Gradient Toast Cafe ร้านขนมปังปิ้งที่จริงจังกับเมนูง่าย ๆ โดยมีส่วนผสมสำคัญคือ ‘ความใส่ใจ’

 

หนึ่งในเมนูหลังเลิกเรียนในความทรงจำของเราคือขนมปังปิ้ง ที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนนอกจากการนำขนมปังไปปิ้งบนเตาแล้วราดท็อปปิงที่เราเลือก จะราดนม ช็อกโกแลต หรือจะโรยเกล็ดสีรุ้งฟรุ้งฟริ้ง (ที่ไม่ได้มีรสชาติอะไรเลย แต่ก็ต้องโรยอะ) ก็ตามแต่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะจบจากโรงเรียนมาหลายปีแล้ว (แก่นั่นแหละ) แต่ก็ยังแอบคิดถึงรสชาติง่าย ๆ แบบนั้นอยู่ นั่นทำให้เราตาโตทันทีที่ได้รู้ว่ามีร้านคาเฟ่ที่ตั้งใจทำเมนูขนมปังปิ้งมาเปิดอยู่ที่ย่านสามย่าน ในชื่อว่า Gradient Toast Cafe

 

 

Gradient Toast Cafe เป็นคาเฟ่ที่ผสานความทรงจำของ คุณเชอร์รี่ เพชรรัตน์ จารุสกุลอารียกุล ไว้ 2 เรื่อง ความทรงจำแรกคือความทรงจำของการเติบโตขึ้นมาในบ้านที่ทำธุรกิจผลิตเหล็ก ซึ่งก็เป็นห้องแถวติดกับตัวร้านนั่นล่ะ ส่วนอีกความทรงจำหนึ่งก็คือการมี Sweet Tooth หรือเมนูทานเล่นสุดโปรดเป็นขนมปังปิ้ง ความทรงจำทั้งสองผสานกันออกมากลายเป็นร้าน Gradient Toast Cafe โดยที่ชื่อ 'Gradient' มาจากสีที่ไล่เฉดของเหล็กตอนเผาเพื่อขึ้นรูป และถูกนำมาสะท้อนเป็นแนวคิดการตกแต่งร้านด้วยสีส้มซึ่งเป็นสีเหล็กตอนถูกเผาด้วย รวมไปถึงการตกแต่งส่วนต่าง ๆ ในร้านก็มีเหล็กเส้นและโลหะผสมผสานอยู่มากทีเดียว

 

 

ส่วนความทรงจำเรื่องความชื่นชอบในของหวาน โดยเฉพาะขนมปังปิ้ง ก็กลายมาเป็นเมนูหลักของร้าน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเมนูที่ดูทำแสนง่าย แต่คุณเชอร์รี่ก็ตั้งใจทำออกมาให้ยาก ซึ่งเป็นการสนองความขัดใจส่วนตัวที่พบว่าการหาร้านขนมปังปิ้งที่อร่อยจริง ๆ นั้นเป็นไปได้ยากมาก ทำให้ขนมปังปิ้งที่เสิร์ฟที่ Gradient Toast Cafe แม้จะดูเป็นเมนูทำง่ายแสนธรรมดา แต่เบื้องหลังนั้นคือความใส่ใจและความละเมียดละไมในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการใชัอุณหภูมิกับขนมปังในแต่ละเมนูที่แตกต่างกัน และความพิถีพิถันกับการปรุงซอสสำหรับราดที่เป็นสูตรของทางร้านเอง

 

 

เมนูแรกที่ออกจากเตาปิ้งก็คือ ขนมปังปิ้งนมน้ำตาล ที่มาในรูปแบบของขนมปังเสียบไม้ เมนูแสนเรียบง่ายแต่ชวนให้คิดถึงความหลังสมัยวัยหวาน บอกเลยว่านี่คือเมนูที่ประมาทไม่ได้ พอได้ชิมแล้วก็เข้าใจเลยที่ทางร้านใส่ใจกับอุณหภูมิในการปิ้ง ความโดดเด่นของเจ้าตัวนี้ก็คือความกรอบบาง ๆ จากการปิ้งที่เคลือบความนุ่มของแป้งภายในไว้นี่ล่ะ 

 

 

เมนูถัดมาคือเจ้า แคนดี้โทสต์สังขยามะพร้าว ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูขายดีของทางร้าน โดยจะเป็นขนมปังปิ้งหั่นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำกรอบนุ่มกรุบกรับ ทีเด็ดคือซอสสังขยาของทางร้านที่หอมและไม่หวานจนเกินไป โรยเกล็ดมะพร้าวขูดที่ทำให้ยิ่งเคี้ยวเพลินมาก ๆ

 

 

ต่อมาคือ วาฟเฟิลบอลยากิ ที่ความพิเศษอยู่ตรงที่แป้งขนมปังที่ห่อไส้กรอกชิ้นโตไว้ โดยเป็นสูตรพิเศษของทางร้านที่ใช้แป้งวาฟเฟิลฝรั่งเศสมาจับคู่กับน้ำมันรำข้าว ทำให้เมนูนี้เป็นเมนูแป้งที่ไม่ทำร้ายจิตใจคนโนคาร์บมากนัก

 

 

ต่อที่ฮีโร่เมนูของทางร้านนั่นก็คือ โอปันยากิโทสต์ ที่เป็นขนมปังปิ้งในรูปร่างของโอปันยากิ เมนูนี้เห็นตัวเล็ก ๆ แต่ร้ายกาจนัก โดยเฉพาะเจ้าตัวแฮมชีสที่กัดเข้าไปแล้วได้ความหอมและรสชาติของชีสเต็มปาก บวกกับแป้งที่อบมาได้อย่างพอดี รู้ตัวอีกทีก็หมดเกลี้ยง ส่วนเจ้าตัวคลาสสิกที่มาพร้อมกับนูเทลลาดิปก็คือความสุขของการทานเมนูขนมปังปิ้งโดยแท้

 

 

 

นอกจากเมนูขนมปังปิ้งแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มหลายเมนูที่น่าลอง แต่ที่เราประทับใจสุด ๆ ก็คือ อัญชันอินเดอะดาร์ก ที่เป็นชาอัญชันท็อปด้วยช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้นที่สั่งมากินตัดหวานกับกองทัพเมนูขนมได้ดี อีกตัวที่ยกใจให้คือ มิกซ์เบอร์รีสมูตตี้โยเกิร์ต ที่โดดเด่นด้วยตัวโยเกิร์ตซึ่งทางร้านทำเอง ทำให้มีรสชาติเข้มข้นและไม่หวานมาก บวกกับบรรดาเบอร์รีเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ ก็เป็นเมนูเครื่องดื่มที่เพิ่มความสดชื่นได้ดีมาก ๆ

 

 

Soimilk Says: ใครที่ชอบทานเมนูง่าย ๆ แต่หาที่อร่อยโดนใจได้ยาก ก็น่าปักหมุดร้านนี้ไว้เป็นร้านที่น่ามาลองล่ะ ส่วนตัวเราที่บางครั้งก็อยาก Back to Basic หาเมนูหลังเลิกเรียนอย่างขนมปังปิ้งหรือชาเย็นมาทานง่าย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ก็อยากได้ความอร่อยและใส่ใจของคนทำด้วย ก็ต้องขอบอกว่าร้านนี้ตอบโจทย์มากจ้า