ใจนักออกแบบก็คงหนีไม่พ้นกาแฟ Tangible จึงถือโอกาสเสิร์ฟกาแฟตามสไตล์และรสชาติที่ชาวไตรโหมดสตูดิโอเขาชอบดื่มกัน ซึ่งก็เป็นที่มาของเมนู Cold Brew (150 บาท) ที่พวกเขาเสิร์ฟ Blend ที่ดื่มกันเองในกลุ่ม ซึ่งได้ Rosetta Coffee Roasters มาช่วยออกแบบกลิ่นและรสชาติ จนได้ออกมาเป็นกาแฟรสชาติเข้ม ๆ ที่ดื่มแล้วต้องตื่น ตื่นทั้งคนทำงาน ตื่นทั้งต่อมความครีเอทีฟ

แต่ถ้าใครอยากได้ความนุ่มนวลลงมาหน่อย เราก็ขอแนะนำให้สั่ง Dirty (100 บาท) แก้วนี้ที่เป็นกาแฟนม 2 เลเยอร์ เสิร์ฟมาแบบไม่ใส่น้ำแข็งเพราะด้านล่างเขาเป็นนมสดเย็นจัดอยู่แล้ว ส่วนด้านบนก็เป็นเอสเปรสโซช็อตเข้ม ๆ ที่รอมารวมตัวกับความนุ่มละมุนของนมเย็นด้านล่าง ดื่มในเวลาสาย ๆ ของวันก็คือสดชื่นไปต่อได้ถึงเลิกงาน
และใช่ว่านักออกแบบเขามีแค่กาแฟเป็นเครื่องชุบชูใจ ทำงานหนัก ๆ ก็ต้องขอแป้งและน้ำตาลมาเติมพลังและปรนเปรอร่างกายตัวเองกันบ้าง ที่นี่เขาจึงมีเมนูของหวานให้เลือกสั่งมาทานคู่กับกาแฟด้วย โดยเมนูประจำร้านและประจำกลุ่มของเขาก็คงหนีไม่พ้น Croffle (85 บาท) ซึ่งดัดแปลงมาจากครัวซองต์ที่ทางกลุ่มชอบทาน แต่เพื่อสร้างความแปลกใหม่ เขาจึงไปเชิญทางร้าน Amatissimo ให้มาช่วยสร้างสรรค์เมนูขนมจานใหม่ กลายเป็นวาฟเฟิลที่ได้สัมผัสความหนุบหนับและความกรอบของครัวซองต์ แต่ถ้าใครรู้สึกว่ายังไม่หวานเยียวยาวันอันเหนื่อยล้าไม่พอ เขาก็มีเมนู Croffle Vanilla (165 บาท) ที่โปะไอศกรีมวานิลลาหอม ๆ สดชื่นมาอีก 1 ลูกโต ให้เราใจละลายไปกับเมนูของหวานจานนี้กันแบบลืมควบคุมแป้งและน้ำตาลไปเลย
แต่ทีเด็ดที่ซ่อนอยู่ในร้านกาแฟลุคเท่ ๆ ดิบ ๆ แห่งนี้ก็คือเจ้าเมนูของหวานจานนี้ Banana Cake with Cheddar Cheese (95 บาท) ที่ทางกลุ่มเขาได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูของว่างที่เขาทานกันบ่อย ๆ ในวัยเด็ก นั่นก็คือกล้วยหอมกับเชดดาร์ชีส จึงเป็นที่มาของเมนูที่นำความทรงจำและความคิดสร้างสรรค์มาบรรจบกัน กลายเป็นเมนูเค้กกล้วยโรยหน้าเชดดาร์ชีสเต็มแน่น ตักทานเรื่อย ๆ ได้เพลิน ๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดจานแล้ว

Soimilk Says: เราว่าเป็นร้านที่เหมาะกับการมานั่งหาแรงบันดาลใจในวันอันเอื่อยเฉื่อยได้เป็นอย่างดี คือแค่ผลักประตูเข้ามาในโลกของเขา โหมดความคิดสร้างสรรค์ก็เทิร์นออนเรียบร้อย และที่เด็ดสุด ๆ สำหรับคนที่โหยหาแรงบันดาลใจนอกที่ทำงานอย่างเรา ก็คือเมนูที่เขาเสิร์ฟทั้งกาแฟและของหวานมันทุกเมนูมันกำลังพอดี ไม่มากเกินไป แบบว่าสั่งมาเป็นเครื่องแกล้มความคิด ให้เป็นเครื่องชูการดื่มด่ำระหว่างหมกมุ่นในไอเดียของตัวเองได้เป็นอย่างดี เอาเป็นว่าฉันเลิฟ
Tangible เปิดบริการทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 10.00 น. - 19.00 น. ซ.เจริญกรุง 82 BTS สะพานตากสิน หรือ MRT หัวลำโพง แล้วเดินต่อ หรือต่อพี่วิน fb.com/Tangiblebkk/