Skip to main content
AdSense

เกาะกระแสหน้าแล้ง 8 ที่เที่ยวสงกรานต์แบบไม่เปียกน้ำ

ไม่ต้องไปแย่งชายหาดกัน เที่ยวซัมเมอร์ทำได้ไม่ต้องง้อทะเลนะจะบอกให้ 

เกาะกระแสหน้าแล้ง 8 ที่เที่ยวสงกรานต์แบบไม่เปียกน้ำ
March 25, 2016 Bangkok time
 
1. สามพันโบก อุบลราชธานี
 

(Photo Credit Nut Onaree)

หน้าแล้งน้ำน้อยอย่างนี้ต้องไป สามพันโบก เพราะแก่งหินที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ลำน้ำโขงนี้จะเผยโฉมออกมาให้เราเห็นเฉพาะตอนน้ำลงเท่านั้น ประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามนี้เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำจนเกิดเป็นภูเขาหินที่มีหลุมรูจำนวนนับพัน เป็นที่มาของชื่อสามพันโบก เพราะโบกแปลว่าหลุมในภาษาอีสานนั่นเอง

 

A photo posted by Kanchanaluk (@killwillow) on

นอกจากจะไปชมความงามของโบกรูปทรงต่างๆ แล้ว เราสามารถล่องเรือชมสองฝั่งโขง หรือจะแวะไปหาดหงส์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ก็ได้ ภูมิประเทศแปลกตาประหนึ่งอยู่กลางทะเลทรายเช่นนี้จะมีให้เห็นเฉพาะเดือนมกราคม-พฤษภาคมเท่านั้น เราแนะนำให้ไปตอนเย็นๆ แดดร่มลกตก เพราะวิวพระอาทิตย์ลับเนินทรายสวยจนนอนตายตาหลับได้เลย

ทั้งสามพันโบกและหาดหงส์ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ขับรถออกจากตัวเมืองอุบลฯ ไป 2 ชั่วโมงเท่านั้น
 
✌ Tips: ถ้าไม่อยากเปียกก็จงอยู่ให้ห่างตัวเมืองซึ่งจะมีงานถนนดอกไม้และสายน้ำ
 
2. อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์
 

ปราสาทพนมรุ้งคือปราสาทหินขอมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่สถาปัตยกรรมซึ่งจัดวางผังมาอย่างดี ดังนั้นใน 1 ปี จะมีอยู่ 4 ครั้งที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดผ่าน 15 ช่องประตูพร้อมกัน (2 ครั้งตอนพระอาทิตย์ขึ้น และ 2 ครั้งตอนพระอาทิตย์ตก) ช่วงเดือนเมษายนจะดูได้ในวันที่ 3-5 และช่วงเดือนกันยายนจะดูได้ในวันที่ 9-11 แต่ถึงจะไปไม่ตรงวันแค่ไปดูความยิ่งใหญ่อลังการของตัวปราสาทก็น่าตื่นตาตื่นใจพอแล้วล่ะ

 

 

A photo posted by Dahey Song (@song.dahey) on

ขับรถออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์เพียงไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จะถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้แล้ว

✌ Tips บอกตรงๆ ว่าถ้าเข้าใกล้ตัวเมืองยังไงก็มีสิทธิเปียก ถ้าจะออกนอกเมืองแล้วก็ไปปราสาทเมืองต่ำอีกที่ด้วยแล้วกัน จะได้หมดวันพอดี

3. สังขละบุรี กาญจนบุรี

(Photo Credit Nut Onaree)

หน้าแล้งแบบนี้ต้องไปสังขละบุรี ดินแดนที่งดงามด้วย 3 วัฒนธรรม ไทย มอญ พม่า เพราะเป็นช่วงเดียวที่เราจะสามารถแวะจอดเรือและเดินขึ้นไปชมรอบๆ บริเวณวัดวังก์วิเวการามได้ เพราะถ้าเป็นช่วงน้ำหลาก พื้นโดยรอบจะจมหายไปใต้น้ำทั้งหมด นั่งเรือวนดูได้อย่างเดียว และอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องเช็กอินคือสะพานมอญ สะพานไม้ซึ่งยาวที่สุดในประเทศไทย (ประมาณ 1 กิโลเมตร) จะไปตอนเช้าสายบ่ายค่ำวิวก็สวยเสมอ

จริงๆ เทศกาลสงกรานต์มอญของสังขละบุรีโด่งดังใช่เล่น แต่เราสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่เปียก ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การสรงน้ำพระโดยใช้ไม้ไผ่มาต่อเป็นรางยาวเหยียดแล้วค่อยเทน้ำลงไป ต้องไปลองซักครั้งจะรู้ว่าสนุกมาก!

(Photo Credit Nut Onaree)

สังขละบุรีเป็นเมืองชายแดนติดประเทศพม่า อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีราว 200 กิโลเมตร ถ้าไม่ได้ขับรถไปสามารถขึ้นรถตู้หรือรถบัสจากตัวเมือง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง
 
✌ Tips สำหรับผู้ชาย ถ้าอยากตัวแห้งก็อย่าบ้าจี้ไปร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระ (สงฆ์) ซึ่งชาวบ้านผู้ชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่นอนราบกับพื้นให้พระสงฆ์เหยียบเดินระหว่างที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ช่วยกันสรงน้ำ ไม่งั้นเปียกโชกแน่ๆ

4. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี ประจวบคิรีขันธ์

(Photo Credit Wisoot Supong)

ถ้ายังไม่เคยไปอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ก็เป็นโอกาสอันดีให้ไปนะ เพราะผีเสื้อสวยๆ นับร้อยตัวจะมาชุมนุมกันตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2 จุดหลักในการชมผีเสื้อคือน้ำตกป่าละอูและบริเวณแคมป์บ้านกร่าง ถ้าเป็นสายลุยอยู่แล้วเราแนะนำให้พักที่แคมป์นี้เลยเพราะจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่จุดชมวิวพะเนินทุ่ง ซึ่งเรารับประกันว่าสวยจับใจจริงๆ
 

A photo posted by Tiger (@bob_anu) on

แก่งกระจานอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ติดต่อจองที่พักได้ที่ โทร. 032-459-293. หรือ www.dnp.go.th/parkreserve

✌ Tips ถึงจะไม่อยากเปียกเพราะเล่นสงกรานต์ แต่เปียกเพราะลงเล่นน้ำที่น้ำตกป่าละอูก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวนะ!

5. สวนสนบ่อแก้ว แม่ฮ่องสอน
 

A photo posted by NUTT/ณัฐ☆ (@nuttduckling) on

เห็นรูปต้นสนที่เรียงรายนับร้อยนับพันต้นในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่แล้วเราอยากจะหลงป่าเสียจริงๆ สวนสนบ่อแก้วคือชื่อเรียกไม่เป็นทางการของ สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว (อีกชื่อหนึ่งคือเกาะนามิเมืองไทย) ซึ่งทำการทดลองปลูกพืชจำพวกสนและยูคาลิปตัส ไปเที่ยวได้ทุกฤดูเลย เพราะอากาศที่นี่จะเย็นสบายทั้งปี 

 

 

A photo posted by KRNai (@krnai) on

 

สวนสนบ่อแก้วอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 2 ชั่วโมงบนทางหลวงหมายเลข 108 และไหนๆ ถ้าไปทางนั้นแล้ว อย่าลืมแวะอุทยานแห่งชาติออบหลวง เพื่อดูผาหินซึ่งมีลำน้ำแม่แจ่มไหลแทรกกลาง ธรรมชาติสรรค์สร้างได้งดงามมากจริงๆ แค่นี้ก็ไม่ต้องเสียตังค์บินไปเกาหลีแล้ว

✌ Tips ถ้านั่งเครื่องบินไปตั้งต้นที่เชียงใหม่ ก็จงอยู่ให้ห่างบริเวณคูเมืองเอาไว้นะ!

6. บ้านน้ำเชี่ยว ตราด

 

(Photo Credit Dasta.or.th)

หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองตราดมาเพียง 8 กิโลเมตรแห่งนี้มีการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ดังนั้นเราจะได้นอนในโฮมสเตย์ (250บาท/คน) ซึ่งเจ้าบ้านจะตระเตรียมอาหารการกินให้พร้อมสรรพ จะนอนเล่นอยู่บ้านชิวๆ ริมน้ำดับร้อนก็ได้ แต่ถ้าไปแล้วเราอยากแนะนำให้ติดสอยห้อยตามชาวบ้านไปจับกุ้งหอยปูปลามาทำอาหาร หรือจะไปปลูกป่าโกงกางก็ได้ และที่พลาดไม่ได้คือต้องไปเรียนวิธีทำงอบน้ำเชี่ยว หัตถกรรมโบราณซึ่งเป็นสินค้าเด่นดังของที่นี่

(Photo Credit TAT Contact Center)

อย่าลืมไปเยี่ยมชมวัดน้ำเชี่ยว วัดจีน และมัสยิดอัลกุบรอ เพราะที่นี่เป็นชุมชนพุทธและมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน และห้ามพลาดไฮไลท์เด็ดอย่างสะพานวัดใจ สะพานไม้สูงชันที่เชื่อมสองฝั่งน้ำเข้าด้วยกัน

บ้านน้ำเชี่ยวอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 4-5 ชั่วโมง
 
✌ Tips ถ้าไม่อยากเปียกก็จงอยู่ให้ห่างตัวเมืองตราด เช่น บริเวณหน้าศาลากลาง หน้าตลาดสด และอย่าไปเหยียบเกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด ไม่งั้นไม่รอดแน่!
 
7. ชุมชนเก่าริมน้ำจันทบูร จันทบุรี

(Photo Credit Baanluangrajamaitri.com)

สองฝั่งถนนสายสั้นๆ แต่เต็มไปดวยเสน่ห์นี้เป็นห้องแถวเก่า บ้างก็ถูกปรับปรุงทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร โฮสเทล บ้างก็ยังอยู่ในสภาพเดิม ไปเดินเล่นลัดเลาะตอนเย็นๆ จะมีถนนคนเดินซึ่งมีทั้งของกินและของจุกจิกให้เลือกหลากหลาย และอย่าลืมไปดูสถานที่ไฮไลท์อย่างโบสถ์คาทอลิก หรือในชื่อเต็มๆ ว่าอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

(Photo Credit youtube.com/watch?v=Ouu7IfYF21g)

ถ้ายังสัมผัสจันทุบรีไม่พอ ต้องขับรถออกนอกเมืองไปเส้นเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนเลียบชายหาดที่สวยที่สุดในประเทศไทย แวะดูวิวที่จุดชมวิวเนินนางพญา หาดคุ้งวิมาน และถ้ามีเวลาก็ขับไปหาดเจ้าหลาวและหาดแหลมสิงห์ได้

(Photo Credit Baanluangrajamaitri.com)

จันทบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น พยายามวางแผนล่วงหน้านานๆ จะได้จองห้องที่โฮสเทลเก่าแสนสวนอย่างบ้านหลวงราชไมตรีทัน!
 
✌ Tips ห้ามผ่านไปแถวถนนข้าวทิพย์เด็ดขาด ไม่งั้นเปียกโชกกลับมาแน่!
 
8. ทะเลน้อย พัทลุง

(Photo Credit TAT)

เดือนเมษายนเหมาะจะไปเที่ยวที่นี่มากๆ เพราะเป็นช่วงที่บัวแดงจะบานจนเต็มทะเลสาบเลย แต่ถ้าอยากดูต้องยอมตื่นเช้าเท่านั้น เพราะถ้าไปสายดอกบัวจะหุบหมดแล้ว นอกจากดอกบัวที่นี่ก็มีนกน้ำให้ดูหลากหลายสายพันธุ์ รวมไปถึงควายน้ำ ซึ่งก็เป็นควายบ้านธรรมดานี่แหละ แต่เพราะว่าอาศัยอยู่แถบนี้ จึงลงไปลุยน้ำแช่น้ำสบายใจ

(Photo Credit Tiewpakklang.com)

ข้างๆ ทะเลน้อยคือสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในประเทศไทย อย่าดูถูกเชียวว่าก็แค่สะพาน เพราะวิวสวยจนลืมตายเลย

 

A photo posted by Nw Lp (@nattapat_lp) on

วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือนั่งเครื่องบินไปลงที่ตรังหรือหาดใหญ่ แล้วค่อยเช่ารถขับไปพัทลุง ถ้ามีเวลาก็ถือโอกาสทัวร์ตรังหรือสงขลาไปด้วยเลยก็ดี

 
✌ Tips ถ้าไม่อยากเปียกไม่ว่ายังไงก็ห้ามเฉียดไปใกล้ถนนข้าวสังข์หยดเด็ดขาด!

 

AdSense
AdSense
AdSense