Barn House สีขาวที่เชื่อมเขาใหญ่ไว้กับตัวเรา
เสียงจิ้งหรีดร้องดังมาจากกอหญ้าแอฟริกันที่ถูกปลูกรายล้อมตั้งแต่ทางเดินด้านหน้า ไปจนถึงด้านหลังล็อบบี้ขนาดเล็กเพื่อปูทางนำไปสู่บ้านพักสไตล์โรงนา หรือ Barn House สีขาวสะอาดตาหลังใหญ่ด้านหลัง นี่เป็นเหมือนเสียงพนักงานต้อนรับ (ที่ไม่ต้องจ่ายเงินจ้างและไม่ใช่คน!) ที่เราจะได้ยินทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่ Roukh Kiri (รุกข์ คีรี) รีสอร์ตเปิดใหม่ที่เนื้อหอมที่สุดในเขาใหญ่ตอนนี้
ไม่ใช่แค่เสียงจิ้งหรีดในตอนเย็นย่ำช่วงหลังเช็กอินเข้าห้องพักเรานั้น แต่การนอนในบ้านพักหลังงามที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบโมเดิร์นคันทรี่ของเราในครั้งนี้ ยังทำให้เราได้สัมผัสที่ถึงธรรมชาติรอบตัวแบบใกล้ชิดในระดับที่ทำให้คนเมืองอย่างเรากลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเขาใหญ่ได้เลยทีเดียว
บ้านพักทั้ง 12 หลัง ถูกแบ่งย่อยออกมาเป็น 3 รูปแบบ คือ Mountain View Villa, Pool Villa และ Grand President Villa ซึ่งในวันนี้้เราเลือกจองมาเป็นบ้านพักแบบพูลวิลล่าที่ทำให้เราหลงรักได้ตั้งแต่ประตูทางเข้าที่เปิดมาเจอกับห้องนอนกลางโถงสูงภายใต้หลังคาเปลือกไม้สีเข้ม ความเก๋คือเราสามารถเปิดประตูทะลุจากปลายเตียงไปเจอกับสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ถูกจัดวางให้ผิวน้ำสีฟ้าตัดกับวิวขุนเขาสีเขียวด้านหลังได้สวยงามระดับมาสเตอร์พีซ
ส่วนของห้องน้ำภายในถูกดีไซน์ด้วยมู้ดสีขาวโปร่ง ๆ มีแค่ประตูกระจกใสที่คั่นอยู่ระหว่างฝักบัว ตัวเรา และสวนสีเขียวด้านนอก จุด ๆ นี้ใครที่อยากซึมซับกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดติดขอบ (อ่าง) ก็สามารถเดินออกไปในโซนเอาต์ดอร์ที่มีไฮไลต์เป็นอ่างอาบน้ำขนาดยักษ์ให้เราได้นอนแช่น้ำกลางท้องฟ้าและหมู่ดาวในยามค่ำคืน หรือจะนอนชมวิวเขาใหญ่สีเขียวขจีในตอนเช้าก็ได้เหมือนกัน
ห้องอาหารส่วนกลาง กับเตาผิงและห้องสมุดโอเพ่นแอร์
อย่าเพิ่งเคลิบเคลิ้มไปกับเตียงนุ่ม ๆ อ่างอาบน้ำไซซ์ใหญ่ และสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ห้องพักจนลืมออกมาดื่มด่ำกับบรรยากาศในส่วนกลางของโรงแรมซะล่ะ! เพราะเราขอบอกไว้เลยตรงนี้ว่าในช่วงเย็นย่ำค่ำคืนแบบนี้ ห้องอาหารที่ส่วนกลางจะดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมาด้วยความโรแมนติกของแสงไฟในเตาผิงขนาดใหญ่ ที่แขกอย่างเราสามารถนั่งอิงโซฟาและผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่น ก่อนจะเข้าไปเติมเต็มกระเพาะอาหารด้วยเมนูสุดอลังการ อาทิ Rouhk Kiri Salad จากผักออร์แกนิกที่ปลูกและเก็บเสิร์ฟสด ๆ จากสวนผักภายในโครงการ หรือจะจัดเต็มด้วย Pork Chop Set จานเบ้อเริ่มที่ทำให้เราอิ่มท้องจนเดินกลับบ้านพักแทบไม่ไหว
ทีเก๋คือบรรยากาศแสนโรแมนติกในมื้อค่ำ จะถูกแทนที่ด้วยเสียงนกเจื้อยแจ้ว รวมถึงแสงสวย ๆ ที่ส่องลงมาในโซนห้องสมุดแบบโอเพ่นแอร์ที่แฝงตัวอยู่ข้างสระว่ายน้ำส่วนกลาง และสำหรับเมนูอาหารในช่วงเช้าและกลางวันก็ทำให้เราฟินนาเล่ได้ไม่แพ้มื้อดินเนอร์ กับเมนูไฮไลต์ อาทิ ผัดโรสแมรีรุกข์ คีรี ที่ใช้โรสแมรีมาผัดกับหมูสับหรือเนื้อสับแทนการใช้ใบกะเพรา ให้กลิ่นและรสชาติแปลกลิ้น แต่อร่อยแบบไม่เหมือนใคร รวมถึงเส้นหมี่ราดหน้าคะน้าออร์แกนิก ที่เหมือนเป็นซิกเนเจอร์จานสำคัญที่ใครมาพักที่นี่ต้องห้ามพลาด!
ชาวซอยมิลค์แห่งกรุงเทพมหานครคนไหนที่กำลังมองหารูตเที่ยวใกล้ ๆ ไว้หลบความวุ่นวายในโซนเออร์เบิร์น ไปพักผ่อนและดื่มด่ำกับวิวขุนเขา ให้ตัวเองกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เราขอแนะนำให้รีบพุ่งตัวไปจองห้องพักสุดเอ็กซคลูซีฟที่ Roukh Kiri (รุกข์ คีรี) กันเลยตอนนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าเขามีแค่ 12 หลังเท่านั้น คิวตอนนี้เลยยาวไปไกลเกือบถึงสิ้นปีโน่นแล้วนะ!
Roukh Kiri Khaoyai Hotel (โรงแรม รุกข์ คีรี เขาใหญ่) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร. 044-001-300 www.roukh.com
