เผลอแป๊บเดียวอีกไม่กี่วันเวลาของเราทุกคนก็จะเดินทางมาถึงวันที่ครบจบปี 2019 กันแล้ว พอมองย้อนกลับไปอีกทีก็พบว่านี่เป็นอีกปีที่เหนื่อยใช่ย่อยใช่ไหมล่ะ และในขณะที่เราใช้พลังตัวเองทำโน่นนี่นั่นจนล้ามาทั้งปี ก็น่าจะถึงเวลาหารางวัลให้กับตัวเอง ชาร์จพลังให้ต่อสู้กับปีต่อไปได้อย่างเต็มที่สักหน่อย แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะชาร์จพลังด้วยวิธีไหนดี ลองแวะไป จังหวัดกระบี่ ดูไหมล่ะ?
อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งเอียงคอแล้วทำหน้างงแบบนั้น สงสัยใช่ไหมว่าทำไมต้องเป็นจังหวัดกระบี่ด้วย ที่เราแนะนำจังหวัดนี้เพราะที่จริงแล้วกระบี่ ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคใต้ที่มีทะเลสวย มีเกาะเล็กเกาะน้อยเยอะแยะเต็มไปหมด แถมยังอุดมไปด้วยความสงบ แต่ก็ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน แบบที่เรากำลังตามหาอยู่ในเวลานี้ด้วย ว่าแต่กระบี่ในยุคนี้ควรไปไหนดี ที่จะช่วยเยียวยาตัวเราได้ เรามีไอเดียมาบอกให้เป็นไกด์ไลน์แล้วจ้า
หาที่นอนดี ๆ ก็ฮีลตัวเองได้แล้ว

แน่นอนว่าการท่องเที่ยวนั้นมี 2 รูปแบบ แบบแรกคือไปพัก แบบสองคือไปเที่ยว ซึ่งการไปเที่ยวเนี่ย เราก็จะรู้กันในใจอยู่แล้วว่าจะต้องเอาให้สุด แบบออกจากโรงแรมหกโมงเช้า กลับมาอีกทีก็เที่ยงคืน ดังนั้นที่พักอาจไม่ใช่สาระสำคัญอะไร แต่กับการเที่ยวแบบ "ไปพัก" ซึ่งใช้เวลาทิ้งตัวนาน ๆ ปล่อยให้ธรรมชาติโอบล้อม และที่พักสบาย ๆ บรรยากาศดี ๆ พอให้เราให้นอนมองฟ้า ฟังเสียงคลื่น พลางอ่านหนังสือและอาบแดดไปด้วย เนี่ยคือการพักผ่อนแบบที่เรากำลังมองหาในเวลานี้ และตอนนี้ที่อ่าวนาง กระบี่ อ่าวสุดฮิตของนักท่องเที่ยว ก็เพิ่งมีโรงแรมเปิดใหม่แบบสด ๆ ร้อน ๆ ได้ไม่ถึงเดือนนี้เอง กับ Centara Ao Nang Beach Resort & Spa

ตอนแรกเราสงสัยอยู่แหละว่าเอ๊ะ บนอ่าวนางยังมีที่ว่างตรงไหนเหลืออยู่อีกเหรอ แต่ปรากฎว่ามี แถมยังทำเลดีเสียด้วย เพราะเซนทารา อ่าวนาง บีช รีสอร์ต แอนด์ สปา นั้นตั้งอยู่ที่ปลายของหาดอ่าวนางเลย แถมยังติดทะเลแบบมีหาดส่วนตัวด้วย! เซนทารานี้มาในรูปแบบรีสอร์ตที่ชวนให้เราผ่อนคลาย ด้วยการสร้างตัวอาคารที่พักถึง 7 ตึก แต่ละอาคารสร้างขึ้นแบบ Low Rise ความสูงแค่ 4-5 ชั้นเท่านั้นเอง แต่ละชั้นก็มีห้องเพียงไม่กี่ห้อง (เพราะแต่ละห้องนั้นใหญ่เวอร์) ซึ่งจุดนี้เราชอบมาก เพราะทัศนียภาพสวยงามของธรรมชาติอย่างเขาสูงที่ตั้งอยู่ข้างโรงแรม ก็จะเห็นอย่างเต็มตา ไม่โดนตัวอาคารบดบังนั่นเอง
สระว่ายน้ำที่นี่มีถึง 2 สระ ทั้งสระใหญ่ที่มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย และสระที่มองเห็นวิวทะเล ความลึกของสระน้ำที่นี่เพียง 1.2 เมตรเท่านั้น คนชอบน้ำลึก ๆ เราขอแนะนำให้ไปลงทะเลแทน แต่ความลึกประมาณนี้ก็ปลอดภัยดีเหมือนกันนะ ส่วนหนู ๆ แน่นอนว่ามีสระเด็กจ้า และเห็นว่ามี 7 อาคารขนาดนี้ แต่มีห้องทั้งหมดเพียง 179 ห้องเองนะ ดังนั้นมั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวได้เลย คนไม่แออัดพลุกพล่านแน่นอน


ส่วนหักพักของที่นี่ก็มีให้เลือกถึง 9 รูปแบบเลยนะ ทุกห้องจะตกแต่งแนวคอนเทมโพรารี เลือกใช้สีที่ไม่ฉูดฉาด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อย่างเราเองเลือกเข้าพักที่ห้อง Premium Deluxe ที่ชอบฟังก์ชั่นการแยกส่วนระหว่างพื้นที่ห้องนอน กับพื้นที่ห้องน้ำ และห้องแต่งตัวมาก เพราะเขาสร้างประตูบานใหญ่ให้ปิดแบ่งออกเป็น 2 ห้องได้อย่างอิสระ หรือจะเปิดประตูซ่อนไว้เป็นส่วนหนึ่งของกำแพง เพื่อขยายพื้นที่ให้ห้องใหญ่ขึ้นก็ได้ ช่วยให้ความเป็นส่วนตัวของการใช้พื้นที่ห้องน้ำและแต่งตัวได้อย่างสะดวกจริง ๆ อีกอย่างที่โดนใจมาก ๆ คือขนาดของเตียงในทุกไทป์ของห้องพัก เพราะเตียงใหญ่เวอร์ อย่างเราที่จองห้องแบบเตียงทวินเบดไป ก็ใก้มาเป็นเตียงขนาดควีนไซซ์ 2 เตียง (ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถอนอนได้เตียงละ 2 คนเลยนะเนี่ย) แถมหมอนยังมีเยอะแบบจุใจไปเลย คนติดหมอนอย่างเราคือเลิฟมาก
นอกจากนั้นยังมีห้องสไตล์อื่น ๆ ให้เลือกอีกทั้งห้อง Deluxe, Deluxe Terrace ที่มีระเบียงกว้างมาก เหมาะกับใครที่ชอบออกมานั่งชิลล์ จิบไวน์มองวิว, Deluxe Ocean View ห้องพักที่เห็นวิวทะเลแบบพาโนรามา, Deluxe Pool Access ห้องชั้นล่างที่สามารถเปิดประตูระเบียงปุ๊บ ก็เดินลงสระน้ำได้เลย, Family Residence สำหรับใครที่มาเป็นครอบครัว ก็มีทั้งเตียงคิงส์ไซซ์ และเตียงแบบ Bunk Bed ที่รับรองว่าเด็ก ๆ ต้องชอบ, และห้องแบบ Plunge Pool สำหรับคู่รักที่ต้องการความสวีต เพราะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวในแต่ละห้องเลยจ้า เก๋เวอร์มาก
จากโรงแรม ก็สามารถเดินไปถนนคนเดินที่อ่าวนางได้แบบใกล้ ๆ ไม่ทันเหนื่อยก็ถึง สำหรับมครที่กำลังมองหาสถานที่ผ่อนคลายตัวเองอยู่ ขอบอกว่าทีนี่จบครบที่เดียวเลยจ้า เดินทางก็สะดวก ที่พักก็ใหม่กิ๊ง แถมยังมีทั้งห้องสปา ห้องอาหารเปิดรับมากมาย ฟิตเนส คิดส์รูม และบาร์ เรียกว่าไม่ต้องออกไปไหนก็ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ ได้ในโรงแรมเลยแหละ
ผ่อนคลายกับสปาคอร์สพิเศษ

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าที่โรงแรมเซนทารา อ่าวนาง บีช รีสอร์ต แลนด์ สปา เขามีสปาด้วย นั่นก็คือสปาประจำของเซนทาราอย่าง Cenvaree นั่นเอง และนี่แหละคือการผ่อนคลายร่างที่ดีสำหรับเรา ซึ่งความพิเศษของสปา เซนวารี สาขาโรงแรมเซนทารา อ่าวนาง บีช ที่นี่คือ เขามี Sea Shell Massage สปาเปลือกหอย ซึ่งเป็นสปารูปแบบใหม่แห่งเดียวของเซนวารีเลยนะ
แน่นอนว่าเราต้องแอบลองมาแล้ว เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าการนวดด้วยเปลือกหอยจะพิเศษกว่าสปาประเภทอื่นขนาดไหน แล้วพบว่าการนวดก็จะคล้าย ๆ นวดประคบ เพราะเขาจะเอาเปลือกหอยขนาดใหญ่มาห่อผ้าขาวบาง แล้วนำไปอบสมุนไพรร้อน แล้วใช้เปลือกหอยกดจุดตามตัว ซึ่งเราว่าก็เวิร์กดีอยู่เหมือนกัน อย่างแรกคือความผ่อนคลายที่ต้องบอกว่าไม่น่าเชื่อเลย มีการใช้น้ำมันเธอราพีช่วยสปาให้เรารู้สึกสบายมากขึ้น และเราก็สามารถแจ้งเธอราพิสต์ได้ว่ามีปัญหาที่ใดอยู่ อยากเน้นจุดใด หรือจะเลือกเป็นนวดเปลือกหอยแบบสครับก็ได้เช่นกัน

นอกจากนวดเปลือกหอยแล้ว สปาทั่วไปทั้งนวดไทย อโรมาเธอราพี นวดตอกเส้น นวดคอ บ่า ไหล่ ก็มีให้ใช้บริการเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ถ้ามานวดเปลือกหอย และนวดตอกเส้น จะลด 30% อยู่ด้วยนะ หรือถ้าจะเป็นทรีทเมนต์อื่น ๆ ก็ลด 20% สำหรับแขกที่เข้าพักกับทางโรงแรมเช่นกัน
หาอะไรทำริมทะเล


มาถึงกระบี่ ถ้าไม่ได้สัมผัสน้ำทะเล ก็คงเรียกว่ามาไม่ถึงแน่ ๆ แน่นอนว่ากระบี่ถือเป็นประตูสู่เกาะต่าง ๆ มากมาย เราสามารถไปเกาะพีพีก็ได้ หรือไปทัวร์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกหลายเส้นทาง เช่น ทะเลแหวก หาดไร่เลย์ เกาะไก่ เกาะปอดะ หาดถ้ำพระนาง ซึ่งถ้าจะให้ชิลล์จริง ๆ เราคงไม่แนะนำให้ไปดำน้ำ แอดเวนเจอร์ดูปะการังและฝูงปลาทะเลแหง แต่ชีวิตผ่อนคลายแบบเรา เราอยากแนะนำให้ไปหากิจกรรมอะไรทำริมหาดชิค ๆ ดีกว่า อย่างการค้นหาว่าหาดไหนสามารถชมวิวอาทิตย์ตกได้สวยที่สุด และผลลัพธ์ก็คือหาดไร่เลย์ ที่ต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ตออกไปจากฝั่งประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ช่วงเย็นที่น้ำทะเลกำลังลด เผยให้เห็นหาดทรายกว้าง จะมีนักท่องเที่ยวมานั่งรอชมดวงอาทิตย์ตกกันอย่างคึกคัก เราแอบพกเฟรมและผ้าขาวบางมาเพ้นต์รูปสวย ๆ ริมหาดฆ่าเวลาด้วย ขอบอกว่าชิลล์สุด ๆ ไปเลย


หรือถ้าไม่อยากไปไหนไกล ก็แค่เปลี่ยนบรรยากาศในห้องนอนมาเป็นดินเนอร์ริมทะเลดูไหมล่ะ ทางโรงแรมเซนทารา อ่าวนาง บีช รีสอร์ต แอนด์ สปา เขาก็มีบริการดินเนอร์บุฟเฟ่ต์ริมหาดเช่นกัน กับไลน์อาหารนานาชาติ ที่มีทั้งอาหารไทย ยำแซ่บ ๆ ผัดไทยสูตรดั้งเดิม บาร์บีคิวซีฟู้ดแบบจัดเต็ม ทั้งปลา หอย ปลาหมึก กุ้ง หมู เนื้อ ไก่ รวมถึงของหวาน ไอศกรีม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มาแบบจัดเต็ม ในบรรยากาศผ่อนคลาย โต๊ะแบบลองเทเบิ้ล ให้เราได้นั่งสานสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ บนโต๊ะได้อย่างสนุกสนาน ตกดึกยังมีโชว์ควงไฟให้เราได้ดูด้วย อ้อ อยากให้ลองถอดรองเท้า แล้วเดินลงไปบนหาดทรายดู ขอบอกว่าหาดทรายที่อ่าวนางนี้พิเศษกว่าที่อื่น เพราะทั้งหาดจะเต็มไปด้วยเปลือกหอยชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่รวมเข้ากับทรายเม็ดละเอียด เป็นสัมผัสที่เราชอบจริง ๆ เดินย่ำทั้งคืนก็ยังได้
ของกินอร่อย ๆ ฟื้นฟูจิตใจได้ตลอดแหละ


เรื่องนี้คงไม่มีใครไม่เห็นด้วย เพราะไม่ว่าเราจะเหนื่อยล้าขนาดไหน แต่อาหารอร่อย ๆ ก็จะช่วยเยียวยาเราได้เสมอ ยิ่งเป็นอาหารใต้แบบดุ ๆ เผ็ด ๆ รสถึง มือถึงแบบหรอยแรงด้วยแล้ว ขอบอกว่าสมองที่ล้า ๆ เจอรสจัด ๆ เข้าไปนี่โล่งเลยนะ
พอพูดถึงอาหารใต้ เราขอปักหมุดไว้กับ 2 ร้านนี้ ที่ต้องบอกว่าเป็นร้านฮอตฮิตของกระบี่เลยแหละ เราแวะร้านแรกที่ The Tree House Cafe หรือร้านบ้านต้นไม้ ที่ต้อนรับเราด้วยความร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์ ที่เกมือนยกร้านมาไว้กลางป่ากันเลย ตัวอาหารเองนั้นก็ต้องเรียกว่ารสจัดถึงใจ และอาหารก็หลากหลาย ไม่ได้มีแค่อาหารใต้เพียงอย่างเดียว มาถึงที่นี่เราอยากให้ลองขนมจีนน้ำยาปู ที่เรียกว่าให้ขนมจีนมาน้อยไปไหม เพราะปูในน้ำยานั้นเยอะเวอร์! ส่วนรสชาติก็ร้อนแรงตามสไตล์น้ำยาใต้ อีกจานเป็นข้าวผัดสับปะรด ที่แม้ไม่ใช่มิกกี้เมาส์ และมินนี่เมาส์มาขายในตลาดน้ำให้เรากิน แต่รสชาติของที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน


ร้านต่อมาคือ เรือนไม้ ร้านอาหารเก่าแก่คู่จังหวัดกระบี่ ที่เสิร์ฟอาหารใต้รสจัดจ้านแท้ ๆ ตัวร้านตั้งอยู่บนเส้นกระบี่-เขาทอง เส้นทางระหว่างสนามบินกับอ่าวนางพอดิบพอดี ตัวร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นหลังคาโดมทรงสูง ประดับใต้หลังคาด้วยเครื่องจักสานรูปปลาตัวใหญ่เบิ้ม อีกส่วนจะเป็นเหมือนบ้านหลังเล็ก ๆ น่ารัก มาที่นี่เราขอแนะนำให้สั่งน้ำพริกกุ้งเสียบ (150 บาท) ที่รสชาติกลมกล่อมมาก กุ้งเสียบให้มาแบบแน่น ๆ ที่ชอบคือจานผักสดที่มีผักท้องถิ่นไม่คุ้นให้ลองเยอะแยะ และยังมีสาหร่ายพวงองุ่นมาให้ด้วย อีกจานคือใบเหลียงผัดไข่ใส่กุ้ง (180 บาท) คืออาหารจากฟากฟ้ามาก ๆ ใครจะไปคิดว่าผักง่าย ๆ ผัดใส่น้ำตาล น้ำปลา น้ำมันหอย ใส่ไข่ จบ แต่อร่อยมากกก

ปิดท้ายด้วยคาเฟ่สวย ๆ ที่ถ้ามากระบี่ต้องแวะอย่าง C'More Mount Bar คาเฟ่ท่ามกลางหุบเขา นอกจากโลเคชั่นที่มีถูเขาสูงล้อมรอบ และตั้งอยู่ติดกับสวนปาล์มแล้ว เรายังชอบการออกแบบร้านที่หยิบเอาไม้ไผ่มาสานกันเป็นรูปทรงล้อไปกับภูเขารอบ ๆ อีกด้วย ที่นี่มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และของหวาน จะสั่งกาแฟ ช็อคโกแลต ชาเย็น ไปจนถึงช็อกโกแลตลาวา หรือฮันนี่โทสต์ ก็มีพร้อม แต่บอกก่อนนะว่าร้านนี้ฮิตหน่อย ที่นั่งเขาไม่ได้มีเยอะมาก ยังไงก็แบ่ง ๆ กันนั่งแล้วกันเนอะ

บอกแล้วว่าไปกระบี่นั้นง่ายมาก แถมยังมีอะไรให้ทำเยอะแยะ แถมยังเดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ อย่างเราเลือกใช้บริการของสายการบิน Nok Air ที่บินจากดอนเมืองถึงกระบี่ ไฟลต์ออกตรงเวลา เราชอบบินนกแอร์เพราะเป้นโลว์คอสแอร์ไลน์ที่มีที่นั่งกว้าง สเปซระหว่างที่นั่งมากพอไม่อึดอัด แถมยังมี 'นกชื่นใจ' น้ำดื่มขวดน่ารักแจกดับกระหายบนเครื่องด้วย ปีใหม่นี้ลองให้รางวัลตัวเองดูบ้างก็ดีเหมือนกันนะ