Skip to main content
AdSense

เที่ยวครบ 6 ภาคกับ 6 มิวเซียมสุดเจ๋งทั่วไทยที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก

ทางสภาพิพิธภัณฑ์สากลของโลกได้แต่งตั้งวันที่ 18 พ.ค. ของทุกปีให้เป็นวันพิพิธภัณฑ์สากล เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนทั่วโลกกลับมาสนใจพิพิธภัณฑสถานที่รวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเอง และเพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของพิพิธภัณฑ์ในการแลกเปลี่ยนและการศึกษาวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ และเนื่องจากธีมของปีนี้คือ "พิพิธภัณฑ์กับภูมิวัฒนธรรม" (Museums and Cultural Landscapes) เราจึงถือโอกาสรวบรวม 6 มิวเซียมที่เราชอบจาก 6 ภาคทั่วไทยมาแนะนำให้รู้จักกัน เพราะเราเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นเคย หรือยังไม่มีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมชมซักที รับรองว่าได้ทั้งความรู้ใหม่ๆ และได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้างตามไปดูกัน! 

เที่ยวครบ 6 ภาคกับ 6 มิวเซียมสุดเจ๋งทั่วไทยที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก
May 18, 2016 Bangkok time

คอหนังทั้งหลายควรไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยที่หอภาพยนตร์ซักครั้ง เพราะภายในอาคารสีเหลืองขนาด 2 ชั้นนี้อัดแน่นไปด้วยข้อมูล รูปภาพ และวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์ ตั้งแต่สเลท คอสตูม พร็อพประกอบฉาก แผ่นเสียง สูจิบัตร ของจุกจิกนานาชนิด ไปจนถึงกล้องถ่ายหนังแบบฟิล์ม เครื่องฉายหนังแบบโบราณ และเครื่องทำซับไตเติ้ล 

นอกจากนี้บางห้องยังจำลองฉากเด็ดจากหนังไทยคลาสสิคเอาไว้ด้วย ถ้าใครทันได้ดูน่าจะอินและฟินสุดๆ ความดีงามอยู่ตรงที่มีเจ้าหน้าที่นำทัวร์ทุกรอบ อยากรู้อยากเห็นอะไรก็ถามได้เต็มที่เลย เราแอบเพิ่มคะแนนพิศวาสให้กับพิพิธภัณฑ์เพราะว่าในบริเวณเดียวกันยังมีห้องสมุดภาพยนตร์ ซึ่งไม่ได้มีแค่หนังสือ แต่ยังมีภาพยนตร์ไทยและคลิปวิดีโอเก่าๆ ให้เราเลือกดู แถมยังมีโรงภาพยนตร์ศรีศาลายาที่จัดฉายหนังฟรีอยู่เป็นประจำอีกด้วย! ใครสนใจสามารถตามไปโหลดแอพพลิเคชั่นได้ทาง itunes นะ 

หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) 94 หมู่ 3 ถ.พุทธมณฑลสาย 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล  จ.นครปฐม เวลาทำการ เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 3 รอบ 10.00 น., 13.00 น. และ 15.00 น. โทร.02-482-2013,081-550-8716 เข้าชมฟรี


(Photo Credit: calflier001)
 
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นบุกยึดประเทศไทยและสร้างทางรถไฟสายมรณะ (ไทย-พม่า) ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 415 กิโลเมตรเพื่อใช้ประโยชน์ทางสงคราม ด้วยเส้นทางสลับซับซ้อนและในบางครั้งก็เจอหินผาขวางกั้น จึงให้เชลยศึกและกรรมกรนับร้อยนับพันต้องสังเวยชีวิตจากการตรากตรำทำงานหนักเกินร่างกายมนุษย์จะรับไหว พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำจึงถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจของรัฐบาลออสเตรเลียที่จะร่วมรำลึกถึงเชลยศึกชาวออสเตรเลียผู้จากไป
 
(Photo Credit: calflier001)
 
ภายในตัวมิวเซียมประกอบไปด้วยข้อมูล รูปภาพ คลิปวิดีโอเหตุการณ์จริงในอดีต และข้าวของเครื่องใช้ของเชลยศึก นอกจากนี้ความพิเศษคือเรายังสามารถเดินไปด้านหลังมิวเซียมเพื่อชมช่องเขาขาด ช่องเขาระยะทางเพียง 17 เมตรซึ่งเป็นผลงานจากแรงงานมนุษย์ล้วนๆ ปราศจากเครื่องทุ่นแรงใดๆ ทั้งสิ้น โดยในบริเวณนั้นเราจะได้เห็นแนวทางรถไฟที่หลงเหลืออยู่ เศษซากโซ่ตรวน ตลอดไปจนถึงไม้หมอนที่ว่ากันว่าเสียไป 1 ชีวิตต่อ 1 ไม้หมอน
 
(Photo Credit: Kim McKenzie)
 
ถ้ามีเวลาเราสามารถเดินเลาะจากช่องเขาขาดไปถึงสถานีหินตกได้ (4 ชม.++) แต่ส่วนใหญ่คนมักจะเดินดูแค่บริเวณช่องเขาขาดซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. เท่านั้น อย่าลืมใส่รองเท้าเดินสบายเพราะทางเป็นหินกรวดขรุขระนะ ถ้าอยากจัดทริปไปเที่ยวกาญจนบุรีก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมด้วยล่ะ
 
(Photo Credit: TAT)
 
กิโลเมตรที่ 64–65 ทางหลวงหมายเลข 323 (กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เวลาทำการ ทุกวัน 09.00-16.00 น. โทร.03-453-1347 เข้าชมฟรี และมี Audio Guide ให้ยืม โดยต้องจ่ายมัดจำ 200 บาท/เครื่อง

นอกจากบ้านหลวงราชไมตรี และชุมชนริมน้ำจันทรบูรแล้ว เราว่าคนรักน้ำรักปลาควรแวะไปศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนด้วยนะ มิวเซียมทางธรรมชาติแห่งนี้แบ่งออกเป็นหลายสาวนและตั้งอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่เราอยากหยิบยกไฮไลต์เด็ดมาแนะนำ 2 ที่ นั่นคือสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติฯ (อควาเรียมที่คู่พระนางในภาพยนตร์เรื่อง Snap แค่ได้คิดถึง เข้าไปรำลึกความหลังกันไง!) ซึ่งมีปลาหลากหลายพันธุ์จัดแสดงอยู่ในตู้ แม้อควาเรียมจะค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีโซนดีๆ อยู่ เราชอบบริเวณอุโมงค์ที่มีปลากระเบนตัวใหญ่แหวกว่ายไปมาเหนือศีรษะมากๆ

(Photo Credit: Chanjeed.com)

และอีกที่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก (แต่ถ้าขับรถเข้าไปจะสะดวกกว่า) ก็คือหน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำอ่าวคุ้งกระเบน ที่มีกระชังปลาขนาดใหญ่และปลาหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาหมอทะเล ปลาฉลามเสือดาว เต่าทะเล ฯลฯ เราสามารถซื้อปลาทูตัวจ้อยจากร้านข้างหน้าไปให้อาหารปลาได้ ความดีงามคือวิวจากบริเวณนั้นสวยงามมาก! 

31 หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เวลาทำการ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ทุกวัน 8.30-16.30 หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำอ่าวคุ้งกระเบน ทุกวัน 08.30-17.00 น.โทร.03-943-3216-8 เข้าชมฟรี


ช่วงเดือนที่ผ่านมาคนอาจจะฮิตไปเที่ยว Dinosaur Planet กัน แต่ถ้าอยากสัมผัสความเป็น Jurassic World อย่างแท้จริงเราแนะนำให้ไปภูกุ้มข้าว ที่อยู่ของซากไดโนเสาร์กินพืชภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเนกว่า 7 ตัว และซากกระดูกและฟันของไดโนเสาร์ทั้งกินพืชและกินเนื้ออีกกว่า 700 ชิ้น นับได้ว่ามิวเซียมเชิงประวัติศาสตร์แห่งนี้มีซากไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยเชียวนะ!

ภายในอาคาร 2 ชั้นแบ่งเป็น 6 โซนตั้งแต่การถือกำเนิดโลก ยุคไดโนเสาร์ครองเมือง ไปจนถึงยุคที่มนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการ และแน่นอนว่าก็ต้องมีหุ่นจำลองและโครงกระดูกไดโนเสาร์อันยิ่งใหญ่อลังการให้เราดูด้วย! 

200 หมู่ 11 ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์) 09.00-17.00 น. โทร.04-387-1014, 04-387-1613 ค่าธรรมเนียมการเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท


ถ้าฤดูหนาวปีนี้ตั้งใจจะขึ้นเหนือ ขอบอกว่าสถาปัตยกรรมดีๆ ในเชียงรายไม่ได้มีแค่วัดร่องขุ่นนะ เราอยากแนะนำอีกหนึ่งสถานที่น่าไปเยี่ยมชม นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์บ้านดำของอ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับไปเมื่อปี 2557 ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างใหญ่นี้ประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสไตล์ล้านช้าง ล้านนา และสุวรรณภูมิจำนวนกว่า 40 หลัง โดยแต่ละหลังก็จะมีรูปทรงและรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป รวมทั้งมีสิ่งของสะสมของอ.ถวัลย์จัดแสดงตามหมวดหมู่ต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหนัง หรือสตาฟสัตว์ ฯลฯ

นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันนี้ยังมีบ้านดำแกลเลอรี่ซึ่งจัดแสดงผลงานของอ.ถวัลย์ด้วย ถ้าใครเป็นแฟนคลับศิลปินมากความสามารถผู้นี้หรือชอบดูงานสถาปัตยกรรมสวยๆ แปลกตาต้องห้ามพลาด!

414 หมู่ 13 ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย เวลาทำการ ทุกวัน 9.00-17.00 น. (ปิดพักเที่ยง 12.00-13.00 น.)โทร.053-776-333 เข้าชมฟรี


ภาคใต้: อนุสรณ์สถานสึนามิ จ.พังงา
(Photo Credit: Aecglobe.com)

เราเชื่อว่าทุกคนยังจำมหันตภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่พัดถล่มหลายจังหวัดทางภาคใต้ของไทยเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ได้ วันนั้นเรือตรวจการณ์ 813 (บุเรศผดุงกิจ) กำลังจอดปฏิบัติการอยู่บริเวณชายฝั่งเขาหลัก เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้น คลื่นได้พัดพาเรือลำนี้เข้าชายฝั่งมาราว 1 กิโลเมตร และเมื่อเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ความสงบ เรือจึงยังถูกคงไว้ที่เดิมเพื่อเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตัวอนุสรณ์สถานเองค่อนข้างเล็ก และไม่มีอะไรมากนอกจากเรือและข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์สึนามิเพียงเล็กน้อย แต่เราก็ยังอยากเชียร์ให้แวะไปดูอยู่ดีนะ เพื่อเป็นการเตือนใจเรื่องมาตรการการรับมือกับภัยพิบัติและร่วมรำลึกถึงผู้ที่จากไปด้วย ถ้าผ่านช่วงมรสุมไปแล้วสนใจจะไปเที่ยวภาคใต้ก็อย่าลืมแวะไปชมกันล่ะ :) 

หมู่ 5 บ้านบางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เข้าชมฟรี


คราวหน้าเราจะชวนไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามนะ :)

AdSense
AdSense
AdSense