ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการนํานิยาย มังงะ ฯลฯ ของญี่ปุ่นมาสร้างเป็นหนังมากมาย โดยตัวอย่างหนังที่เรารู้จักกันดีก็เช่น Your Name, ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ ฯลฯ จนพูดได้เต็มปากว่าหนังญี่ปุ่นแนวนี้เป็นอีกหนึ่งในกระแสที่กําลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมาล่าสุดกับเรื่อง After The Rain หนังญี่ปุ่นที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดัง ซึ่งมาได้ถูกจังหวะเวลาในช่วงหน้าฝนบ้านเราสุด ๆ นี้ก็เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กําลังนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตัวคุณภาพของหนังที่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวของความรัก แต่ยังแง่มุมดี ๆ อีกมากมายชนิดที่จะทําให้เราได้แง่คิดกว่าแค่เรื่องของความสนุกและความน่ารักของน้อง นานะ โคมัตสึ แน่นอน
อีกทั้งตัวหนังก็ไม่ได้ใส่บรรยากาศของสายฝนเข้ามาแค่ให้ดูโรแมนติกเท่านั้น แต่มันยังสามารถสะท้อนถึงสายฝนที่ตกในใจเราและวิธีรับมือเพื่อให้เราสามารถฝ่าฝันจนได้เห็นแสงแดดที่อบอุ่นอีกครั้งหลังจากมรสุมในใจผ่านพ้นไป หรือใครที่อ่านแล้วก็ยังลังเลอยู่ดีว่าจะไปดูดีไหม เราลองมาร่วมกันมองลงไปที่พาร์ทต่าง ๆ ในหนัง จนอาจจะทําให้เรามั่นใจและรู้สึกอยากไปดูกันมากขึ้นอีกก็ได้นะ
Love

พูดไม่ได้เต็มปากว่านี่คือหนังรัก เพราะมันมีหลายส่วนที่ดีและได้แง่คิดมากกว่านั้น แต่กระนั้นในส่วนพาร์ทของความรักก็ทําได้ดีงามจริง ๆ เพราะความรักในเรื่องนั้นเป็นสิ่งแปลกใหม่และดูน่าสนใจ ด้วยการนําเสนอผ่านมุมของคนสองคน ที่มีความต่างกันทุกด้านไม่ว่าจะเป็นอายุ ความฝัน การใช้ชีวิต ฯลฯ แต่ในท้ายที่สุดแล้วเราก็จะได้ค้นพบว่าความต่างราวกับอยู่คนละโลกของ Akira และ Masami นั้นกลับทําให้ทั้งคู่ได้เยียวยาบาดแผลในใจซึ่งกันและกัน

จนทําให้เราได้ตระหนักว่าบางทีเวลาเราเจอปัญหาบางอย่างในชีวิต การนําตัวเองออกมาจากโลกที่คุ้นเคย แล้วมองย้อนกลับมาในตัวปัญหาของเราจากที่ใหม่ ร่วมกับคนที่ไม่คิดจะตัดสินเราและรับฟังเราแบบเป็นกลาง น่าจะทําให้เห็นมุมองใหม่ ๆ และเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับชีวิตได้ดีขึ้นจริง ๆ เพราะในท้ายที่สุดแล้วเมื่อฝนกับนํ้าตาไหลรวมเป็นสายเดียวกัน เราเพียงขอแค่ใครสักคนที่เรารักมากางร่มให้ในใจเราด้วยความหวังดีและไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน เท่านี้ก็คงเพียงพอจะทําให้เรามีพลังอยู่ไปจนถึงวันที่ฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้งแล้ว
Relationship

ในชีวิตเรานั้นมีความสัมพันธ์มากมายผ่านเข้ามาโดยมีทั้งที่เราอยากจะรักษามันไว้และอยากจะลืม ซึ่งใน After The Rain นั้นตัว Akira ก็พาเราไปร่วมซึมซับถึงปัญหาความสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เธอต้องพบเจอไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนสาวในชมรมวิ่ง แม่ เพื่อนที่ทํางาน ฯลฯ ว่าในบางครั้งเมื่อโลกที่เรารักและทําได้ดีสูญสลายไป อย่างน้อย ๆ ตอนนั้นเราก็จะได้เห็นว่าใครที่รักในตัวตนที่เราเป็นจริง ๆ หรือแค่รักเพราะหน้าตาและความสามารถ อย่าง Haruka เพื่อนสาวในชมรมการวิ่งที่ทําทุกทางเพื่อให้ Akira ได้กลับมามีชีวิตของตัวเองอีกครั้ง แม้ในยามที่ Akira ตีตัวออกห่างและปิดกั้นตัวเองจากทุกคน

หรือแม่ของ Akira ที่เราว่าเธอน่าจะรู้จักตัวลูกสาวของเธอดี จึงเลือกที่จะเฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ อย่างเป็นห่วงแล้วปล่อยให้เธอได้เยียวยาตัวเอง ได้เผชิญปัญหาด้วยตัวเอง ด้วยความเชื่อมั่นเต็มหัวใจว่าสุดท้ายแล้วเธอจะต้องผ่านมันไปได้แน่นอน จนเราจะได้กลับมาระลึกว่าถ้าพวกเราโชคดีได้มีคนแบบ Haruka หรือคุณแม่ของ Akira รวมถึงคนดี ๆ มากมายที่โคจรอยู่รอบ ๆ ตัว Akira นั้นเราจะต้องรักษาพวกเค้าไว้ให้ดีที่สุด รวมถึงตอบแทนพวกเค้าให้มากกว่าที่ได้รับมา
Dream

จะมีกี่คนที่โชคดีได้ใช้ชีวิตตามที่ฝัน เพราะในชีวิตจริงเราบางคนก็มีภาระหน้าที่มีความรับผิดชอบที่โตไปตามวัยต้องทํากันจนลืมเลือนมันไป แต่กับ Akira มันดูร้ายแรงกว่านั้น เพราะเมื่อเธอได้ทําในสิ่งที่รักอย่างการวิ่งที่ทําได้ดีซะด้วย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ดับวูบจากการสูญเสียความสามารถที่จะได้ทําในสิ่งที่รัก ซึ่งนี่น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทําให้เราหลายคนแตกสลายได้มากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งเลยเนอะ ยิ่งสําหรับความฝันที่ต้องใช้ร่างกายแบบนี้ (การวิ่ง) หนทางจะกลับมาทํามันอีกครั้งหลังจากอาการบาดเจ็บก็ดูยากเย็นและชวนท้อจริง ๆ

แต่ในที่สุด Akira ก็ผ่านมันมาได้พร้อมกับส่งสารให้คนดูอย่างเรา ๆ ว่าความโชคดีในการได้เจอและทําในสิ่งที่รักนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของลู่วิ่งแห่งชีวิต สุดท้ายแล้วในระหว่างทางโลกก็จะโยนปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ มาให้เราระหว่างวิ่งตลอดเวลา และเราก็คงจะฝ่าฟันมันไปไม่ได้ทุกครั้ง อาจจะมีผ่านบ้างไม่ผ่านบ้างก็ไม่เป้นไรนะ เพราะในเมื่อมันเป็นความฝันของเราจริง ๆ เป็นสิ่งที่เรารักจริง ๆ ไม่ว่าจะล้มแค่ไหนจะท้อยังไง เราก็ต้องลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อไปอยู่ดี เพียงแต่ขออวยพรให้ระหว่างทางที่วิ่งของทุกคนนั้น ไม่ได้มีแต่ขวากหนามและฝนที่โหมกระหนํ่าอย่างเดียว แต่ยังมีดอกไม้และความอบอุ่นจากคนที่รักแทรกเข้ามาในระหว่างทางด้วยก็เพียงพอแล้ว
