ในช่วงเวลาแห่งโรคระบาดที่ผ่านมาที่เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า (รวมถึงพวกเราที่ก่อนหน้านี้ออกไปไหนไม่ได้) ก็ยังมีกลุ่มคนมากมายที่ผุดโครงการดี ๆ ออกมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้ให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปด้วยกันมากมาย
และกลุ่มคนที่ออกมาช่วยเหลือเพื่อนร่วมสังคมที่เราอยากชวนชาวซอยมิลค์มาทำความรู้จักกันในวันนี้ ก็คือ HappyFresh แอปพลิเคชันซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ ที่นอกจากจะมีส่วนสำคัญในการเป็นตัวกลางช่วยส่งเครื่องอุปโภคและบริโภคทั้งสดและแห้งให้กับคนอยู่บ้านที่ไม่สามารถออกไปจับจายได้แล้ว เขายังลงมือลงแรง (ขา) อีกทางหนึ่งด้วยการจัดทำโครงการ Run In Unity ที่ชวนเราไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมได้แบบไม่ต้องเสี่ยงโควิดกัน

Run In Unity มีที่มาจากการที่แฮปปี้เฟรชอยากระดมความความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 พร้อม ๆ ไปกับการรณรงค์ให้ทุกคนรักษาสุขภาพเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีไปพร้อม ๆ กัน เลยเกิดเป็นไอเดียวิ่งระดมทุนออนไลน์ ถ่ายทอดสดการวิ่งจากที่บ้าน ให้ผู้ชมทั้งหลายร่วมสนุกกันผ่านหน้าจอแบบไม่ต้องมารวมตัวกันแล้วเสี่ยงการติดเชื้อ
ซึ่งคนที่ออกมานำร่องวิ่งให้เราดูก่อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหัวเรือใหญ่ของแฮปปี้เฟรชอย่าง คุณเกียม ซาการ์ร่า ซีอีโอของแฮปปี้เฟรชนั่นเอง โดยคุณเกียมก็ได้ถ่ายทอดสดการวิ่งลงในช่องยูทูป HappyFresh Malaysia มาตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.แล้ว โดยเราแอบไปดูมาแล้วขอบอกว่านอกจากจะวิ่งแบบไม่หยุดแล้ว ยังมีรายการตอบคำถามประเภท This or That ให้เราดูแบบเพลิน ๆ จนทำให้เราอยากลุกขึ้นมาวิ่งด้วยบ้างแล้วล่ะ
ด้วยความที่เป็นโครงการออนไลน์ ก็ทำให้ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถบริจาคได้จากทุกมุมโลก โดยยอดเงินที่ได้จากการบริจาคทั้งหมดตลอดระยะเวลาแคมเปญครึ่งเดือนก็ทะลุไปถึง 500,000 บาทแล้ว
ซึ่งสเตปต่อไป ทางแฮปปี้เฟรชก็จะทำการมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือเพื่อช่วยเหลือชุมชนผู้เดือดร้อนจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ในประเทศที่มีบริการของแฮปปีเฟรช คือ ประเทศไทย, ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย ตามรายชื่อโครงการต่อไปนี้ คือ ประเทศไทย จะมอบให้แก่มูลนิธิกระจกเงา, ประเทศมาเลเซีย จะมอบให้แก่มูลนิธิ Mums4Mum และ ประเทศอินโดนีเซีย จะมอบให้แก่มูลนิธิ Aksi Cepat Tanggap

แม้ว่าโครงการนี้อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ครบทุกคน ซึ่งทางแฮปปีเฟรชเขาก็ตระหนักดี แต่ก็เล็งเห็นว่า แม้ Run In Unity จะไม่ใช่โครงการแรกที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือชุมชน หรือบริจาคด้วยเม็ดเงินที่สูงที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการที่โครงการนี้จะช่วยส่งต่อแรงบันดาลใจว่า ทุกคนก็สามารถที่จะช่วยเหลือและตอบแทนกลับคืนสู่ชุมชนและสังคมได้ ซึ่งนั่นแหละที่จะทำให้เรารอดผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกันได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ facebook.com/HappyFreshTH/
คอนเทนต์โฆษณานี้สร้างสรรค์โดย Asia City Studio ให้เราช่วยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณและส่งต่อไปยังผู้อ่านอย่างตรงจุด ติดต่อเราได้ที่ studio.asia-city.com