จะปิดปีกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็หมายความว่าต้องหาแพลนฟ้าจะบินสำหรับปีหน้ากันแล้วรึเปล่า? สายอาร์ตและสายคัลเจอร์ทั้งหลายรู้ไหมว่า ตลอดปี 2019 ที่ผ่านมา มีมิวเซียมและแกลเลอรีน้องใหม่ทั่วโลก ผุดขึ้นมาให้เราต้องจัดตาราง หาวันลา เก็บกระเป๋า บินลัดฟ้าไปเก็บแต้มขึ้นมาพรึ่บ ซึ่งเราลองไปส่องสำรวจมาแล้วก็พบว่า แต่ละที่นี่นอกจากงานข้างในของเขาจะน่าสนใจแล้ว ตัวตึกข้างนอก รวมถึงสถาปัตยกรรมภายในก็ถูกออกแบบมาสวยงาม ชนิดที่ว่าเป็นงานศิลปะอีกชิ้นของที่นั้นเลย แค่ไปเดินชมเดินถ่ายรูปอย่างเดียวก็น่าจะหมดเวลาไปหนึ่งวันละ
เงินน่ะมีมั้ยไม่รู้ แต่ไปดูไปปักหมุด 10 ที่ที่เราคัดมาไว้ให้ดูก่อนเลย
National Museum of Qatar เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์


ถ้าได้มีโอกาสได้ไปเยือนไข่มุกแห่งเปอร์เซียแห่งนี้ ก็อย่าลืมแวะไปเดินเล่นเดินหลงในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศเขาที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากใช้เวลาสร้างยาวนานเกือบหนึ่งทศวรรษ ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นมาล้อมรอบพระราชวังเก่าแก่ต้นยุคศตวรรษที่ 20 ของ ชีค อับดุลลาห์ บิน ยาสซิม อัล ธานี กษัตริย์องค์แรกของกาตาร์ บนพื้นที่กว่า 52,000 ตร.ม. และได้สถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อดังแห่งยุค ฌ็อง นูแวล เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งรูปแบบตัวอาคารที่เห็นเป็นชั้น ๆ นี้ สถาปนิกเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากการก่อตัวของแร่หินในทะเลทรายที่ชื่อว่า “กุหลาบทะเลทราย” ภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของประเทศตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงยุคความรุ่งเรืองของศิลปะร่วมสมัยใหม่ในกาตาร์ในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาตาร์เขาเพิ่ง
The Twist, The Kistefos Museum, เมืองยาฟเนเคอร์ ประเทศนอร์เวย์


อาจจะไม่ใช่แกลเลอรีขนาดใหญ่ที่รวมงานศิลป์ไว้มากมาย แต่ความพิเศษของแกลเลอรีแห่งนี้ก็คือ นอกจากจะเป็นพื้นที่แสดงผลงานศิลปะแล้ว มันยังทำหน้าที่เป็นทั้งงานประติมากรรมและสะพานข้ามแม่น้ำในพื้นที่สวนศิลปะหรือ “Sculpture Park” ของ คริสเตน สวีส์ นักธุรกิจและนักสะสมงานศิลปะชื่อดังของโลก ซึ่งในสวนนี้นอกจากจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์และออฟฟิศของสวีส์แล้ว ยังถูกประดับประดาไปด้วยคอลเลกชันผลงานของศิลปินชื่อก้องอย่าง อนิช กาปูร์, โอลาเฟอร์ เอเลียสสัน และ เฟอร์นานโด โบเตโร ซึ่งผู้ที่มาเยี่ยนเยือนแกลเลอรีแห่งนี้ก็สามารถชื่นชมความงดงามของงานศิลปะและวิวแม่น้ำทั้งสองฝั่งได้ แล้วจะได้ไปชมงานศิลป์ล้ำค่าในสวนศิลป์ต่อก็ย่อมได้
Odunpazari Modern Museum, เมืองเอสกิซีเฮียร์, ประเทศตุรกี


เพราะประวัติของเมืองที่เป็นแหล่งค้าไม้อันยิ่งใหญ่ของประเทศตุรกี เมื่อจะมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่บอกเล่าเรื่องราวของเมือง สถาปนิกที่จะมาดูแลการสร้างพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ในเมืองนี้ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เก็งโกะ คุมะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างตึกจากไม้และธรรมชาติ ซึ่งเขาก็ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างและตกแต่งภายใน ทั้งยังสื่อถึงความเป็นธรรมชาติด้วยการติดตั้งหลังคากระจกสกายไลต์ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่ได้ตลอดเวลา ส่วนภายในอาคารก็จะจัดแสดงคอลเลกชันของนักสะสมงานศิลปะ เอรอล ทาบันคา กว่า 1,000 ชิ้น และยังเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนด้วย
Aranya Art Center, เมืองฉินหวงเต่า, ประเทศจีน


Aranya Art Center เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ใน Gold Coast รีสอร์ตริมทะเลของประเทศจีน ตัวสถาปัตยกรรมภายนอกออกสร้างจากวัสดุที่เป็นอิฐบล็อกเรียงต่อกันแน่น เพื่อสื่อถึงความมั่นคงถาวรแม้กาลเวลาหรือสภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังเปิดช่องว่างเรียงตัวให้แสงลอดเข้ามาภายในพื้นที่ได้ ภายในประกอบด้วยพื้นที่แกลเลอรี 5 ห้อง และยังเป็นพื้นที่ที่ประชาชนคนท้องถิ่นของเมืองสามารถมาใช้พบปะกันได้ด้วย
Bauhaus Museum Dessau, เมืองเดสเซา, ประเทศเยอรมนี


เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งโรงเรียนศิลปะและสถาปัตยกรรม Bauhaus ที่กลายเป็นพื้นที่บ่มเพาะศิลปินและสถาปนิกที่ช่วยกันสร้างสรรค์ยุคสมัยแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ทางเมืองเดสเซาที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียน Bauhaus เปิดทำการในช่วงปี ค.ศ.1925-1932 จึงได้เปิดทำการพิพิธภัณธ์ Bauhaus แห่งเมืองเดสเซา พื้นที่จัดแสดงจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน และอาคารรูปทรงกล่องสีดำที่ดูเหมือนลอยอยู่ในอากาศ จัดแสดงงานศิลปะและไอเทมต่าง ๆ จากยุคศิลปะ Bauhaus ไว้ครบครัน บนพื้นที่ทั้งสิ้น 5,500 ตร.ม.
The Shed, นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา


อาคารจัดแสดงงานศิลปะความสูง 8 ชั้นแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ฮัดสันยาร์ด จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือหลังคาโพลีเมอร์โปร่งแสงที่สามารถเลื่อนออกมาคลุมพื้นที่บริเวณพิพิธภัณฑ์ได้ทั้งหมด นอกจากนี้พื้นที่กว้างขวางเป็นทางยาว 80 เมตร ภายใน ยังสามารถรองรับการจัดแสดงงานของศิลปินหลายคนพร้อม ๆ กันได้ สอดคล้องกับทิศทางของศิลปะร่วมสมัยในนิวยอร์กในยุคปัจจุบันที่มีการใช้สื่อผสมและรูปแบบการทำงานศิลปะที่หลากหลาย พื้นที่จัดแสดงงานโปร่งโล่งแห่งนี้จึงสามารถรองรับได้ทั้งการแสดงศิลปะแนววิชวลอาร์ต, เพอร์ฟอร์มิงอาร์ต, การเต้น, ละครเวที และการแสดงดนตรี
Zhejiang Museum of Natural History, มณฑลเจ้อเจียง, ประเทศจีน


พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมณฑลเจ้อเจียงแห่งนี้เพิ่งเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อาคารสีแดงขนาดมหึมาแห่งนี้ถูกออกแบบมาให้มีสีสันกลมกลืนกับสีสันในธรรมชาติแวดล้อมของตัวอาคาร โดยเฉพาะสีของดินแดงในพื้นที่ ทั้งยังประกอบด้วยพาวิลเลียนจัดแสดงนิทรรศการ 8 อาคารแยกส่วนกัน ที่จะรองรับการจัดงานใหญ่ ๆ ในอนาคต บริเวณของตัวอาคารยังถูกออกแบบมาให้ลาดไปตามแนวสโลปของพื้นที่เนินเขาที่เป็นที่ตั้ง
Jishou Art Museum, เมืองจี๋โส่ว มณฑลหูหนาน, ประเทศจีน


ยังอยู่กันที่ประเทศจีน ถ้าการไปเยือนแกลเลอรีสะพานบิดของนอร์เวย์ด้านบนเป็นเรื่องยากเกินกำลังกายและกำลังทรัพย์ไปสักนิด ที่บ้านพี่เมืองน้องใกล้ ๆ เราอย่างประเทศจีนเขาก็มีสะพานบิดที่ทำหน้าที่เป็นทั้งสะพานข้ามแม่น้ำและแกลเลอรีจัดแสดงงานศิลปะด้วย โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เขาตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นทางสัญจรของคนเดินเท้าใจกลางเมือง เพื่อที่จะผลักดันศิลปะให้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนในเมืองที่เดินทางเพื่อไปทำงาน
Windermere Jetty Museum, เลกดิสตริกต์, ประเทศอังกฤษ


พิพิธภัณฑ์ริมน้ำแห่งนี้จัดแสดงพาหนะทางน้ำทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรือพาย เรือยนต์ หรือเรือยอชต์ ที่เมื่อเราเดินเข้าไปก็จะได้ใกล้ชิดกับเรือนานาชนิดที่ทั้งติดตั้งอยู่บนพื้นและเกี่ยวตะขอห้อยลงมาจากเพดาน ตัวพิพิธภัณฑ์นั้นเขาพยายามสร้างอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้น้ำมากที่สุด และได้สร้างอู่เรือขนาดใหญ่ไว้ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเรือที่จะเข้ามาจัดแสดง เรียกว่าแล่นเข้ามาแล้วเข้าไปจอดปุ๊บ ก็เปิดให้คนเข้ามาชมได้เลย
Ruby City, เทกซัส, สหรัฐอเมริกา


ดูเหมือนปีนี้สีดินแดงจะมาแรง นอกจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของประเทศจีนด้านบนแล้ว ที่รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เขาก็เพิ่งเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่จะจัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 800 ชิ้นจากมูลนิธิ ลินดาพีซ ฟาวเดชัน ที่มีผลงานของศิลปินงานกระจก โอลาเฟอร์ เอเลียสสัน และประติมากรชาวอังกฤษที่โด่งดังจากการถ่ายทอดการเคลื่อนไหวของมนุษย์ผ่านงานประติมากรรมอย่าง แอนโตนี กอร์มลีย์ ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารสองชั้นที่ด้านนอกตกแต่งด้วยคอนกรีตสีแดงที่ผสมกระจกและแร่ไมกาเข้าไปด้วย อาคารแห่งนี้จึงส่งประกายวิบวับสะดุดตาเวลาที่แสงตกกระทบตัวอาคาร