ในที่สุดก็ได้ลงโรงในสัปดาห์นี้ซะที สำหรับหนังโชว์ฝีมือการแสดงของ คริสเตน สจ๊วต ผลงานการกำกับของ พาโบล ลาร์เรน (จากเรื่อง Jackie) อย่าง Spencer สเปนเซอร์ ที่บอกเล่าชีวิตของ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ก่อนแยกทางกับ เจ้าชายชาลส์ โดยดำเนินเรื่องในช่วงคริสต์มาส ณ ตำหนักซานดริงแฮมของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ตามราชประเพณี แต่ด้วยความที่ไดอานา 'สุดทน' กับไลฟ์สไตล์แบบนี้แล้วเหลือเกิน ทำให้งานฉลองประจำปีไม่กี่วันกลายเป็นช่วงเวลาที่แสนจะน่าอึดอัด

สำหรับใครที่เคยดู Jackie มาแล้ว ก็คงไม่รู้สึกประหลาดใจกับบรรยากาศในเรื่อง Spencer เท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่าเรื่องสไตล์นี้ เราสามารถสรุปให้ได้ง่าย ๆ ว่าหนังพยายามจะพาคนดู 'ไปลองเป็นไดอานา' ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั่นแหละ หรือก็คือลองไปสัมผัสความรู้สึกท่วมท้นถาโถมจากสิ่งต่าง ๆ ทั้งจากความเจ็บปวดในใจตัวเอง และจากแรงกดดัน ความคาดหวังต่าง ๆ ของคนรอบตัว รวมถึงสถาบันที่คอยควบคุมทุกอย่าง

สิ่งที่ทำให้คนดูอึดอัดยิ่งกว่าสถานการณ์ที่ตัวละครเผชิญและงานภาพงานเสียง ก็คือสภาพจิตใจของตัวละครเอง ที่ก็เข้าใกล้ความสติหลุดยิ่งขึ้นในทุกซีน ซึ่งพาร์ตนี้คนที่ชอบอาจจะอินไปเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบก็อาจจะกลายเป็นไม่อินกับหนังไปเลยก็ได้ แต่ไม่ว่าจะอินไม่อิน ชอบไม่ชอบ เชื่อไม่เชื่อ (ว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังที่เกิดขึ้นจริง) สิ่งที่ต้องยอมรับเลยคือ คริสเตน สจ๊วต ใส่พลังมาเต็มมากจริง ๆ เรียกว่าสาขานำหญิงนี่ 'มงต้องลง' สักเวทีแล้วล่ะ

เราชอบที่หนังพาคนดูไปสำรวจอดีตและอนาคตผ่านสายตาตัวละครอย่างจริงจัง พร้อม ๆ กับที่ตัวละครนี้ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด แต่คำว่า 'ดีที่สุด' นี้หมายถึงดีกับใคร และต้องแลกมาด้วยอะไรบ้างกันแน่นะ? สุดท้ายแล้ว ไดอานา ผู้หญิงที่หวังแค่จะได้รับความรักจากสามี (แต่ไม่ได้รับ) ต้องทำยังไงถึงจะปลดตัวเองออกจากพันธนาการ 'สถาบันครอบครัว' นี้ได้โดยสมบูรณ์สักที?
Spencer สเปนเซอร์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 13 ม.ค.