Skip to main content

เด็กซ้ำชั้น พนักงานพาร์ตไทม์ พระเอกซีรีส์ฟอร์มยักษ์: การเติบโตที่เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายของ อีแจอุก จาก Alchemy of Souls

นายน้อยของฉัน

เด็กซ้ำชั้น พนักงานพาร์ตไทม์ พระเอกซีรีส์ฟอร์มยักษ์: การเติบโตที่เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายของ อีแจอุก จาก Alchemy of Souls
January 3, 2023 Bangkok time
เราเชื่อว่าถึงตอนนี้ คอซีรีส์จำนวนไม่น้อยคงได้ตกหลุมรักกับตัวละคร จางอุก จาก Alchemy of Souls (환혼) และ Alchemy of Souls: Light and Shadow (환혼: 빛과 그림자) ที่รับบทโดยหนุ่ม อีแจอุก กันไปเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อลองส่อง ๆ ดูทั่วอินเทอร์เน็ต ก็จะเจอกับคอลัมน์ 'เปิดประวัติดารา' มากมาย ที่บอกเล่าการเข้าวงการแบบปุบปับของเขา รวมถึงชั่วโมงบินที่ไม่มากนัก แต่ได้รับบทบาทที่เป็นที่สนใจ จนเหมือนกับว่าเส้นทางในอาชีพนักแสดงของเขานั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย และวันนี้เราจะพาชาวซอยมิลค์ไปลองทำความรู้จักกับเขาคนนี้ในอีกมุม
 
 
อีแจอุกประเดิมงานแสดงแรกในฐานะนักแสดงไร้สังกัด ที่ไม่มีผู้จัดการ และมีประสบการณ์มาไม่มากนัก กับบทสมทบในโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่อย่างซีรีส์เรื่อง Memories of the Alhambra (알함브라 궁전의 추억) และทำให้เขาได้เซ็นเข้าสังกัด VAST Entertainment ที่ดูแล ฮยอนบิน นักแสดงนำของเรื่อง ทันที และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เขาได้เริ่มต้นเส้นทางชีวิตนักแสดงอาชีพอย่างจริงจัง รวมถึงพักการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเอาไว้ก่อน แม้จะบากบั่นเรียนซ้ำชั้น สอบเข้าเรียนใหม่จนติดแทบทุกมหาวิทยาลัยที่ยื่น และเลือกเป็นนักศึกษาการแสดงของมหาวิทยาลัยชุงอังจนได้แล้วก็ตาม
 
 

"ผมจะพยายามยิ่งขึ้นไปอีก ถึงแฟน ๆ ทุกคน ผมรักพวกคุณมาก ๆ ... ถึงแม่กับพี่ รักนะ"

 
หลังจากได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ ไม่ว่าในเวทีไหน เขาก็จะกล่าวบอกรักแม่และพี่สาวปิดท้ายเสมอ แต่นั่นก็ไม่ได้สะดุดหูเราเท่ากับช่วงที่เขาไลฟ์ผ่าน IG ของตัวเองแล้วเจอคำถาม (ยอดนิยม) จากแฟน ๆ ว่า "ชอบคุณพ่อหรือคุณแม่มากกว่ากัน?" ซึ่งเขาก็ตอบโดยแทบไม่ใช้เวลาคิดเลยว่า "ชอบ 'แม่' ครับ พวกคุณคิดว่าผมจะไม่ตอบคำถามนี้ใช่มั้ยล่ะ" นั่นทำให้เรารู้ได้โดยที่ไม่ต้องมีการเปิดเผยประวัติของหนุ่มคนนี้ไปมากกว่านี้เลยว่าเขาต้องเติบโตมาในบ้านที่มีคุณแม่และพี่สาวเป็นหลักอย่างแน่นอน
 
และจะเพราะเช่นนั้นด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ถึงทำให้เขาต้องทำตัวเป็น 'ผู้ชายของบ้าน' ตั้งแต่เด็ก ๆ รับทำงานพาร์ตไทม์แทบทุกอย่างที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ เพื่อไม่ต้องใช้เงินของที่บ้าน รวมถึงสามารถบ่มเพาะความรักในสนีกเกอร์ Nike ของตัวเองได้แบบไม่ลำบากใคร โดยเขาผ่านงานมาหลากหลายแนว รวมถึงงานด้านบริการอาหาร ทั้งในร้านเนื้อย่างและตามงานจัดเลี้ยง ซึ่งแพชชันด้านการทำอาหารของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้เป็นสองรองใครด้วย โดยเขายก เชฟแพ็กจงวอน เป็นไอดอลด้านการทำอาหาร ที่ตัวเองติดตามรายการอย่างจริงจังมาตลอด
 
 
การทำงานพาร์ตไทม์และต้องรับผิดชอบตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ๆ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาไม่เคยได้มีโอกาสเข้ามาสู่วงการบันเทิงโดยการชักชวนแบบคนอื่น ๆ ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกกับนักข่าวที่สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เคยเจอ 'แมวมอง' หรือถูกแคสต์ถูกชักชวนให้ทำงานตามถนนหนทาง (สไตล์คนหน้าตาดีรูปร่างเหมาะสมจะเป็นนายแบบ) เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นั่นก็อาจจะเป็นโชคชะตาที่ถูกที่ควรแล้วล่ะมั้ง เพราะการเริ่มต้นเส้นทางนักแสดงแบบฟลุก ๆ แถมก้าวกระโดดได้รวดเร็วและมั่นคงในแบบที่เป็นอยู่นี้มันฟังดูน่าทึ่งมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ?
 
ต่อจากซีรีส์เรื่องแรก อีแจอุกก็ได้รับโอกาสให้แสดงในบทคู่รองของเรื่อง Search: WWW (검색어를 입력하세요 WWW) ที่แม้จะเป็นเรื่องราวที่ขับเคลื่อนโดยตัวละครหญิงเป็นหลัก แต่คาแรกเตอร์ฝ่ายชายก็น่าเอาใจช่วยและมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน โปรเจกต์นี้เองที่ทำให้เขาได้ลองแสดงในบทที่โตกว่าอายุจริงมาก ซึ่งนอกจากเขาจะทำได้ดี เล่นได้อย่างน่าเชื่อแล้ว การได้ประกบคู่กับ อีดาฮี ที่ชีวิตจริงอายุมากกว่าเขา 13 ปี ก็สร้างฐานแฟนคลับ 'นูน่า' (พี่สาว) ให้เขาได้มากทีเดียว
 
 
ถ้าไม่นับเรื่องสกิลด้านอาหาร อีกหนึ่งสกิลที่โดดเด่นเกี่ยวกับตัวเขา แต่ไม่ถูกพูดถึงมากนักคือ 'เซนส์การฟังเพลง' ที่ดี เห็นได้จากการไลฟ์ผ่าน IG และอวดเพลย์ลิสต์กับแฟน ๆ ที่เข้ามาชม ตอกย้ำความชื่นชอบในดนตรีฮิปฮอปอาร์แอนด์บีที่ชัดเจน บอกตรงนี้ในฐานะคนที่ดูไลฟ์เลยว่า กรูฟคุณเขาดีมากจริง ๆ หวังว่าจะได้มีโอกาสรับฟังเพลย์ลิสต์ใหม่ ๆ ในโอกาสอื่น ๆ บ้าง ถ้าเจ้าตัวไม่ 'หวงเพลง' (อย่างที่บอกในไลฟ์ ณ ตอนนั้น) เกินไปนัก
 
ต่อเนื่องในปีเดียวกัน อีแจอุกได้ปรากฏตัวในหนัง The Battle of Jangsari (장사리: 잊혀진 영웅들) กับบทสมทบเล็ก ๆ ที่ทำให้เขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การอยู่ท่ามกลางดาราเบอร์ต้นของวงการและโปรดักชันใหญ่ ๆ มากขึ้นไปอีกระดับ ถึงจะแทบไม่มีใครจำบทบาทนี้ได้ก็ตาม ขณะที่กับซีรีส์ Extraordinary You (어쩌다 발견한 하루) ดูจะเป็นสถานการณ์ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาได้รับบทเป็นหนึ่งในตัวเอกของเรื่อง ที่แม้ท้ายที่สุดจะไม่ได้ลงเอยกับนางเอก แต่ความ 'ทรงอย่างแบด' ของตัวละคร แพ็กกยอง ก็ได้ใจแฟน ๆ ไปเพียบ นำไปสู่การเล่นรับเชิญในบทนี้อีกครั้ง ในซีรีส์ True Beauty (여신강림) ในปีถัดมา พร้อมกับการรับเล่นบทสมทบสร้างสีสัน ใน When the Weather Is Fine (날씨가 좋으면 찾아가겠어요) และบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรก ใน Do Do Sol Sol La La Sol (도도솔솔라라솔) ประกบคู่ โกอารา
 
 
และก่อนที่อีแจอุกจะมาเป็นพระเอกในหัวใจทุกคน กับบทนายน้อยจางอุก อย่างเป็นทางการ เขาก็ได้แวะไปชิมลาง รับเชิญในบทเล็ก ๆ ของซีรีส์ Move to Heaven (무브 투 헤븐: 나는 유품정리사입니다) และ Kiss Sixth Sense (키스 식스 센스) ก่อน ด้วยความที่โปรเจกต์สำคัญของช่อง tvN ร่วมกับ Netflix อย่าง Alchemy of Souls นั้นใช้เวลาถ่ายทำค่อนข้างนาน การไปแจมในชิ้นงานอื่น ๆ ให้ไม่หายหน้าไปนานนัก จึงน่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้แฟน ๆ หายคิดถึงลงได้บ้าง
 
การได้รับเลือกเป็นพระเอกในโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ถ่ายทำข้ามปีอย่าง Alchemy of Souls น่าจะเป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่พิเศษที่สุดในชีวิตการแสดงของอีแจอุก ด้วยทุนก่อสร้างโลเคชันมากถึง 135 ล้านบาท และแคสต์อีกนับร้อยชีวิต แต่ถึงอย่างนั้น ซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้เริ่มต้นถ่ายทำได้โดยง่าย ตั้งแต่ข่าวการแคสต์นักแสดงที่น่าจะมารับบทสำคัญคนแล้วคนเล่า แต่ก็ไม่ลงตัว ไปจนถึงข่าวเปลี่ยนตัวนางเอก 'พาร์ต 1' กะทันหัน จากนักแสดงดาวรุ่ง พักฮเยอึน ที่เดบิวต์จากลิมิเต็ดซีรีส์เรื่อง The School Nurse Files (보건교사 안은영) ได้อย่างน่าจับตา มาเป็น จองโซมิน นางเอกรุ่นพี่ที่เคยทำงานกับผู้กำกับ พักจุนฮวา มาแล้ว และได้รับความไว้วางใจในฝีมือการแสดงมากกว่า
 
 
 
แรกเริ่มเดิมที ทางทีมผู้สร้างก็วางเค้าโครงให้ Alchemy of Souls เป็นซีรีส์ความยาว 30 ตอน อยู่แล้ว แต่ด้วยเนื้อเรื่อง จำนวนนักแสดง และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ทำให้ต้องแบ่งเป็น พาร์ต 1 และ 2 ที่ถ่ายทำแยกจากกัน โดยพาร์ตแรกใช้เวลาผลิตมากกว่า 1 ปี ตัดต่อออกมาเป็นจำนวน 20 ตอน และพาร์ตจบถ่ายทำหลังจากที่พาร์ตแรกเริ่มออกอากาศและนักแสดงเดินสายโปรเมตไปแล้ว ใช้ระยะเวลาราว 3 เดือน เป็นผลงานรวม 10 ตอน ซึ่งในทั้งสองพาร์ต อีแจอุกต้องแสดงให้เห็นบุคลิกที่แตกต่างจากกันโดยสิ้นเชิง รวมถึงนำเสนออารมณ์ที่ซับซ้อน ท่ามกลางเอฟเฟกต์เหนือจริงมากมาย และเขาก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย
 
Alchemy of Souls: Light and Shadow (tvN)
 
จากการเดินทางที่บากบั่นตลอด 5 ปี ของนักแสดงคนนี้ เราเชื่อว่าบทบาทที่เขาบรรจงปั้นและใช้เวลากับมันร่วมปีครึ่ง ใน Alchemy of Souls และ Alchemy of Souls: Light and Shadow จะพาอีแจอุกให้ก้าวไปไกล ตลอดจนได้รับบทบาทหลากหลายยิ่งกว่าเดิมอีกแน่นอน ตอนนี้ที่มีข่าวมาสักระยะแต่ยังไม่มีการคอนเฟิร์มโดยสมบูรณ์คือเรื่อง Royal Loader (로얄로더) ที่บอกเล่าเรื่องราวของขั้วอำนาจในตระกูลมหาเศรษฐีและการต่อสู้ระหว่างคนที่เกิดมามีทุกอย่างกับคนทั่วไป มารอลุ้นไปด้วยกันว่าโปรเจกต์นี้จะพัฒนาต่อไปอย่างไรและได้รับชมกันเมื่อไหร่นะ!
 
อย่างที่แฟน ๆ หลายคนทราบดี ว่าเปิดปี 2023 มานี้ หนุ่มอีแจอุกเขามีโปรเจกต์ใหญ่ โปรเจกต์สำคัญ อย่างแฟนมีตติงทั่วเอเชียครั้งแรก และจะมาแวะเวียนที่เมืองไทยเราด้วย ในวันที่ 4 ก.พ. ที่จะถึงนี้ กับงาน LEE JAE WOOK ASIA TOUR FAN MEETING <FIRST> IN BANGKOK ซึ่งบัตรก็ได้ Sold Out ไปแล้วตามระเบียบ เหลือแค่เคานต์ดาวน์รอชมออร่าความหล่อของเขาแบบเต็ม ๆ ในเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ อีกไม่นานแล้ว!
 
Alchemy of Souls และ Alchemy of Souls: Light and Shadow สตรีมทาง Netflix
 
YouTube video
 
YouTube video
 

เครดิตรูปภาพ C-JeS Entertainment เครดิตข้อมูล STARNEWS KOREA, Reporter Eun's LIT NEWS, COSMOPOLITAN Korea, 나무위키, 247ENTOFFICIAL, @jxxvvxxk