เชื่อว่าคอหนังสาย chick flick และแฟน ๆ ซีรีส์แนว ๆ Emily in Paris ต้องเล็งเรื่องนี้อยู่บ้างแล้วล่ะ เราเลยจะมาเล่าให้ฟังก่อนว่า Partner Track เส้นทางทนาย มันเกี่ยวกับอะไร นอกเหนือจากว่ามันถูกสร้างจากนิยายขายดีปี 2013 ที่ชื่อเกือบคล้ายกัน The Partner Track โดยทนายตัวจริง เฮเลน วาน ซึ่งเวอร์ชันคนแสดงต่างจากนิยายตรงที่คุณเฮเลนเธอเป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีน ขณะที่ตัวละครเอกของซีรีส์ อิงกริด ยอน เป็นคนอเมริกันเชื้อสายเกาหลี แต่ก็ยังเล่าถึงความเป็นเอเชียนอเมริกันในแวดวงที่ประชากรคนขาว -และคนผิวสีเชื้อสายอื่น(?)- เยอะกว่าอยู่เหมือนเดิม

Partner Track เดินเรื่องโดยตัวละคร อิงกริด สาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีรุ่นแรก และทนายคนแรกในครอบครัว ที่ต้องเผชิญกับบททดสอบและความยากลำบากในการไขว่คว้า 'ความสำเร็จ' ที่เธอหมายตาไว้ ณ สำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงที่สุด หลังจากที่ตัวเธอนั้นทุ่มเททำงานแบบไม่มีวันหยุดมาเลยตลอด 6 ปี โดยเธอเชื่อว่า 'การไม่หยุดนิ่งจะทำให้ชีวิตไม่หยุดนิ่ง' ไปด้วย ก็เลยกลายเป็นว่า ตามนั้นจ้ะ... ไม่ได้หยุดกันเลย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ 'เธอไม่อนุญาตให้ตัวเองหยุด' นั่นแหละ


ความสำเร็จที่เธอต้องการจะคว้ามาให้ได้นี้ บอกใบ้อยู่แล้วตั้งแต่ในชื่อเรื่อง ก็คือการกลายเป็นทนายที่ผลงานดีที่สุด รับงานใหญ่มากที่สุด เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนบริษัทแบบเต็มภาคภูมิ สมอายุ สมอายุงาน สมคุณสมบัติ และสมฐานะ แต่อุปสรรคก็คือเพื่อนร่วมงานที่โพรไฟล์ก็ดีไม่แพ้เธอ แถมยังเป็นผู้ชาย เป็นคนขาว และที่สำคัญคือเธอและเขาคนนี้เคยมี 'ซัมติง' กันด้วยเนี่ย ยิ่งยากจะรับมือเข้าไปใหญ่


จากที่เราจั่วหัวว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานที่คอหนัง chick flick หรือ 'หนังที่สาว ๆ ชอบ' (ในบางจังหวะของชีวิต เราจะเรียกสิ่งนี้ว่า 'หนังวี้ดว้าย' แต่ชาวซอยมิลค์ก็น่าจะพอเข้าใจภาพอยู่ใช่มั้ย?) น่าจะเล็ง ๆ อยู่ เพราะฉะนั้น เนื้อเรื่องมันต้องไปทางโรแมนติกคอเมดี้มากกว่าแน่นอน ใครที่มองหาความซีเรียส จริงจัง สืบต้นคดีหนัก ๆ ขอให้ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลยจ้า แต่ถ้าใครอยากดูสาวเก่ง สาวเริ่ด ต้องมาตกที่นั่งลำบากทั้ง in game และ in love เนี่ย อันนี้ตอบโจทย์แน่นอน ยิ่งใครชอบ Emily in Paris ก็น่าจะเอ็นจอยคอนเทนต์นี้ไม่แพ้กัน
Partner Track เส้นทางทนาย สตรีมครบ 10 ตอนแล้ว ทาง Netflix

