ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้มาเยือน Glowfish กันบ้างแล้ว เนื่องด้วยที่นี่กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เกิดกิจกรรม อิเวนต์ต่าง ๆ อย่างมากมายตลอดมาตั้งแต่ถือกำเนิด ไม่ว่าจะเป็น งานเสวนา งานดนตรี จัดแสดงศิลปะหรืองานปาร์ตี้ต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากพื้นที่สร้างสรรค์แล้วที่นี่ยังมี Glowfish Dining Hall ซึ่งเป็นอีกส่วนที่รวบรวมร้านอาหาร เครื่องดื่มไว้บริการให้ทุกคนด้วย ใครอยากรู้ว่ามีร้านอะไรน่าสนใจสามารถติดตามอ่านได้ที่ www.soimilk.com/city-living/news/5-in-restaurants-glowfish-dinning-hall และในวันนี้ Glowfish Dining Hall มี 3 สิ่งใหม่สุด ๆ ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกัน


Mahanakhon


Mahanakhon หรือ ชื่อไทยทับศัพท์ก็คือ มหานคร เป็นคราฟต์เบียร์ไทยขึ้นชื่อติดอันดับที่นักดื่มเบียร์ชาวไทยต้องเคยผ่านปาก มหานครนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2015 เจ้าของผู้เริ่มต้นแบรนด์อย่าง คุณแทนทอง ธรรมวัฒนะ เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ผู้เคยผ่านวิชาจากคุณครูลำดับต้น ๆ ของการผลิตคราฟต์เบียร์บ้านเราชื่อว่า ชิดเบียร์ เจ้าของแบรนด์เริ่มพัฒนาสูตรเรื่อยมาจนได้ชื่อของ มหานคร ด้วยเหตุผลที่เป็นคนกรุงเทพฯ และชื่อนี้ก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับบ้านเกิดและเป็นชื่อที่จำง่ายและนึกออกได้ไม่ยาก มหานครเป็นเบียร์ที่โดดเด่นด้วยความเป็น White Ale เพราะว่านี่เป็น Wheat Beer ซึ่งคนไทยน่าจะชื่นชอบคุ้นเคยและดื่มง่าย


มหานครเป็นเบียร์สไตล์เบลเยี่ยมแต่เป็นลูกครึ่งอเมริกันเพราะใช้อเมริกันเอลยีสในการปรุงรสชาติ ส่วนผสมพิเศษที่ใส่ข้าวโอ๊ตและอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนอาจจะต้องสงสัยเพราะยังมีส่วนผสมของลูกเดือยที่เราพบได้ในน้ำเต้าหู้ด้วยนะ แต่เจ้าวัตถุดิบชนิดนี้นี่แหละที่ได้รับฉายาว่าเป็น พืชพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้รสชาติของเบียร์ยี่ห้อนี้มีเสน่ห์บางอย่างที่จับต้องได้ อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ใครลองดื่มมหานครจะได้เจอกับรสชาติของส้มที่ส่งกลิ่นเตะจมูกตั้งแต่เปิดกระป๋องป๊อกแรก แบรนด์นี้เลือกใช้ส้มสดมาเป็นส่วนผสม เพราะฉะนั้นส้มอาจมีรสชาติที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลในบางกระป๋องถือเป็นกิมมิกเล็ก ๆ ที่สร้างความพิเศษได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อแท้ของเบียร์ชนิดนี้ยังคงหนักแน่นคงเดิมไม่เปลี่ยนไป


สำหรับแบรนด์นี้ยังมี Sivilai หรือศิวิไลซ์ ซึ่งเป็นเบียร์อีกรุ่นของมหานคร ยืนเอกลักษณ์ให้ต่างจากความตั้งใจทำให้เป็นเบียร์ประเภท ลาเกอร์ เพื่อแยกประเภทกันไปเลย ระหว่าง มหานครและศิวิไลซ์ กระป๋องสีขาวทองผ่องอำไพ เข้มข้นด้วยรสชาติของมอลต์กลมกล่อมที่มีอโรมาและความขมของฮอปส์ปนเปกลมกลืน สำหรับใน Glowfish Dining Hall แห่งนี้ มหานครทำการเปิดป๊อปอัปบาร์เป็นที่แรกเลยทีเดียวใน Glowfish Dining Hall สำหรับคอคราฟต์เบียร์ไทยแล้ว ต้องไม่พลาด!!
Mahanakhon เวลาทำการ 17:00 - 21:00 น. (นั่งได้ยาว ๆ จน Glow Fish ปิด)
Shari Shari


Shari Shari เป็นร้านอาหารกินง่ายที่เพิ่งย้ายจากสีลมคอมเพล็กซ์มาหมาด ๆ ชื่อร้านเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายถึงข้าวที่ผสมกับน้ำส้มสายชูจนกลายเป็นข้าวแบบซูชิของญี่ปุ่น มีลักลักษณะคล้ายเกล็ดหิมะปุยสีขาว ๆ ที่ตั้งชื่อเช่นนี้ก็เพราะมองว่า ซูชินั้นมีข้าวเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญ ทำให้มองเห็นว่าร้านอาหารแบรนด์นี้มีความใส่ใจในรายละเอียดและวัตถุดิบเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นอย่างมาก แบรนด์นี้ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปเจอ ซูชิเบอร์ริโต้ซึ่งอยู่ที่ฝั่งอเมริกา เมื่อแรกเห็นจึงรู้สึกประทับใจกับคอนเซปต์ของอาหารชนิดนี้มาก ๆ หลังกลับมาไทยทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในร้านจึงแลกเปลี่ยนไอเดีย ความคิดเห็นกันถึงการพัฒนาอาหารและรสชาติในแบบฉบับของพวกเขา


ต้องบอกว่าเบอร์ริโต้เวอร์ชันต้นฉบับทางฝั่งอเมริกาจะมีรสชาติจืด เน้นผักเยอะ ๆ และอาศัยเติมโชยุเพิ่มกลิ่น แต่ความแตกต่างของซูชิเบอร์ริโต้แบบ Shari Shari จะเด่นดีในส่วนของเครื่องปรุงรสด้วยตัวซอสที่มีเสน่ห์แบบที่ทางร้านคิดค้นขึ้นที่นี่ผลิตขึ้นด้วยวิธีการแบบโฮมเมดทั้งหมด ดังนั้นจึงแทบจะไม่ต้องเติมโชยุเพิ่มรสชาติใด ๆ เลย ตั้งใจนำเสนอให้ถูกปากกับคนไทยที่ชอบกินอะไรแบบรสเผ็ด เข้มข้น จัดจ้าน โดยเฉพาะถือเป็นอาหารฟิวชันระหว่างซูชิและเบอร์ริโต้ประเภทจานด่วน ใครอยากกินอะไร สั่งแบบไหนก็ได้เพียงแค่นำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ต้องการยัดรวมเข้าไปในโรลก็สามารถอิ่มอร่อยได้แล้ว จะว่าไปแล้วอาหารประเภทนี้ก็ดูจะเหมาะกับสายรักสุภาพที่เน้นกินน้อยอิ่มนาน กินผัก ไร้ไขมัน อะไรทำนองนี้ด้วย


เมนูขายดีของที่ร้านอย่าง Salmon BLT (135/240 บาท) นำเสนอให้ออกมาในรูปแบบตามความนิยมของคนไทยที่ชอบกินแซลม่อนดิบกับซูชิ ทำให้เมนูนี้มีแซลม่อนที่นำมาผสมกับเบค่อนย่าง และเติมเต็มด้วยอโวคาโด ไข่กุ้ง บัตเตอร์เฮด และผักยอดฮิตของคนเมืองอย่าง กะหล่าปลีกับมะเขือเทศมาเป็นเครื่องเคียงอีกด้วย หรืออีกเมนูสำหรับสายบู้กินหนักต้องอย่าพลาดกับเมนูชื่อว่า Korean Fried Chicken (90/160 บาท) ไก่ทอดเกาหลีนำมาผสมกับกิมจิ และมีไชเถ้าดองของเกาหลีหั่นชิ้นผสมเข้าไป ราดด้วยซอสเกาหลีเข้มข้น นอกจากตัวเบอร์ริโต้ชนิดโรลแล้ว ร้านยังนำเสนอเบอร์ริโต้ที่กลายร่างมาเป็นชนิด Poke Bowl ด้วย ได้ส่วนผสมของปลาดิบชนิดต่าง ๆ ที่นำมาคลุกเคล้ากับซอส สามารถเติมเต็มด้วยท็อปปิงต่าง ๆ เพื่อเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อาจจะไม่ถนัดกินอะไรที่ต้องเลอะเทอะ คุณสุขุม ศรีสุวรรณกรณ์ เจ้าของร้านซึ่งเรียนจบด้านอาหารมาจาก Le Cordon Bleu แม้จะจบมาจากฝรั่งเศส แต่เหตุที่มาเลือกธุรกิจอย่าง Shari Shari เพราะตนมองว่า อาหารก็คืออาหาร ไม่ว่าจะประเทศไหนก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน อาจนำหลากหลายเทคนิค วิธีการ หรือ เครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ได้รับมาผสมผสานรวมกันทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ได้
Shari Shari เวลาทำการ 10:00 - 20:30 น.
Coda


เริ่มต้นจาก คุณปรินท์ สารสิน ซึ่งทำงานอยู่ที่ Glow Fish อยากจะทำให้พื้นที่ว่างได้เกิดประโยชน์สูงสุด และมองเห็นว่าคนทำงานในละแวกนี้หลายคน หลายกลุ่ม ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา จะมีการรวมวงเล่นดนตรีกันอยู่มากและอาจหาห้องซ้อมดนตรีกันยาก แต่หากจะริเริ่มสร้างห้องซ้อมด้วยตัวเองอาจจะไม่สมบูรณ์ตามที่คิด จึงชักชวนเพื่อนอย่าง คุณขจัดภัย กาญจนาภา ซึ่งเป็นมือกีตาร์ที่รู้จักกันดีเพราะเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกจากวงร็อกชื่อดังแห่งยุค Paradox เหมือนทุกอย่างเป็นใจเมื่อทั้งสองคนต่างมีไอเดียที่เห็นพ้องต้องกัน ห้องซ้อมดนตรีชื่อ Coda จึงดำเนินกิจการ


สำหรับห้องซ้อมแห่งนี้พวกเขามีความตั้งใจอยากสร้างrพื้นที่ให้นักดนตรีทั้งมืออาชีพหรือสมัครเล่นได้มารับประสบการณ์สุดพิเศษเพราะ Coda มีระบบรองรับที่สามารถแยกแทร็กได้เลย การได้ฟังซาวนด์ที่ดีจากการได้ซ้อมแบบใช้เอียร์มอนิเตอร์จำลองสถานการณ์บนเวทีที่การเล่นแบบมืออาชีพจะต้องได้เจอ น่าจะแปลกใหม่และได้ประโยชน์ต่อตัวผู้เล่นโดยตรงจริง ๆ หรือใครจะมาซ้อมแบบขยายเสียงออกลำโพงสถานที่นี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน


Coda ยังมีระบบที่สามารถทำการ Live Streaming ถ่ายทอดกันออกไปให้เพื่อน ๆ หรือ แฟนเพลงได้ติดตามสด ๆ ผ่านสื่อโซเชียลก็ยังทำได้ หรือ ใครอยากทำ Live Session สวย ๆ ก็ตอบโจทย์ ทั้งยังสามารถอัดเดโมแยกแทร็กกันเพื่อเป็นไกด์ไปอัดในสตูดิโอต่อไปก็สบาย ห้องเปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 น. และคิดว่านักดนตรีทุกคนจะต้องชอบเพราะ ช่วงเวลาปิดทำการบอกได้เลยว่า แล้วแต่ เราจะพอใจออกจากห้องได้เลย โอ้ววโหวว!! สำหรับเครื่องดนตรีที่วางเรียงรายอยู่ในห้องซ้อมแห่งนี้นั้นต้องบอกว่าเป็นระดับพรีเมียมมาก ๆ ชนิดที่ว่า บางอุปกรณ์อาจจะเป็นสิ่งที่นักดนตรีหลายคนอยากจะได้สัมผัสเพราะมันหาเล่นยากเอามาก ๆ เลยนะ รวมถึงบางส่วนก็เป็นสมบัติของคุณบิ๊กเองที่เคยใช้งานผ่านเวทีคอนเสิร์ตมาแล้ว ส่วนอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากห้องซ้อม เราคิดว่าการเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวกสบาย ในห้องกว้างขวาง มีเกมให้มัน มีแผ่นเสียงให้ฟัง โซฟามีให้นั่งเล่น ทั้งยังมีรถไฟฟ้า มีสถานที่จอดรถ มีห้องน้ำพร้อม มีร้านอาหาร เครื่องดื่มต่าง ๆ ไว้ให้บริการครบจบแบบนี้ได้ใจแน่นอน
Coda เวลาทำการ 11:00 เป็นต้นไป