ในฐานะคนที่ไม่ค่อยถนัดดูซีรีส์และชอบเสพหนังมากกว่าอย่างเรา ต่อให้ใครจะมาโฆษณาว่าโปรเจกต์ใหม่ของผู้กำกับ พักจุนฮวา จาก What's Wrong with Secretary Kim (김비서가 왜 그럴까) และ Touch Your Heart (진심이 닿다) ที่เป็นบทจากปลายปากกาของพี่น้องตระกูลฮงคนดัง ฮงจองอึน - ฮงมีรัน จาก Hotel Del Luna (호텔 델루나) จะน่าจับตาหรือน่าติดตามขนาดไหนก็ตาม เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากดูผลงานชิ้นนี้มากเป็นพิเศษหรืออะไร แต่พอลองได้ดู Alchemy of Souls เล่นแร่แปรวิญญาณ (환혼) อย่างจริงจังมาได้ 3 - 4 เอพิโซด กลับรู้สึกติดงอมแงมโดยไม่รู้ตัวซะยังงั้น ถือว่าทำออกมาสนุกเลยล่ะ
Alchemy of Souls เล่าเรื่องของ นักซู มือสังหารฝีมือเก่งกาจหาตัวจับยากที่ระหว่างถูกกองทัพผู้ใช้เวทมนตร์ล้อมจับนั้นได้ถอดวิญญาณตัวเองเพื่อหลบหนี และมาติดอยู่ในร่างสาวตาบอดผู้อ่อนแอ ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังหอคณิกาที่รับซื้อเธอมาเพื่อใช้งาน เมื่อวิญญาณของจอมเวทที่มีพลังกล้าแกร่งมาอยู่ในร่างสาวพิการ ความพิการนั้นก็ถูกรักษาหายไปโดยปริยาย และกลายเป็นว่า มูด็อก ก็ไม่ใช่สาวตาบอดอีกต่อไป แต่ทีนี้ปัญหาก็คือร่างกายนี้อ่อนแอมากมาแต่เดิม ทำให้ไม่ว่าวิญญาณที่เคลื่อนย้ายมาสถิตจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถใช้พลังหรือเวทมนตร์ใด ๆ ได้เลย
ที่หอคณิกาที่ว่านั้น นักซูในร่างมูด็อก ได้พบกับ จางอุก คุณชายผู้แสนจะหยิบหย่งที่จากลุคแล้วเหมือนจะเป็นแค่คนเจ้าสำราญคนหนึ่ง โดยบังเอิญ และจางอุกคนนี้นี่แหละที่ขอไถ่ตัวสาว (ที่น่าจะตาบอดแต่ไม่) ตาบอดจากหอคณิกาอีกทอดหนึ่ง ให้ไปเป็นคนรับใช้ประจำตัว แถมยังกลั่นแกล้งลองใจสารพัด เขามีเหตุผลอะไรกันแน่ พาร์ตนี้ผู้กำกับและผู้เขียนบทเลือกจะค่อย ๆ เฉลยให้คนดูรู้ได้ดีมาก โดยที่ก็ไม่ได้ 'กั๊ก' ไว้จนรู้สึกว่า 'ยืด' ซึ่งจังหวะจะโคนแบบนี้นี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกอยากดูต่อ
ความหยิบหย่งไม่เป็นโล้เป็นพายของคาแรกเตอร์จางอุก ความจริงแล้วมาจากการที่เขาเป็นสมาชิกคนเดียวใน 4 ตระกูลผู้ใช้เวทมนตร์ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ จนกลายเป็นตราบาปและบาดแผลในใจตั้งแต่เด็ก ทำให้การเจอกันของเขากับมูด็อกเป็นมากกว่าการเจอกันของนายกับบ่าว แต่ยังเป็นการเจอกันของ 'ผู้อ่อนแอ' ที่สุดท้ายแล้วต้องพึ่งพิงกันและกันอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่นักซูในร่างมูด็อกรู้ก็ดันเป็นสิ่งที่จางอุกอยากจะเรียนรู้ด้วย ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนพัฒนาไปสู่การเป็นศิษย์และอาจารย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (เอ๊ะ หรือหลีกเลี่ยงได้กันนะ?)
ด้วยความซับซ้อนของ 'โลกเวทมนตร์' ฟีลแบบบ้านฮอกวอตส์ รวมกับประวัติศาสตร์ความเป็นมายืดยาวของเมืองสมมุติอย่างอาณาจักร แดโฮ ทำให้ Alchemy of Souls ขึ้นต้นมาออกจะเข้าใจยาก และไม่น่าดึงดูดอยู่นิด ๆ แต่ยิ่งดูไปดูมา กลับรู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดดูมีปมที่ผูกไว้ได้แข็งแรงและน่าเชื่อ ทำให้อยากรู้ต่ออีกเรื่อย ๆ แล้วที่สำคัญมาก ๆ (อย่างน้อยก็สำหรับเรา) คือตัวละครหลักไม่ได้เวิ่นเว้อหรือซื่อบื้อ พร้อม ๆ กับที่การเดินเรื่องก็มีจังหวะกำลังดี ไม่ช้าไม่เร็ว ผสมกันแล้วลงตัวมากจริง ๆ
เรื่องนี้มีตัวละครเยอะ และหลายเจเนอเรชัน แต่ดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าซับซ้อนเกินเข้าใจขนาดนั้น ส่วนตัวเราว่าการทำโปรดักชันงานแสงสี รวมถึงเสื้อผ้าในเฉดซิกเนเจอร์ของแต่ละตัวละคร ช่วยได้มากทีเดียว ยิ่งประกอบกับคอนเซปต์คุณหนู 4 ตระกูล ที่ถูกเปรียบให้เป็น 4 ฤดูกาลด้วยแล้ว งานคอสตูม งานหน้าผม คือสนุกเลยล่ะ ใครที่ชอบซีรีส์พีเรียดดีเทลแน่น ๆ เรื่องนี้น่าจะถูกใจมาก ๆ และแน่นอนว่าคอซีรีส์สายแฟนตาซี ที่มีมู้ดแอ็กชันและคอเมดี้มาแทรกอยู่แบบพอดี ๆ จะต้องชอบและอยากติดตามซีรีส์เรื่องนี้แบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์อยู่แล้ว เราเลยอยากชวนให้ทุกคนมาไขปัญหาการเล่นแร่แปรวิญญาณของ 2 นาย - บ่าว (เอ๊ะ หรือศิษย์ - อาจารย์ กันนะ?) คู่นี้ด้วยกัน สตรีมเอพิโซดใหม่ทุกเสาร์ - อาทิตย์จ้า
Alchemy of Souls เล่นแร่แปรวิญญาณ สตรีมทาง Netflix
