พอเห็นชื่อของ 2 นักแสดง เอมี อดัมส์ และ เกลนน์ โคลส ในโปรเจกต์หนังอิงเรื่องจริงที่ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือขายดี เราก็อยากดู Hillbilly Elegy บันทึกหลังเขา มากขึ้นเป็นกอง ยิ่งได้ผู้กำกับ รอน ฮาวเวิร์ด จาก Apollo 13, A Beautiful Mind, The Da Vinci Code ไตรภาค และ Solo: A Star Wars Story มาเล่าเรื่องแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผลงานนี้ดูพรีเมียมขึ้นไปอีก

Hillbilly Elegy สร้างจากหนังสืออัตชีวประวัติของ เจ.ดี. แวนซ์ อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่หันมาเอาดีทางการเมืองและกฎหมาย โดยได้รับปริญญาบัณฑิตด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยเยล หนึ่งในมหาวิทยาลัยไอวีลีกของประเทศ ท่ามกลางอุปสรรคในชีวิตครอบครัว นั่นก็เพราะพื้นเพ 'หลังเขา' ของเขาที่คอยถ่วงไม่ให้เขาก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพที่เลือกเท่าที่ควร แถมยังต้องมารับมือกับปัญหาที่แม่ของเขาก่อขึ้นเป็นประจำอีกด้วย

ปัญหาที่ทำให้ตัวละครหลักของเราเสียสูญจริง ๆ มาจากการที่พี่สาวโทรตามเขากลับบ้านในวันธรรมดาวันหนึ่ง ไม่ต่างจากการขอความช่วยเหลืออื่น ๆ ติดแค่ตรงที่ตัวเจ.ดี.เองมีสัมภาษณ์งานสำคัญต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ แต่เขาก็ไม่สามารถตัดใจไม่เลือกครอบครัวได้ เพราะปัญหาของแม่ครั้งนี้ดันเป็นการเสพเฮโรอีนเกินขนาด และถ้าเขาไม่กลับไปพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ครั้งหน้าเขาก็อาจจะไม่มีโอกาสได้พบกับแม่อีกแล้ว

เอมี อดัมส์ รับบทคุณแม่ 'หลังเขา' ที่ไม่สามารถเปลี่ยนความรักลูกให้เป็นความรับผิดชอบในฐานะแม่แบบที่ถูกที่ควรได้ ในภาพตัดสลับระหว่างช่วงที่ลูก ๆ ยังเป็นเด็ก และเธอยังเป็นพยาบาล มีหน้าที่การงานดี กับช่วงที่ลูก ๆ เติบโตมีชีวิตของตัวเอง แต่ก็ยังต้องเป็นห่วงเธออยู่ เพราะเธอไม่มีหลักแหล่งอื่นใดให้ยึดเกาะแล้ว

ด้าน เกลนน์ โคลส รับบทคุณยายแสนทรหด ผู้ที่ในทางหนึ่งก็มีส่วนในการส่งต่อ 'ชีวิตเส็งเคร็งของคนหลังเขา' ให้กับลูกหลาน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ส่งต่อ Mindset 'สำนึกรักบ้านเกิด' และแนวคิดที่ว่า 'ครอบครัวสำคัญกว่าทุกสิ่ง' ให้กับหลาน ๆ รวมถึงเจ.ดี.ด้วย

วงจรชีวิตชนชั้นล่างและกับดักทางสังคมในเรื่องมีหลายส่วนที่ซิงก์กับปัญหาในประเทศไทยเราอยู่พอสมควร ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากเปิดใจดูมันจนจบ ทั้งที่นักวิจารณ์ฝั่งฮอลลีวูดหลายสำนักเขาก่นด่าและตัดคะแนนจนเราแทบไม่กล้ากดดู เราเลยคิดว่าคอหนังบ้านเราถ้าได้มีโอกาสชมเสี้ยวหนึ่งของสิ่งที่ Hillbilly Elegy อยากจะเล่าแล้ว ก็น่าจะมีอะไรตกค้างไว้เก็บไปขบคิดอยู่บ้างไม่มากก็น้อยเลยล่ะ
Hillbilly Elegy บันทึกหลังเขา สตรีมทาง Netflix
