เรื่องความบันเทิงกับคนไทยเนี่ย อย่างไรก็แยกกันไม่ขาด เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ชอบเที่ยวก็อยากจะไปแวะเวียนสักเมือง สักประเทศในช่วงเวลาที่ตอนนั้นเขากำลังมีงานเทศกาล หรืองานประจำปีอยู่ด้วย ได้เที่ยวทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และยังได้ร่วมงานเทศกาลของเมืองนั้น ๆ อีก ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวไปเลย และอีกหนึ่งงานเทศกาลที่มั่นใจได้ว่าไปแล้วจะต้องได้ความสนุกกับมาแน่ ๆ ก็คืองานคาร์นิวัลแห่แหนแบบปิดถนนทั้งเมืองนี่แหละ แต่พอคิดว่าคาร์นิวัลที่ไหนน่าไปบ้างนะ ในสมองเราก็จะคิดออกแต่บราซิล สเปน สหรัฐอเมริกา ซึ่งไกล ๆ ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสได้ไปกับเขาบ้าง แต่ช้าก่อน เพราะที่จริงแล้วประเทศใกล้บ้านเราอย่างอินโดนีเซีย ที่เมืองยอกยาการ์ตา ก็มีงานคาร์นิวัลเหมือนกัน แถมยังเป็นไนท์คาร์นิวัลอีกด้วย ไม่ต้องไปไกลถึงอีกฝั่งของโลกอีกแล้ว !
Yogyakarta Night Carnival ในปี 2018 นี้ถูกจักขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว แม้จะเหมือนว่าเพิ่งมีคาร์นิวัลได้ไม่นาน แต่เราก็รับประกันความยิ่งใหญ่และความบันเทิงให้ได้เลย ทำไมถึงกล้ารับประกันน่ะเหรอ ? ก็เพราะเราได้เดินทางไปร่วมงานนี้ด้วยตัวเองแล้วน่ะสิ ! เราเชื่อว่าหลายคนยังไม่ค่อยรู้จักเมืองยอกยาการ์ตากันนัก พอพูดถึงอินโดนีเซียก็จะคิดถึงแต่บาหลี จาการ์ตา หรือโบรโม ส่วนใครที่รู้จักเมืองยอกยาการ์ตาอยู่แล้วก็คงคิดออกแต่สถานที่ทางศาสนาสำคัญ ๆ อย่างบุโรพุทโธ หรือปรัมบานัน แต่คงยังไม่รู้ล่ะสิว่าเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ก็มีเทศกาลสนุกขนาดนี้ให้เราบินมาเที่ยวอยู่ด้วย
งานนี้มีชื่อเป็นภาษาบาฮาซาว่า Wayang Jogja Night Carnival นับเป็นงานเทศกาลของเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีเลยนะ โดยจะจัดขึ้นทุกวันที่ 7 ต.ค. ของทุกปี ซึ่งถือเป็นเกิดของเมืองยอกยากาตาร์ด้วย งานนี้ได้การท่องเที่ยวยอกยากาตาร์เป็นหัวเรือใหญ่ของงาน โดยเป้นผู้วางคอนเซปต์และประชาสัมพันธ์ในทุกปี ถึงอย่างนั้นเราก็ชอบที่แทบทุกที่ของยอกยากาตาร์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เราจะเห็นธงประดับติดตั้งอยู่ตามหน้าร้านหน้าบ้านต่าง ๆ มากมายเต็มไปหมด สร้างบรรยากาศให้กับเมืองได้อย่างดีทีเดียว ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ครบรอบ 262 ปีของยอกยากาตาร์ด้วย
เช้าวันที่ 7 ต.ค. พอเราตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าถนน Margo Utomo ซึ่งเป็นถนนหลักกลางเมืองของยอกยากาตาร์ถูกล้อมไว้ด้วยแผงเหล็กอย่างเรียบร้อย เรียกว่ามีการเตรียมการสำหรับค่ำคืนนี้เป็นอย่างดี ประมาณเย็น ๆ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ก็เริ่มทำการปิดถนนไม่ให้สัญจร โดยคารฺนิวัลนี้จะปิดถนนกันตั้งแต่ถนน Sudirman, บริเวณวงเวียนอนุเสารีย์ Tugu Jogja และถนน Margo Utomo ซึ่งถือเป็นเส้นกหลางเมืองล้วน ๆ คาร์นิวัลจะเริ่มในเวลา 6 โมงไปจนถึง 6 ทุ่ม (แต่เอาเข้าจริง กว่าจะเริ่มขบวนก็ต้องรอพิธีการจบ ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว) ตั้งแต่สี่ห้าโมงเย็น ประชาชนชาวยอกยากาตาร์ก็จะเริ่มแห่กันออกมาจองพื้นที่ดี ๆ เพื่อให้ได้เห็นขบวนคาร์นิวัลกันอย่างเต็มตา โดยคาร์นิวัลจะถูกขนมาจาก 14 หมู่บ้านทั่วเมืองยอกยากาตาร์ ออกมาแสดงแสนยานุภาพของแต่ละหมู่บ้านกันแบบไม่มีใครยอมใคร บริเวณที่มีู้คนต้องการพื้นที่มากที่สุดหนีไม่พ้นวงเวียน Tugu Jogja เพราะท่านสุลต่านจะมานั่งชมโชว์ที่หัวโค้งนี้ ทำให้ทุกหการแสดงของขบวนต้องมาหยุดแสดงตรงหน้า ใครอยากดูการแสดงแบบเต็ม ๆ ทุกชุด ก็ต้องมาออกันตรงวงเวียนนี่แหละ
ความเก๋อีกอย่างหนึ่งคือที่อนุดสารีย์ Tugu Jogja จะถูก Mapping ด้วยกราฟิกเก๋ ๆ ประกอบงานไปด้วย แถมยังมีแสง สี เสียง ที่อัดแน่นกันมาแบบโอ้โห ไม่ให้อลังการขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าจะยังไงแล้ว นอกจากนี้ขบวนหลัก ๆ ที่แห่มาเป็นเสือ (เอ๊ะ หรือสิงโต) ยังจุดพลุรัว ๆ พุ่งขึ้นฟ้าไปอีก เรียกเสียงเฮฮาและความสนุกสนานจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี ส่วนการตกแต่งขบวนและงานแสดงก็ไม่ต้องกลัวว่าจะออกมาเป้นงานกีฬาสีโรงเรียนหรือเปล่า เพราะงานนี้ทุกหมู่บ้านจะมี 7 ศิลปินมืออาชีพ และทีมครีเอทีฟเข้าไปช่วยคิดและดีไซน์ทั้งโชว์ และขบวนคาร์นิวัลด้วย ดังนั้นถึงแม้งานนี้จะเป็นขบวนแห่ของชาวบ้านทั่วไป แต่ออกมาเก๋ไก๋สู้งานคาร์นิวัลอื่น ๆ ของโลกได้อยู่เหมือนกัน
สุดท้ายเมื่อคาร์นิวัลจบ แต่คนไม่จบ ยอกยากาตาร์ทำสิ่งที่เราไม่คิดว่าแบบนี้ก็ได้เหรอ (นี่ชมอยู่ เพราะชอบมาก ๆ) นั่นคือเขาเอาดีเจมาเปิดแผ่นกลางวงเวียนแห่งนั้น แล้วเปิดให้ประชาชนเข้ามาแดนซ์กับเพลง EDM และอิเล็กทรอนิกส์กันแบบอาร์ซีเอบ้านเรายังต้องชิดซ้าย ! เรียกว่าอยากชวนกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด เข้ามาบันทึกเลยว่านี่อาจเป็นผับกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้นะ
ถึงขั้นนี้แล้ว ต.ค. ปีหน้า ก็อย่าลืมวงปฏิทินเอาไว้ว่า ช่วงวันที่ 7 ต.ค. เราจะลองไปเที่ยวงานคาร์นิวัลที่ยอกยากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซียดูสักครั้ง ขอบอกว่าเดินทางง่าย มีสายการบินให้บริการจากกรุงเทพฯ อยู่หลายแอร์ไลน์ (ส่วนใหญ่ต้องไปต่อเครื่องที่จากาตาร์) เช่น แอร์เอเชีย, การูดา แอร์, หรือการบินไทย
