Err Urban Rustic Thai


ร้านอาหารไทยร่วมสมัย ผลงานจากสองคู่รัก เชฟโบและเชฟ Dylan แห่งร้านอาหารไทยสูตรชาววังชื่อดัง Bo Lan โดยที่ร้าน Err นี้ ทั้ง 2 ตั้งใจตกแต่งร้านให้เป็นสไตล์วินเทจแบบย้อนวันวานกลับไปในยุค 60s ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ ภาชนะจานชาม ไปจนถึงโปสเตอร์บนผนัง ซึ่งการตกแต่งก็สุดจะคอนทราสกับเหล่าเมนูอาหารที่ถูกรังสรรค์ในรูปแบบร่วมสมัย ทำให้เหล่าผู้คนที่เข้ามาแวะเวียน ทานอาหารได้อย่างสบายใจเหมือนอยู่บ้านเพื่อน โดยที่ยังคงรสชาติอาหารไทยสุดล้ำลึกและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ค็อกเทลที่นี่เขายังมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วยนะ
Err Urban Rustic Thai 394/35 ถ.มหาราช เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 11:00-21:00 น. โทร. 02-622-2291
Ha Tien Cafe


คาเฟ่ที่ดึงชื่ออันแท้จริงของท่าเตียนมาประดับเป็นชื่อร้าน ท่าเตียน ก็คือชื่อที่คนไทยเพี้ยนมาจากคำว่า ฮาเตียน นั่นเอง โดยตั้งอยู่ในตึกเก่าอายุนับร้อยปีที่ถูกรีโนเวทในสไตล์คลาสสิก ทั้งการวางเฟอร์นิเจอร์สุดวินเทจ ผนังโทนสีเข้มที่เผยให้เห็นโครงสร้างอิฐแดง แชนเดอเลียไซส์เล็กบนเพดาน และเหล่าสัตว์สตาฟของสะสมที่ประดับประดาอยู่รอบ ๆ ซึ่งร้านแห่งนี้ก็มีพื้นที่ให้เข้าไปสำรวจถึง 3 ชั้น ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศเมืองเก่าเคล้าคลอไปกับขนมหวานและเครื่องดื่มคุณภาพดี
Ha Tien Cafe ซ.ประตูนกยูง ถ.มหาราช (ตรงข้ามที่จอดรถวัดโพธิ์) เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 9:00-20:00 น. (หยุดวันจันทร์) hatiencafebkk โทร.081-302-0651
Blue Whale Cafe


หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาคาเฟ่แห่งนี้ดี เพราะเป็นคาเฟ่ชื่อดังแห่งย่านท่าเตียนที่ใส่ความรักในโทนสีฟ้าลงไปในทุกอณูของตัวร้าน อย่างการตกแต่งพื้นผนังและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ที่เข้ามาแวะเวียนได้ดียิ่งนัก อีกทั้งยังเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ภายในร้านอีกด้วย และในส่วนของขนมนั้นก็มีสีฟ้าเป็นส่วนประกอบ ทั้งเครื่องดื่มอย่าง Butterfly Pea Latte (ร้อน 90 บาท เย็น 120 บาท) ลาเต้ใส่นมอัญชันทานคู่กับโทสต์ชาโคลที่ปาดหน้าด้วยมาสคาโปเนชีส ท็อปด้วยผลบลูเบอร์รี่และราดด้วยซอสคาราเมล (150 บาท) ฟินไปเลยจ้า
Blue Whale Cafe 392/37 ซอยเพ็ญพัฒน์ 1 ถนนมหาราช เวลาทำการ ทุกวัน (ปิดวันพฤหัส) 10:00-20:00 น. โทร. 081-641-4514
Museum Siam

มาแถวสนามไชยยังไงก็ต้องแวะมิวเซียมสยาม เพราะมิวเซียมแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับ MRT สนามไชย ขึ้นบันไดเลื่อนมาก็เจอเลยไม่ต้องเดินหา โดยมิวเซียมแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการจัดอิเวนต์สุดสร้างสรรค์ ตั้งแต่ตลาดนัดสุดฮิปไปจนถึงเทศกาลดนตรี อีกทั้งยังมีโซนพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอความเป็นไทยให้เราเข้าไปสำรวจและเรียนรู้ ค้นหาความหมายของความเป็นไทยผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไป ซึ่งจะมีทั้งโซนที่จัดแสดงถาวร และโซนที่หมุนเวียนการจัดแสดงไปเรื่อย ๆ
มิวเซียมสยาม 4 ถ.สนามไชย เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00 - 18.00 น. โทร.02-225-2777 fb.com/museumsiamfan
Make Me Mango


ใครเป็นมะม่วงเลิฟเวอร์จะต้องมาเยือนที่ร้าน Make me Mango คาเฟ่สีเหลืองสดใสที่ใส่ความรักในมะม่วงลงไปในทุกเมนูของร้าน ตัวร้านมีขนาดกะทัดรัดในอาคาร 3 ชั้น เหมาะกับการนั่งชิมขนมหวานเย็นอย่าง บิงซูมะม่วง (175 บาท) ที่ท็อปด้วยกองทัพชิ้นมะม่วงและไอศกรีมลูกโต หรือใครที่ตั้งเป้าว่ามะม่วงต้องคู่กับข้าวเหนียวเท่านั้น เขาก็มีเมนู Make me Mango (185 บาท) ข้าวเหนียวมะม่วงที่เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมมะม่วง ท็อปด้วยสังขยาและพุดดิ้ง แต่ถ้าใครอยากจัดมื้อหนักเขาก็มีอาหารจานเดี่ยวให้ลองชิมอีกด้วย
Make Me Mango 67 ถ.มหาราช เวลาทำการ ทุกวัน 10:30-20:00 น. โทร. 02-622-0899 www.fb.com/makememango
A Pink Rabbit + Bob


คาเฟ่ลึกลับที่ตั้งอยู่ตรงข้ามพระมหาราชวัง ตัวร้านมีบรรยากาศลึกลับเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของ Alice in Wonderland ทั้งการตกแต่งกำแพงปูนเปลือยที่คงเหลือลักษณะอาคารดั้งเดิมเอาไว้ การวางเฟอร์นิเจอร์แบบรวมมิตรวัฒนธรรมเอเชียและยุโรป ไปจนถึงแสงไฟและผ้าม่านที่สร้างสเน่ห์แสนเย้ายวนน่าเดินสำรวจ และที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นตู้แช่เย็นที่มีเค้กหลากหลายชนิดอัดแน่นกันอยู่ในตู้เดียว ทำเอาสายหวานอย่างเรา ๆ ตาวาวเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังมีเหล่าเครื่องดื่มน่าลิ้มลองอีกด้วย ซึ่งคราฟต์มาจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมทั้งนั้น
A Pink Rabbit + Bob ซ.ท่าเตียน ถ.มหาราชวัง ตรงข้ามวัดโพธิ์ เวลาทำการ ทุกวัน 09:00-20:00 น. โทร. 06-2639-8880 www.fb.com/apinkrabbitandbob
Farm to Table Hide Out


อีกหนึ่งคาเฟ่ที่รีโนเวทมาจากบ้านเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 โดยร้านนี้ถือเป็นสาขาที่ 2 ของ Farm to Table ซึ่งสาขาแรกก็อยู่ใกล้ ๆ แค่ปากซอยเอง แต่สาขา Hide Out นี้กว้างขวางกว่ามาก และล้อมรอบไปด้วยต้นไม้แสนร่มรื่น อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศแสนอบอุ่นด้วยการตกแต่งสไตล์รัสติกร่วมสมัย โดยจะมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้และการตกแต่งที่เน้นไปในโทนสีขาว และในส่วนของเมนูคาวหวานเขาก็จะเน้นไปทางฝั่งยุโรปผสมผสานกับสไตล์ไทยที่เราขอรับประกันในความสดใหม่และรสชาติ
Farm to Table Hide Out 15 ซ.ท่ากลาง เวลาทำการ ทุกวัน 10:00-22:00 โทร. 02-004-8771
Supanniga x Roots


มาย่านเมืองเก่าทั้งทีก็ต้องหาอาหารไทยทานแล้วล่ะ Supanniga ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่เลื่องชื่อในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งความเด็ดของที่นี่ก็คือการยกสูตรต้นตำรับคุณยายจากจังหวัดตราดและขอนแก่นมาไว้ที่กรุงเทพฯ โดยสาขา Supanniga x Roots นี้เปิดเป็นสาขาที่ 3 แล้ว และเขาได้ร่วมมือกับ Roots โรสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟมาดูแลและสร้างสรรค์เมนูกาแฟสุดพิเศษให้สาขานี้โดยเฉพาะ และในส่วนของค็อกเทลก็ได้ทีมมิกโซโลจิสต์จาก Vesper มารังสรรค์ให้อีกด้วย
Supanniga x Roots 392/25-26 ถ.มหาราช สุดซอยเพ็ญพัฒน์ 1 ท่าเตียน เวลาทำการ ทุกวัน 11.30-22.30 น. โทร. 02-015-4224
Above Riva

ถ้าจะหามุมถ่ายรูปแถวสนามไชยที่สามารถเก็บวิวได้ทุกแลนด์มาร์คแถวนี้ก็ต้องมาแวะที่ Above Riva เลย ร้านอาหารบนดาดฟ้าโรงแรม Riva Arun ที่สามารถชมวิวและซึมซับบรรยากาศริมน้ำได้แบบ 360 องศา ถ้าวันไหนฟ้าโปร่งจะเห็นวิวได้ไกลถึงวัดพระแก้วเชียวนะ โดยเมนูของทึ่นี่ก็จะเน้นไปที่อาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น นอกจากนี้ยังมีบาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มดี ๆ ทั้งค็อกเทล เบียร์ วิสกี้ ไปจนถึงเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอลล์อย่าง ม็อกเทล น้ำผลไม้ สมูทตี้ ชาและกาแฟ ครบเครื่องสุด!
Above Riva 392/25-26 ถ.มหาราช เวลาทำการ ทุกวัน 6:30-23:00 น. โทร. 02-221-1188
Sala Rattanakosin

และสถานที่แห่งสุดท้าย ก็คือโรงแรม ศาลารัตนโกสินทร์ โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวงาม ๆ ของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ภายในโรงแรมมีทั้งห้องอาหารและรูฟท็อปบาร์ให้นั่งชิลล์ตั้งแต่ยามเย็นยันยามค่ำ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพาคนพิเศษมานั่งดินเนอร์ซักคืน เพราะราคาอาหารของที่นี่ก็ไม่ได้สูงฉลิ่วจนเงินในกระเป๋าเอื้อมไม่ถึง อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มดี ๆ ให้จิบเคล้าคลอบรรยากาศริมน้ำอีกด้วย เป็นโลเคชันริมน้ำที่เพอเฟกต์สุด ๆ
ศาลารัตนโกสินทร์ 39 ซ.ท่าเตียน ถ.มหาราช โทร. 02-622-1388