12 ร้านหนังสืออิสระทั่วไทยไม่ไปไม่รู้!

คำนำคือร้านหนังสือในบ้านไม้เก่าแก่บนถนนราชดำเนิน รายการหนังสือที่นี้ครอบคลุมทั้งวรรณกรรมไทยและวรรณกรรมแปล รวมทั้งหนังสือเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม และวรรณกรรมสำหรับเด็ก นอกจากนี้ที่ร้านยังมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะและเวิร์กช็อปต่างๆ ด้วย

Tip: เมื่อเลือกซื้อหนังสือจนหนำใจแล้ว เดินเลาะไปตามถนนราชดำเนินก็จะเจอกับพระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์แห่งแรกและแห่งที่สูงที่สุดของประเทศไทย

 

บุ๊คโทเปียคือร้านหนังสือขนาดเล็กบรรยากาศอบอุ่นซึ่งตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของอุทัยธานี ชื่อร้านมีที่มาจากความตั้งใจของพี่อ้วน-วิรัตน์ โตอารีย์มิตร (หรือที่นักอ่านรู้จักในนามญามิลา) ที่ต้องการให้ร้านเป็นดินแดนแห่งการอ่าน ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวอุทัยธานีก็อย่าลืมแวะไปเลือกซื้อหนังสือติดมือกลับบ้านซักเล่ม หรือแวะไปจิบกาแฟและชวนพี่อ้วนคุยก็ได้

Tip: ถ้ามีเวลาเหลือลองขอยืมจักรยานของที่ร้านแล้วปั่นเลียบแม้น้ำสะแกกรังไปวัดอุโปสถาราม วัดเก่าแก่คู่เมืองอุทัยธานี

 

อีกหนึ่งร้านหนังสืออิสระที่ต้องแวะหากไปอุทัยธานีคือร้านกาลครั้งหนึ่ง ที่นี่มีทั้งหนังสือมือหนึ่งและมือสอง โดยเน้นไปที่งานวรรณกรรม แต่ก็รวบรวมหนังสือด้านประวัติศาสตร์ การเมือง และปรัชญาไว้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ร้านกาลครั้งหนึ่งยังวางขายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากฟาร์มในพื้นที่ รวมไปถึงของทำมือต่างๆ เช่น สมุดและโปสการ์ดอีกด้วย

Tip: ถ้ามีเวลาอย่าลืมขับรถขึ้นเขาสะแกกรัง จุดชมวิวเมืองอุทัยธานี

 

ร้านเล่าตั้งอยู่บนถนนท่องเที่ยวอย่างนิมมานเหมินทร์ เราจึงสามารถไปเลือกซื้อหนังสือได้นานถึง 5 ทุ่ม! ที่นี่มีหนังสือหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมคลาสสิค วรรณกรรมร่วมสมัย และหนังสือ non-fiction ด้านศาสนา ปรัชญา และการเมือง นอกจากหนังสือยังมีโปสการ์ด สมุดทำมือ และของจุกจิกจากหลากหลายศิลปินที่มีพื้นเพอยู่ในเชียงใหม่ ดังนั้นถ้าอยากสนับสนุนร้านหนังสืออิสระและสนับสนุนศิลปินท้องถิ่นต้องห้ามพลาด!

Tip: ถ้าไปร้านเล่าแล้วเดินเล่นต่อบนถนนนิมมานได้เลย แต่ถ้าใครเดินนิมมานบ่อยจนเบื่อแล้ว เราแนะนำให้ดูไกด์นี้เพราะเชียงใหม่มีอะไรเจ๋งๆ ให้ไปดูและไปทำอีกเพียบ! เตรียมวางแผนล่วงหน้าสำหรับฤดูหนาวปีนี้ไว้ได้เลย

 

The Booksmith คืออีกหนึ่งร้านหนังสือที่ตั้งอยู่ในนิมมานเหมินทร์ ที่นี่มีหนังสือทั้งไทยและเทศ โดยเน้นไปที่หนังสือด้านศิลปะและการออกแบบ ความพิเศษคือเจ้าของร้าน สิโรตม์ จิระประยูรเชี่ยวชาญด้านการนำเข้าหนังสือมากๆ ดังนั้นหนังสือหลายปกที่ The Booksmith จึงหาได้แค่ที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ในร้านยังวางขายสมุด โปสการ์ด กระเป๋าโท้ท และของจุกจิกน่ารักๆ อีกด้วย ระวังเข้าไปแล้วจะหลงออกมาไม่ได้

Tip: ถ้าใครไปเชียงใหม่ด้วยทริปทำงานแล้วไม่มีเวลาไปเดินเล่นที่นิมมานฯ สามารถแวะร้าน The Booksmith สาขาสนามบินเชียงใหม่แทนได้นะ อาจเล็กกว่าสาขาแรกนิดนึงแต่ก็มีหนังสือใหม่ๆ ให้เลือกดูเยอะอยู่ดี

 

ร้านหนังสือเล็กๆ ที่รักเป็นร้านขนาดเล็กสมชื่อตั้งอยู่ในคูหาเดียวกับคลีนิกรักษาสัตว์ เพราะอาชีพดั้งเดิมของเจ้าของร้านอย่างมิ้น-พงษ์ประสิทธิ์ พงษ์พิจิตรคือสัตวแพทย์นั่นเอง รายการหนังสือในร้านมีทั้งวรรณกรรมคลาสสิคและวรรณกรรมร่วมสมัยซึ่งเจ้าของร้านเป็นผู้คัดเลือกด้วยตัวเองตามความชอบส่วนตัว ดังนั้นหมอมิ้นให้คำแนะนำเกี่ยวกับหนังสือในร้านได้ทุกเล่ม ถ้าสงสัยก็ถามได้เลย

Tip: ถ้าเลือกหนังสือเสร็จแล้วอย่าลืมเดินข้ามถนนไปดูศิลปะแบบพม่าและวิหารไม้สักทองที่วัดศรีรองเมืองในลำปางด้วยนะ

 

หลังจากไปเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่อื่นมาซักพัก บิ๋ง-บุรุษ ไชยรัตน์ เจ้าของร้าน อยากกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด จึงเปิดร้านเฟื่องนครซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นร้านกาแฟก่อนจะขยับขยายมาเป็นร้านหนังสือ ที่นี่วางขายหนังสือหลากหลายทั้งวรรณกรรมคลาสสิคและหนังสือ non-fiction ด้านปรัชญา การเมือง ประวัติศาตร์ ฯลฯ นอกจากนี้ที่ร้านยังจัดงานอีเวนต์ทุกสุดสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมตัวของนักอ่านในเมืองโคราชอย่างแท้จริง

Tip: ร้านเฟื่องนครตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่า ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างวัดบึง และอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เราขอแนะนำให้เดินเที่ยวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาเลือกหนังสือและพักเติมพลังด้วยกาแฟและขนมนานาชนิด

 

น้ำพุคือร้านหนังสือเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองบุรีรัมย์มาตั้งแต่ปี 2524 นานชนิดที่นักอ่านทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าต้องรู้จัก โดยเฉพาะนักอ่านจากรั้วราชภัฏบุรีรัมย์ซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ 1.4 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ที่ร้านน้ำพุมีทั้งหนังสือมือหนึ่งและมือสองครอบคลุมหลากหลายประเภทหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมหรือ non-fiction ด้านต่างๆ เช่น ประวัติศาสตร์ การเมือง และปรัชญา

Tip: เดินจากร้านไปประมาณ 1 กิโลเมตรจะเจอคลองละลมหรือคูเมืองโบราณซึ่งโบราณสมชื่อเพราะมีมาตั้งแต่ยุคทวารวดี หรือถ้าเป็นแฟนบอลขับรถออกไปหน่อยอีก 4 กิโลเมตรก็เป็นสนามไอ-โมบายสเตเดียมแล้ว

 

ร้านหนังสือฟิลาเดเฟียเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2552 ในอาคารอิฐหลังย่อม บรรยากาศภายในเหมือนห้องอ่านหนังสือที่บ้าน ที่นี่มีหนังสือหลากหลายแนวทั้งวรรณกรรมและ non-fiction  นอกจากนี้ฟิลาเดเฟียยังเป็นคาเฟ่ที่มีกาแฟและขนมให้บริการและบางครั้งบางคราวก็มีนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนมาจัดแสดงที่นี่ด้วย

Tip: ถ้าหาที่พักในเมืองไม่ได้ ที่ร้านฟิลาเดเฟียมีห้องพักให้บริการในราคาคนละ 150 บาทต่อคืน

 

ท้ายตลาดเป็นทั้งร้านหนังสือ ร้านชา และแกลเลอรี่แสดงงานเซรามิคส์ในที่เดียว ที่นี่เน้นหนังสือเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม ท่องเที่ยว และหนังสือรวมบทกวี

Tip: เดินไปนิดเดียวก็เป็นตลาดหนองมนที่มีทั้งขนมและของฝากนานาชนิด หรือจะนั่งรถต่อไปอีก 3.5 กิโลเมตรก็ถึงทะเลบางแสนแล้ว

 

คำว่า ‘บูคู’ เป็นภาษามลายูแปลว่าหนังสือ บนชั้นวางของร้านหนังสือบูคูเต็มไปด้วยหนังสือหลากหลายประเภทโดยเน้นหนังสือจากสำนักพิมพ์ขนาดเล็ก นอกจากนี้ร้านยังจัดอีเวนต์และกิจกรรมด้านเพศวิถีและสิทธิมนุษยชนอยู่เป็นประจำอีกด้วย อาจฟังดูจริงจังใช่ไหมล่ะ แต่อย่ากลัวเลยเพราะเรารับรองว่าบรรยากาศร้านน่ารักมาก ถ้าไปปัตตานีต้องแวะไปเลือกหนังสือและเล่นกับแมวที่ร้านนะ

Tip: เผื่อเวลาไว้เดินชมวิวเลียบแม่น้ำปัตตานีและดูวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำ และอย่าลืมแวะไปเดินตลาด  มัสยิดกลาง รวมถึงศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวซึ่งอยู่ห่างจากร้านในรัศมีไม่เกิน 2 กิโลเมตรเท่านั้น

 

ร้านหนัง(สือ) 2521 หรือที่รู้จักกันกว้างขวางในชื่อ Bookhemian ตั้งอยู่ในตึกแถวสไตล์ชิโน-โปรตุกีสใจกลางย่านเมืองเก่าในภูเก็ต ที่นี่มีหนังสือครบครันทั้งวรรณกรรมคลาสสิคและวรรณกรรมร่วมสมัย อยากบอกว่าหนังสือใหม่ไม่แพ้ร้านหนังสือในกรุงเทพฯ เลยนะ ภายในร้านเป็นร้านคาเฟ่ให้นักอ่านได้เข้าไปนั่งชิวและให้นักท่องเที่ยวได้พักขาหลบไอแดด เราติดใจ Shakerato (90 บาท) กาแฟผสมเปลือกส้มนาเวลและน้ำผึ้งที่รสชาติหอมหวานกลมกล่อมมากๆ หรือถ้าใครไม่ดื่มกาแฟเราแนะนำให้ลองเมนูโซดาชื่นใจเมนูไหนก็ได้ แต่เราชอบ Elder Flower & Lemon Soda (85 บาท) ที่สุด แล้วอย่าลืมซื้อขนมพื้นเมืองบันเจียนโก้ย (20 บาท) มากินแกล้มเบาๆ ด้วยล่ะ นอกจากนี้บริเวณด้านหลังร้านยังเป็นสเปซสำหรับจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการศิลปะ งานฉายภาพยนตร์ (ที่นี่ดีลกับ Documentary Club ไว้ คอสารคดีภูเก็ตดีใจได้เลย!) เวิร์กช็อปกับนักเขียน รวมไปถึงงานแฟร์เล็กๆ ซึ่งขายสินค้าจากศิลปินท้องถิ่นและศิลปินจากเชียงใหม่ด้วย

Tip: เราแนะนำให้ไปวันอาทิตย์เพราะจะมีการปิดถนนหน้าร้านเพื่อจัดงานถนนคนเดินหลาดใหญ่ ของกินและสินค้าจุกจิกเพียบ!