CHIM CHIM Bangkok ห้องอาหารภายใต้สีสันของศิลปะ Dadaism และอาหารไซซ์ยักษ์ให้ชิมชิมกันแบบอิ่มจุก

 

 

ถ้าพูดถึงศิลปะตามลัทธิ Dadaism คงต้องเรียกว่ามันเป็นสไตล์ศิลปะที่ฮิปสเตอร์ตามใจฉันมากที่สุดในโลก เนื่องด้วยศิลปะชนิดนี้มักไม่ยึดติดกับคู่โทนสี แพตเทิร์น หรือแม้แต่ทฤษฎีศิลปะ ไม่มีการจำกัดเทคนิคของผู้สร้างสรรค์ ทำให้เป็นเรื่องสนุกของทีมดีไซเนอร์อย่าง Munchausen ศิลปินดูโอ้ที่โรงแรมของคนรักงานศิลปะอย่าง Siam@Siam Design Hotel เลือกมาเป็นนักออกแบบหลักให้กับห้องอาหารเปิดใหม่ CHIM CHIM Bangkok ห้องอาหารแห่งสีสันและความหลากหลายบนพื้นที่ขนาดใหญ่ชั้นแรกฝั่งติดถนนใหญ่ของตัวโรงแรม

 

 

ด้วยความที่กินพื้นที่โซนด้านหน้าโรงแรมไปเกือบครึ่ง ความอลังการของสเปซที่มาเต็มอยู่แล้วก็ยิ่งดับเบิลความปังปุริเย่เข้าไปอีกด้วยโทนสีแสบสันสุดคอนทราสต์กับบริเวณอื่นของโรงแรม โดยคู่หูดีไซเนอร์ Munchausen เลือกหยิบเอาเฟอร์นิเจอร์เก่าของโรงแรมมาจับทาสีใหม่หมด พร้อมเพิ่มลวดลายแบบตามใจฉันตามความเชื่อของศิลปะแบบ Dadaism ลงไป เรียกว่าเป็นการ Upcycle เฟอร์นิเจอร์เก่าได้แบบแยบยลและสนุกมาก ๆ ส่วนผนังที่ถูกทาให้เป็นสีขาวโพลนก็ถูกกลายสภาพเป็นเหมือนผนังในอาร์ตแกลเลอรี พร้อมให้เหล่าศิลปะแวะเวียนเอางานศิลปะของตัวเองมาวางโชว์ในอนาคต 

 

เราชอบความโปร่งของเพดาน ที่เอาขอดีของการเป็น Double Ceiling มาใช้ให้เกิดประโยชน์ แถมคะแนนให้อีกกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกทางด้านหน้าเข้ามาให้สายถ่ายรูปได้เอ็นจอย Magic Hours กันในทุกช่วงเวลาของวัน ด้วยดีไซน์ คอนเซปต์ และสีสันทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ทำให้ CHIM CHIM Bangkok น่าจะเป็นห้องอาหารในโรงแรมที่มีสีสันจัดจ้านมากที่สุดในกรุงเทพฯ ณ เวลานี้เลยทีเดียว!

 

---

ชิมอาหารจานยักษ์แบบ Artisan

 

 

 

หลังจากเอ็นจอยกับสีสันและลวดลายที่ไม่เหมือนกันเลยสักมุมในห้องอาหารแห่งนี้จนเมมโมรีกล้องเกือบเต็มไปเรียบร้อยแล้ว เหล่าเมนูอาหารที่สั่งไว้ก็ทยอยออกมาเสิร์ฟพร้อมทำเอาเราอึ้งจนต้องร้องว้าวซ่าออกมาดัง ๆ เพราะขนาดจานและปริมาณอาหารที่ให้มาแบบจัดหนักล้นจนเต็มโต๊ะ โดยมีจานซิกเนเจอร์ของที่เราไม่อยากให้ใครก็ตามพลาด อย่าง Beef Shank Pasta (400 บาท) พาสต้าเส้นแบนที่จับคู่กันได้ดีกับซอสเนื้อและพาร์เมซานชีส และ Breakfast Burrito (330 บาท) สำหรับสายบรันช์ในตำนานที่อัดแน่นด้วยไส้แน่น ๆ อย่าง อะโวคาโด ไข่ อเมริกันเชดดาร์ชีส และไส้กรอกที่เลือกมาแล้วว่าเป็นโลคัลแบรนด์คุณภาพดี 

 

 

อีก 2 จาน ที่เราประทับใจมาก ๆ คือ Hoki Poke Salad (390 บาท) สลัดผักหน้าตาประหลาดที่พอได้ลองกินแล้วก็หลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น เพราะนี่คือ Ice Plant ผักสลัดชนิดใหม่ที่หาทานยาก ให้เทกซเจอร์กรอบกรุบ ไม่เหม็นเขียว และไม่มีเสี้ยน ทานคู่กับทูน่าหั่นเต๋าและน้ำสลัดซี๊วพอนสึคือให้ฟีลลิ่งเหมือนอยู่ฮาวายเป๊ะ ๆ กับอีกจานอย่าง Chim Chim Zing Zing Chicken Burger (310 บาท) เบอร์เกอร์ไก่ทอดชิ้นโตที่ขนาดแบ่งคนละครึ่งกับเพื่อนยังกินไม่หมด เสิร์ฟมาคู่เฟรนช์ฟรายส์มันหวานแท่งยาวที่เราเลิฟในรสชาติมาก ๆ 

 

 

 

ฝั่งเมนคอร์สก็จัดมาแน่น ๆ ทั้งพิซซ่าที่เราเลือกสั่งเป็น Rocket & Prosciutto (270/360 บาท) ซึ่งถ้าใครเป็นสาวกพิซซ่าคงต้องปักหมุดร้านนี้ไว้เลย เพราะเขาใช้แป้งซาวร์โดโฮมเมดที่หมักนาน 2 คืน มาทำเป็นตัวเบสพิซซ่า ส่วนอีกเมนูอย่าง Jumbo Tiger Prawns (690 บาท) ที่ใช้กุ้งลายเสือส่งตรงจากแหล่งประมงภาคใต้มาย่างจนหอม เสิร์ฟคู่กับซอส Chimichurri สูตรพิเศษของทางร้านที่ไม่ว่าใครกินก็ติดใจ! 

 

Soimilk Says: ที่ประทับใจสุด ๆ คือไซซ์ของจานอาหารที่เสิร์ฟ ซึ่งให้มาในปริมาณที่ใหญ่ เยอะ และรสชาติดีมากทุกจาน จนถ้าอยากชิมให้ครบทุกเมนู คงต้องเหมาเพื่อนมาทีเดียวทั้งออฟฟิศ เพราะกินคนเดียวไม่หมดแน่นอน บวกคะแนนให้กับความอะไรก็ได้ในการจับนู่นวางนี่ แต่พอมองรวม ๆ แล้วสวยทุกมุม เหมาะกับเป็นร้านที่เอาไว้นั่งยาว ๆ ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น แถมโลเคชันยังอยู่ใกล้โซนสยามแค่เอื้อม จะไปไหนมาไหนก็ง่ายไปหมด! และสำหรับช่วงนี้ที่ใครไม่อยากออกจากบ้าน ทาง CHIM CHIM Bangkok เขาแอบกระซิบมาว่ามีบริการเดลิเวอรี่แล้วด้วยนะเออ!