Skip to main content
AdSense

4 ร้านสไตล์เก๋ในกรุงเทพฯ ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้แวะเวียนไปสักครั้งในปี 2022 นี้

เพราะความใหม่มันน่าจับตา
 

4 ร้านสไตล์เก๋ในกรุงเทพฯ ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้แวะเวียนไปสักครั้งในปี 2022 นี้
January 21, 2022 Bangkok time
ทุกครั้งที่เริ่มปีใหม่ เราเองมักจะตื่นเต้นอยู่เสมอ เพราะนี่คือโอกาสที่เราจะได้ลองตั้งเป้าอะไรใหม่ ๆ ให้กับตัวเราเพื่อทำมันให้สำเร็จในปีนี้ (เอ่อ…หรือบางทีอาจจะไม่สำเร็จ แต่ก็ยังดีที่ได้ตั้งเป้าเอาไว้แหละเนอะ) อีกอย่างที่ชอบมาก ๆ คือเราก็ได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกที่ให้ปีใหม่แบบนี้เป็นช่วงเวลาดี ๆ ในการเริ่มต้นมันเหมือนกัน แล้วเราก็แอบคอยเชียร์อยู่ห่าง ๆ แหละ เพราะสิ่งใหม่ ๆ มักมาด้วยเรื่องดี ๆ เสมอ จริงม้า
 
แต่ถ้าใครยังไม่มีแพลนอะไรสำหรับปีนี้ ก็ไม่ต้องนั่งหงอยไปว่าทำไมฉันถึงไม่มีเรื่องใหม่ ๆ อะไรให้ทำเหมือนคนอื่นเขาบ้าง เอาน่าาา เพิ่งเข้าปีใหม่มาได้ไม่กี่วัน อย่าเพิ่งเร่งตัวเองไป ลองไปหาอะไรสนุก ๆ หยิบจับอะไรใหม่ ๆ เผื่อจะได้ไอเดียอะไรให้ลองทำในปีนี้ก็ได้ อย่างที่เราเองก็ขอเปิดศักราชใหม่ด้วยการแนะนำ 4 ร้านสุดเก๋ในกรุงเทพฯ ที่มีดีทั้งสไตล์ ฟังก์ชั่น และเรื่องราวของร้านที่โดดเด่นจนอดไม่ได้ที่จะแนะนำให้ทุกคนลองแวะเวียนไปดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าในกรุงเทพฯ มีร้านอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ!
 
ครั้งนี้เราออกเดินทางไปเยี่ยมเยือนร้านรวงต่าง ๆ ด้วย NISSAN KICKS e-POWER (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์) คันนี้ ก็แหม จะไปร้านใหม่ร้านเจ๋งที่น่าจับตาทั้งที ก็ต้องไปด้วยรถยนต์ที่น่าจับตาไม่แพ้กันสิ บอกเลยว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศแรกเลยนะที่ทางนิสสันเลือกเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ แถมนี่ยังเป็นนิสสัน คิกส์ ที่นำเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง “อี-พาวเวอร์” จากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ และเป็นประเทศแรกรองจากญี่ปุ่นที่ผลิตเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ด้วย!
 
 
 
 
แล้วต้องบอกเลยว่าเจ้าเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์นี่แหละที่เราว้าวมาก เพราะนี่คืออีกขั้นของเทคโนโลยีที่เหมาะมาก ๆ กับการขับขี่ในเมือง และมีความแตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไป คืออย่างงี้ ในระบบไฮบริดทั่วไปเนี่ย รถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าควบคู่กัน ซึ่งทำให้การถ่ายกำลังของระบบขับเคลื่อนทั้งสองอย่างมีการสูญเสียพลังงานไป ซึ่งระบบ อี-พาวเวอร์เนี่ยเขาสร้างมาเพื่อแก้ไขปัญหานั้น โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ไฟฟ้าและส่งกระแสไฟฟ้าผ่านอินเวอร์เตอร์ตรงไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าได้เลย ซึ่งตรวนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดของรถยนต์ไฟฟ้า ที่หลายคนพอขับไปไกล ๆ ก็กังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างเดินทางไกล ๆ ไหมน้า แต่เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ คือไม่ต้องห่วงเลย เพราะแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าคือเครื่องยนต์ของเรานั่นแหละ ไม่ใช่สถานีชาร์จแต่อย่างใดจ้า
 
 
พอเป็นแบบนี้ เจ้า นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ก็เลยขับขี่เงียบมาก ๆ เพียง 21 เดซิเบล และขับแรงขับสนุกเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่ต้องชาร์จไฟที่สถานีชาร์จ แถมขับในเมืองแบบเราตอนนี้ก็คือประหยัดน้ำมันเวอร์ จะขับเพลินขนาดไหน ก็ลองพิสูจน์ด้วยการตะลุยไปทั้ง 4 ร้านทั่วกรุงเทพฯ กันไปเลยสิจ๊ะะะ
 
Arai Arai - สเปซสุดสร้างสรรค์แห่งใหม่ย่านเยาวราช
 
 
ที่แรกที่เรามาถึงคือที่นี่เลย ตึกแถวที่หน้าตาชิคกว่าใครในย่านนี้ เพราะนี่คือการจับมือกันของ เต - เตชิต จิโรภาสโกศล, ชาติ - สิรภพ ขำอาจ และ หมูเล็ก - ณัฐพล โรจนรัตนางกูร 3 หนุ่มพาร์ตเนอร์หลักของตึก Arai Arai ที่เพิ่งเปิดทำการได้ไม่นานมานี้ พวกเขาจับเอาตึกอายุกว่า 50 ปี ในย่านเมืองเก่าอันเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบผสมปนเปของวิถีชีวิตคนโลคอล ที่จะเห็นได้จากร้านอะไหล่ยนต์ที่ยังคงเปิดทำการอยู่ฝั่งตรงข้าม ตรอกชาวบ้านแคบ ๆ ฝั่งผนังติดกัน และความฮิปสเตอร์ที่ส่งกลิ่นอายโชยมาไกล ๆ จากซ.นานา (เยาวราช) ที่อยู่เยื้อง ๆ มาสร้างเป็นสเปซแห่งการพึ่งพาอาศัยและใช้แรงบันดาลใจร่วมกัน ภายใต้ชายคาที่เชื่อว่าอะไร ๆ ก็ (เป็นไป) ได้ 
 
 
เปิดประตูบานใหญ่เข้าไปในสเปซ Arai Arai เราจะได้พบกับบรรยากาศแสนชิลล์ของ FH/FH Slow Bar Coffee ที่ย่อมาจาก From Here From Home คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือนอยู่ที่ชั้นแรก ด้วยกลิ่นที่ปนเปกันไปมาระหว่างเมล็ดกาแฟบดใหม่และกลิ่นกำยานจากสมุนไพรทำเองที่ลอยอ้อยอิ่งเคล้ากับทำนองเพลงอินเดียที่เปิดคลอ ให้ฟีลเหมือนแวะมานั่งเล่นที่บ้านเพื่อนอย่างไรอย่างนั้นเลย ขอบอกว่าเครื่องดื่มที่นี่เด็ด และราคาน่าคบหาด้วยนะ
 
 
ขึ้นมาที่ชั้นสอง จะพบกับสเปซโล่ง ๆ ที่มีเพียงชั้นหนังสือหลากหลายขนาดวางพิงผนังทั้งสองด้านไว้ ซึ่งนี่คือที่ตั้งใหม่ของร้าน Vacilando Bookshop ร้านหนังสือที่รวบรวมเอาโฟโต้บุ๊กและภาพถ่ายงานศิลปะจากหลากสำนักพิมพ์ทั่วโลกมาวางขาย โดยย้ายมาจากพิกัดเดิมที่เคยเปิดอยู่แถวอ่อนนุช มากลายเป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้ Arai Arai พร้อมพื้นที่ให้นั่งถือกาแฟแก้วโปรดจากด้านล่างขึ้นมานั่งจิบไป เปิดโฟโต้บุ๊กไปพลาง ๆ ด้วย ต้องบอกว่าที่นี่ “อะไรก็เกิดขึ้นได้” จริง ๆ แหละ
 
Arai Arai ถ.ไมตรีจิตต์ (วงเวียน 22) เวลาทำการ พุธ - อาทิตย์ 10:00 - 18:00 น. (ปิดวันจันทร์ - อังคาร) โทร. 088-599-2426 @araiarai_22 MRT สถานีวัดมังกร
 
 
ไทง้วนเองกี่ - สำรวจวัฒนธรรมจีนผ่านบ้านอายุกว่าร้อยปี
 
 
เขยิบจากวงเวียน 22 มาไม่ไกล ก็มาถึงตลาดน้อย ย่านนี้คือถูกใจคนรักเมืองเก่ามานาน แต่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เรากำลังตกหลุมรักลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งใครเป็น Geek ด้านประวัติศาสตร์ยิ่งจะต้องเลิฟเข้าไปอีก ไทง้วนเองกี่ บ้านจีนเก่าอายุกว่าร้อยปีในย่านตลาดน้อยที่หลังจากได้รับการฟื้นฟูภายใต้โครงการ ฟื้นบ้านย่านจีน จนกลับมาอยู่ในสภาพดี ตอนนี้เขาก็พร้อมเปิดให้เราได้เข้าไปเยี่ยมชมกันทุกเสาร์-อาทิตย์!
 
 
ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ บ้านไทง้วนเองกี่จะเปิดเป็นพื้นที่สำหรับพบปะกันของผู้ที่สนใจเรื่องราวของย่านเมืองเก่าให้เข้าไปเยี่ยมชมและเก็บภาพกัน จะกล้องฟิล์มกล้องมือถือก็จัดมา! นอกจากนี้แต่ละสัปดาห์ยังมีกิจกรรมหมุนเวียนที่ให้เราได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมแห่งย่านตลาดน้อยทั้งอิเวนต์ เวิร์กชอป และวงเสวนาต่าง ๆ 
 
นอกจากนี้ยังมีการออกร้านเป็นวีกเอนด์มาร์เก็ตของเหล่าร้านค้าร้านอาหารสุดคราฟต์ ไม่ว่าจะเป็นร้าน Pongsongsai + Madua ของ 2 ศิลปิน ที่มาพร้อมกับภาพวาด โปสการ์ด และงานเซรามิกทำมือ Drippin งานถักมือเป็นสายคล้องแมสก์ จานรองแก้ว และกระเป๋าจิ๋ว และยังมี Taladnoi Green Zone ที่ขนเอาบรรดาต้นไม้ขนาดเล็ก กระบองเพชร บัวบกโขด ฯลฯ มาให้คนรักการปลูกต้นไม้ได้เลือกน้อง ๆ กลับบ้านกันด้วย บอกเลยว่าอยู่ที่นี่ทั้งวันก็ยังไหว เพราะมีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด!
 
บ้านไทง้วนเองกี่เปิดให้เข้าชม เสาร์ - อาทิตย์ 10:00 - 17:00 น. อยู่หลังศาลเจ้าโจวซือกง ตลาดน้อย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ fb.com/bangkokchinatown 
 
 
Dust On Wax BKK - ร้านแผ่นเสียง (ไม่) ลับ ที่คอ Selection สายลึกต้องไป!
 
 
ขับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ข้ามฝั่งมายังย่านอารีย์กันบ้าง บอกเลยว่าย่านนี้มีอะไรให้ขุดคุ้ยกันตลอด (และมักจะเจอของดีด้วยสิ) อย่างร้านแผ่นเสียงน้องใหม่นี้ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เอง 
 
Dust on Wax BKK คือร้านแผ่นเสียงน้องใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ของโฮสเทลที่ชาวอารีย์รักอย่าง The Yard Hostel ที่ลึกลับมากในระดับที่ถึงแม้จะปักหมุดไปแล้วก็อาจจะหาไม่เจอ เพราะตัวร้านซ่อนอยู่บนชั้น 2 ของบ้านหลังเก่าที่ต้องเดินขึ้นบันไดวนสีเหลือง (อาจจะรู้สึกง่อนแง่นเล็กน้อย) ขึ้นไปก่อนถึงจะเจอ 
 
 
เมื่อเราได้ลองขุดคุ้ยกองแผ่นเสียงดูคร่าว ๆ พบว่าซีเลกชันของร้านนี้ค่อนข้างกว้าง ถึงกว้างมากที่สุด ไล่มาตั้งแต่แนวเพลง Indie Rock, Garage Psych, Brit Pop, 90s, Post Punk, Heavy Metal ไปยันแผ่นแปลก ๆ หาฟังยากอย่างแนว Noise Rock, Screamo, Post H.C. ไปจนถึง Sludge Metal ที่รับรองว่าถูกใจคอสาย Experimental ชัวร์ ๆ โดยหลัก ๆ แล้วเป็นของสะสมของตัวหุ้นส่วนทั้งสองคนที่ไม่อยากเก็บไว้ฟังคนเดียวอีกต่อไป เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เลยจะเป็นแผ่นเสียงมือสองที่สภาพกริ๊บเหมือนของใหม่มาก ๆ หรือที่ภาษาคนสะสมแผ่นเสียงจะเรียกว่า 'Near Mint' นั่นเอง
 
นอกจากนี้ ที่ร้านยังมี Cold Brew และโซนเสื้อยืดวงมือสองที่คัดมาเน้น ๆ สำหรับสายลึกและคนรักการสะสมเสื้อวงเอาไว้ด้วย! งานนี้จะเป็นสายลึกหรือยังไม่ลึก ก็อยากให้แวะไปกันหน่อยแหละ
 
Dust On Wax BKK ชั้น 2 The Yard Hostel เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ 12:00 - 21:00 น. (ปิดวันจันทร์) BTS อารีย์ fb.com/Dustonwaxrecordsbkk
 
 
Ringo & Friends - ร้านของชำที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ
 
 
สุดท้ายเราขับไปยังซ. สุขุมวิท 49 เพื่อหาอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านสักหน่อย และของเหล่านั้นต้องดีต่อใจ และดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย! แบบนี้ต้องมาที่ Ringo & Friends เลย จริง ๆ ที่นี่มีจุดเริ่มต้นมาจากผลิตภัณฑ์รุ่นบุกเบิกอย่าง น้ำยาล้างจาน ซึ่งผ่านกระบวนการคิดหาสูตรที่เน้นใช้สารสกัดจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด จนกลายเป็นน้ำยาล้างจานสีใสแจ๋วที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้มือไม่แห้งและกลิ่นหอมสะอาด ไม่ฉุนจมูก ซึ่งเมื่อนำร่องจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์แล้วปรากฏว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงเริ่มสรรหาผลิตภัณฑ์ใช้ในบ้านอื่น ๆ มาเติมให้เต็มทุกความต้องการของเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเลือกใช้ของดียิ่งกว่าเดิม
 
 
ตอนนี้สินค้าในแบรนด์ Ringo & Friends ก็เรียกได้ว่ามีครบตั้งแต่หัวจรดบ้าน ไม่ว่าจะเป็น บอดี้วอช แชมพูสระผม ครีมนวดผม โลชั่นทาผิว น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาด ฯลฯ โดยแน่นอนว่า ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดปราศจากสารเคมีอันตราย แถมไม่มีการทดลองกับสัตว์ แต่ทำการทดลองโดยคุณเปิ้ลเจ้าของร้าน และทีมที่ทำเอง ใช้เอง นักเลงพอ
 
Ringo & Friends เปิดทำการทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 11:30 - 19:30 น. อยู่ในซ.สุขุมวิท 49 ตรงข้าม Play Space fb.com/ringoandfriends.th
 
เรียกว่านี่คือ 4 ร้านในดวงใจของเรา (เวลานี้) ที่มีดีในตัวของพวกเขาเอง และเรื่องราวของพวกเขาก็ทำให้เราหลงใหลไปด้วยได้ไม่ยาก เหมือนกับเจ้า นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ คันนี้ที่เราขับมาทั้งวัน ก็แอบหลงรักไปแล้วเหมือนกัน เราชอบตรงที่พลังรถแรงดี อัตราเร่งก็ถือว่าดีกว่ารถยนต์ไฮบริด ช่วยให้เราขับขี่ได้รวดเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมันด้วย อย่างเราตอนขับในเมือง จะใช้โหลดการขับขี่ S หรือ ECO ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 2.3 เท่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาบขนาด 1.8 ลิตรเลยนะ
 
 
 
นอกจากนี้ รูปลักษณ์ของรถก็ดูเก๋มาก ๆ พอนั่งข้างในก็คือเงียบดีมากกก เสียงข้างนอกไม่มีเล็ดเข้ามาเลย และเรื่องความปลอดภัยก็ไว้ใจได้ เพราะนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ได้รับการประเมินความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจาก ASEAN NCAP ด้วยนะ พูดไปจะหาว่าอวย ลองไปศึกษาเพิ่มเติมกันต่อที่ https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/kicks.html ได้เลยยย
AdSense
AdSense
AdSense