ภาคกลาง: ลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก

Photo: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
ฤดูฝนนั้นเหมาะแก่การล่องแก่งเป็นที่สุด เราเลยอยากขอเริ่มต้นด้วยกิจกรรมมันๆ ให้อะดรีนาลีนในร่างกายพลุ่งพล่านกันเลยดีกว่า! ลำน้ำเข็กไหลมาจากต้นน้ำบนเทือกเขาเพรชบูรณ์ ผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงและขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 12 โดยบริเวณที่เราจะได้ล่องแก่งกันคือหนองแม่นา จ.พิษณุโลก ซึ่งเปิดให้เข้าประมาณช่วงกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี

Photo: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
ด้วยระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร แถมใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง เราจะได้ล่องผ่าน 13 แก่ง ไต่เลเวลความยากตั้งแต่เริ่มต้นจนไปถึงระดับ 5 ที่น้ำไหลเชี่ยวรุนแรงกันเลยทีเดียว แอบบอกว่าระดับความยากสากลนั้นติดเพดานที่ระดับ 6 นะจ๊ะ แสดงว่าลำน้ำเข็กของเรานี่ก็ไม่หมูเลย! รีสอร์ทที่พักส่วนใหญ่จะมีแพ็กเกจล่องแก่งให้บริการคู่กับห้องพักอยู่แล้ว อย่างวนธารา เฮลท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา มีแพ็กเกจล่องแก่งพร้อมที่พัก 1 คืน พร้อมอาหาร 3 มื้อ ประกันภัย และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการล่องแก่ง (วันธรรมดาคนละ 1,650 บาท สุดสัปดาห์คนละ 1,750 บาท) หรือจะลองเช็กรายชื่อผู้ประกอบการล่องแก่งลำน้ำเข็กก่อนก็ได้ที่นี่เลย ว่าแล้วก็ไปพายเรือให้สุดกำลัง เอี้ยวตัวหลบกิ่งไม้ และสัมผัสความหวาดเสียวบนแพยางที่กระแทกไปตามโขดหินกันเถอะ ลุย!
การเดินทางจากกรุงเทพฯ
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 430 กิโลเมตร
เดินทางโดยรถส่วนตัวใช้เวลา 6 ชั่วโมง
ลำน้ำเข็ก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
ภาคเหนือ: บ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน

Photo: CBT BAAN JABO การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่
ห่างจากปายมาเพียงชั่วโมงเดียว เราจะได้เจอกับ บ้านจ่าโบ่ เป็นชุมชนเล็กๆ เงียบสงบของชาวเขาเผ่าลาหู่นะ (มูเซอดำ) ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้ด้วยเครื่องแต่งกายสีดำประจำเผ่าและยังคงสื่อสารกันด้วยภาษาพื้นเมือง จุดเด่นของบ้านจ่าโบ่คือที่พักโฮมสเตย์ของชาวบ้านและวิวสวยๆ จากร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาเลื่องชื่อประจำหมู่บ้านนี่แหละ

Photo: CBT BAAN JABO การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่
ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ (ที่เห็นได้มากที่สุดคือหมูดำ) แน่นอนว่าอาหารที่เราจะได้กินกันที่โฮมสเตย์ (คืนละ 200 บาท/คน) ก็มาจากผลผลิตของชาวบ้านนี่แหละ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเดินป่าผ่านไร่ข้าวโพด สวนมันม่วง และไร่ข้าวดอยของชาวบ้านให้ไปสำรวจกัน และที่พลาดไม่ได้เลยคือร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 30-40 บาท แต่ทัศนียภาพที่อยู่ตรงหน้านั้นแทบประเมินค่าไม่ได้ วิวเทือกเขาซ้อนสลับกันเป็นชั้นๆ ย้อมด้วยแสงอาทิตย์สีทองยามเช้า บอกเลยว่าภาพแบบนี้ไม่มีให้เห็นที่กรุงเทพฯ นะ ลองมาดูด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิตเถอะ
การเดินทางจากกรุงเทพฯ
ไฟลต์กรุงเทพฯ-เชียงใหม่โดยสายการบินโลว์คอสต์มีทุกวัน
Thai Lion Air เริ่มต้นที่ 1,000 บาท (ตั๋วเที่ยวเดียว)
จากนั้นต่อรถไปยังบ้านจ่าโบ่ (รถกระบะเหมาราคา 2,000 บาทต่อเที่ยว ติดต่อเพิ่มเติมที่นี่)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองโฮมสเตย์ล่วงหน้า โทร. 080-677-5794
บ้านจ่าโบ่ หมู่ 4 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
ภาคอีสาน: ภูทอก จ.บึงกาฬ

บึงกาฬคือจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทยแยกตัวออกมาจากจังหวัดหนองคายนี่เอง โดยมีชายฝั่งทางทิศเหนือที่ติดกับแม่น้ำโขง โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว น้ำตกเจ็ดสี แก่งอาฮง และที่เราจะมาแนะนำก็คือ ภูทอก หรือภูเขาหินทรายที่รายล้อมไปด้วยป่าเขียวขจีและมี วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ตั้งอยู่ที่เชิงเขา

Photo: Guide Wasan
จุดเด่นของภูทอกคือสะพานไม้ 7 ชั้นเวียนรอบเขาแบบ 360 องศา สร้างด้วยแรงงานคนล้วนๆ โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 5 ปีเต็ม แต่ละชั้นจะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้ามองลงด้านล่างจากชั้น 4 เราจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกันที่ชาวบ้านเรียกว่าดงชมพู หรือจะสำรวจถ้ำน้อยใหญ่ระหว่างทางขึ้นชั้น 5 ก็ยังได้ ส่วนจุดที่สวยที่สุดอยู่ชั้น 6 ซึ่งเราสามารถมองเห็นวิวทางทิศตะวันออกแบบสุดลูกหูลูกตา ถ้าท้องฟ้าโปร่งก็มีโอกาสมองได้ไกลถึงเทือกเขาในจังหวัดนครพนมเชียวนะ บอกเลยว่าเหมาะสำหรับแชะภาพพระอาทิตย์ขึ้นไปลงอินสตาแกรมสุดๆ แต่เราขอเตือนเลยว่าข้างบนมีงูชุกชุม ควรป้องกันไว้ก่อนด้วยการใส่เสื้อผ้ารัดกุมและเป็นหูเป็นตาให้เพื่อนร่วมทางด้วยนะ
การเดินทางจากกรุงเทพฯ
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 720 กิโลเมตร
เดินทางโดยรถส่วนตัวใช้เวลา 10 ชั่วโมง
ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นในวันที่ 10-16 เมษายนของทุกปี
ภูทอก บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ 6 ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
ภาคใต้: เขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี

ภาคใต้ไม่ได้มีแค่เกาะ ทะเล กับหาดทรายหรอกนะ เราอยากชวนไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก หรือที่เรียกกันว่า ขุนเขาแห่งป่าฝน เป็นป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ แวดล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูน ถ้ำ น้ำตก เขื่อน รวมไปถึงนานาสัตว์ป่าและสัตว์สงวนอย่างแมวลายหินอ่อน เก้งหม้อ เลียงผา และสมเสร็จเลยก็ยังมี

Photo: iNahoo
ภายในอุทยานมีจุดน่าสนใจให้แวะไปอยู่ไม่น้อยเลยนะ ลองล่องแพเหนือเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) เพื่อชมวิว ช่องแคบเขากาเลาะ และ เขาสามเกลอ ซึ่งเป็นทิวเขาหินปูนปลายแหลมสลับทับซ้อนกันเป็นแนวยาวคล้ายกับทัศนียภาพของเมืองกุ้ยหลินที่ประเทศจีน เราบอกเลยว่าไปหน้าฝนนี่แหละเหมาะสุดๆ แค่ลองนึกภาพหมอกจางๆ เหนือผืนน้ำโอบล้อมไปด้วยป่าเขียวขจีดูมีชีวิตชีวาก็ฟินแล้ว

เราอยากเชียร์ให้อยู่ค้างแรมกันสักคืน มีที่พักบนแพลอยน้ำในเขื่อนให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแพนางไพร เป็นแพของอุทยานที่อยู่ใกล้เขาสามเกลอมากที่สุด หรือจะเป็นแพเอกชนสุดฮิตอย่างแพ 500 ไร่ (ตอนนี้ห้องพักช่วงสุดสัปดาห์เต็มไปถึงเดือนสิงหาคมแล้วจ้า!) ว่ากันว่าเป็นแพที่สวยที่สุดในเขื่อน แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุดพอกับโรงแรม 4-5 ดาวเลยนะ และแต่ละที่ยังมีกิจกรรมให้เราทำ อาทิ พายเรือแคนู เที่ยวชมถ้ำ หรือเดินป่า ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องนั่งเบื่อระหว่างพักผ่อนกันเลยล่ะ
การเดินทางจากกรุงเทพฯ
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 730 กิโลเมตร
เดินทางโดยรถส่วนตัวใช้เวลา 11 ชั่วโมง
เดินทางโดยรถทัวร์ เส้นทางกรุงเทพฯ-พังงาและกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ราคาเริ่มต้น 620 บาท (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่)
อุทยานแห่งชาติเขาสก ครอบคลุมพื้นที่ต.คลองศก ต.พังกาญจน์ ต.พนม อ.พนม และต.พะแสง ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี