นิทรรศการเดี่ยวที่จัดแสดงผลงานของ Hom Nguyen ศิลปินเชื้อสายเวียดนาม-ฝรั่งเศส ผู้เป็นที่ยอมรับทั้งในหมู่ผู้ชมและนักสะสม การันตีด้วยการจัดแสดงทั้งแกลเลอรีและพิพิธภัณฑ์ รวมถึงได้รับเหรียญรางวัลอิสริยาภรณ์ขั้นอัศวินในฐานะผู้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศฝรั่งเศส 

 

นิทรรศการครั้งนี้คือการกลับมาแสดงงานในประเทศไทยแบบเต็มรูปแบบ พร้อมผลงานที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ นำเสนอผลงานภาพวาดพอร์เทรตที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Hom Nguyen ด้วยฝีแปรงที่ลากผ่านกันไปมาบนระนาบของผลงาน เกิดเป็นเส้นสายทับซ้อน และเชื่อมโยงเรื่องราวและผู้คนเข้าหากันผ่านกาลเวลาและสถานที่ที่ไกลออกไป ภาพวาดพอร์เทรตของเขาจึงเต็มไปด้วยใบหน้าของผู้คนชาวเอเชีย ใบหน้าเหล่านี้ได้กลายเป็นเสียงสะท้อนแห่งความทรงจำที่ไม่คุ้นชินเกี่ยวกับเวียดนามของศิลปินเอง ที่เติบโตมาในครอบครัวซึ่งเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากเวียดนามและอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศส

 

---

 

 

อิเวนต์เอาใจนักปั่นที่ยกทัพทั้งร้านค้าจักรยานและของมือสองกว่า 30 บูท มาให้ชอปกันแบบจุใจ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าจักรยาน ของตกแต่ง เสื้อผ้า อะไหล่ ฯลฯ มองหาอะไรอยู่ก็มาเลือกส่องกันได้ที่นี่เลย ส่วนใครมีลูกหลานกำลังหัดปั่น ก็พามาลองสนาม Balance Bike ที่จัดไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองปั่นกันแบบสนุกและปลอดภัยด้วย

 

---

 

 

อิเวนต์ดนตรีที่ชวนเราไปเอน คลาย และหายใจ ในพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาให้ 'นอน' ได้อย่างปลอดภัย ภายใต้แสงไฟสลัวและเสียงดนตรีมัว ๆ ที่ชวนกึ่งหลับสลับตื่นจากศิลปินอย่าง } } } } { { { { + Yuki Suwansopa, Drugs Not Job, MEENSLAB, Chayut Sithiprom, Yui Saowakhon และ JIPI 

 

---

 

 

 

แม้จะล่วงเข้าสู่ครึ่งหลังของปีที่ 3 ที่เราใช้ชีวิตอยู่กับโควิดโคใจ แต่ความรู้สึกสับสนและเคว้งคว้างก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญและดูจะไม่จางหายไปง่าย ๆ ซึ่งทาง Eyedropper Fill ทีมนักออกแบบประสบการณ์ผ่านนิทรรศการและแสง สี เสียง ชั้นนำของประเทศไทย เขาก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้ และก็ยังเป็นห่วงทุกคนที่ยังคงไม่สามารถกลับมา 'connect' หรือเชื่อมต่อกับตัวเองได้ จึงนำมาสู่ความตั้งใจในการกลับมาเปิดพื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้ไปสำรวจหัวใจและโอบกอดตัวเองอีกครั้ง 

 

'หมู่บ้านแห่งการเยียวยาหัวใจ' คือการรวบรวมนิทรรศการที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว มาจัดแสดงเพื่อให้ทุกคนได้กลับไปฮีลใจกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น AramArom ห้องจัดแสดงศิลปะ Interactive Art จำนวน 6 ห้องที่ล้วนถูกออกแบบมาให้ทำงานกับ 5 ประสาทสัมผัส ให้เราผ่อนคลายและสำรวจความรู้สึกไปพร้อมกัน Mental-Verse จักรวาลใจ จากปีที่แล้วที่มีการฉายภาคแรกของสารคดี Mental-Verse สารคดีชวนสร้างความเข้าใจด้านสุขภาวะใจผ่านชีวิตและเรื่องราวของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ปีนี้เราจะได้ไปชม Mental-Verse 2 'we do cry' ที่เปิดประเด็นเรื่อง 'ความเป็นชาย' และ 'ปิตาธิปไตย' เป็นหลัก Head Heart Hand Workshop พื้นที่เวิร์กชอปที่ให้เราไปลงมือทำ สัมผัสสิ่งต่าง ๆ เพื่อเปิดใจเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้ง มีตั้งแต่เวิร์กชอปจัดดอกไม้อิเคบานะ เวิร์กชอป Peaceful Death ที่ช่วยให้เราวางแผนชีวิตเพื่อรับมือกับการจากลาที่คาดไม่ถึงผ่าน 'เกมไพ่ไขชีวิต' เวิร์กชอป MY KIND OF HOME ที่ชวนเราไปทำงานศิลปะ เรียนรู้การเคลื่อนไหว และลองเปิดใจ 'เขียน' เพื่อค้นหาและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบ้านในความหมายหมายของแต่ละคน 

 

---

 

 

นิทรรศการแรกจากทีมนักออกแบบ Not too Virgin Design Lab ที่ชวนมิตรรักนักออกแบบมาร่วมเป็นคอลลาบอเรเตอร์ ในการ 'เปิดซิง' วัสดุทางเลือกใหม่ที่ยังไม่ค่อยถูกนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น พลาสติกรีไซเคิล หรือ เจสโมไนต์ ที่ทางทีมเขานำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานชิ้นพิเศษ นอกจากจะเป็นมิตรกับโลกแล้ว ยังผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่คำนึงถึงความสวยงามและการใช้งานจริงด้วย

 

---

 

 

นิทรรศการที่นำเสนอผลงานจากการร่วมมือระหว่างชุมชนกับนิสิตหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ (หลักสูตรนานาชาติ) ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแสดงผลงานของนิสิตที่ได้ทำงานผ่านปฏิบัติการเวิร์กชอปร่วมกับศิลปิน เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนกระบวนการทำงานของศิลปิน และตีความ 'วัตถุ' ด้วยมุมมองใหม่ โดยสื่อสารผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่ถูกตีความออกมาอย่างหลากหลาย เกิดเป็น 3 แนวความคิด จากการพูดคุยและทำงานร่วมกันระหว่างศิลปินและนิสิตได้ บอกเล่าเรื่องราวที่เดินทางออกมาไกลจากจุดเริ่มต้น ผ่านการลงพื้นที่สำรวจชุมชนกลุ่มวัยรุ่นมุสลิม รวมไปถึงการสร้างบทสนทนาในความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันของ 'แม่'

 

---

 

 

อิเวนต์รวมตัวนักอ่านจากทั่วกรุงเทพฯ ที่ชวนนักอ่านถือหนังสือเล่มโปรดมาแบ่งกันอ่าน แบ่งกันเล่า ในพื้นที่สีเขียวของสวนลุมพินี ในงานนี้เหล่านักอ่านจะได้ไปร่วมแบ่งปันความสุขจากการอ่านใน 3 กิจกรรมใหญ่ คือ Book Club [Zone A] ที่เขาจะเปิดพื้นที่ให้เราไปนั่งล้อมวงพูดคุยแบ่งปันหนังสือ ไม่ว่าจะชอบอ่านแนวไหน ก็ลองหยิบมาแบ่งปันหรือป้ายยานักอ่านอื่นกันได้ Mini Talks [Zone B] วงเสวนาชิลล์ ๆ สำหรับสายชอบฟัง ที่เราจะได้ไปนั่งฟังนักอ่านคนอื่นบอกเล่าความประทับใจถึงหนังสือที่ได้อ่านมา ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็อาจจะได้เล่มโปรดเล่มใหม่ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย และกิจกรรมสุดท้ายคือ Exhibition [Zone C] โซนนิทรรศการที่ชวนทั้งนักอ่านและนักอยากเริ่มอ่านไปสำรวจพลังของการอ่าน เพื่อที่จะได้รู้ว่า อ่านหนังสือนั้นดีต่อใจเช่นไร

 

---

 

 

ปาร์ตี้พูลไซด์ที่ชวนคนรักเสียงดนตรีมาเจอกันในบรรยากาศสุดชิลล์ พร้อมร่วม Sip & Swim ไปกับเสียงดนตรีของ PURPEECH วงอินดี้จากเชียงใหม่ที่จะมากล่อมเกลาเราในรูปแบบอะคูสติก เกียมชุดว่ายน้ำแล้วไปเจอกันที่งานเลยจ้า!

 

---

 

 

 

การกลับมาของตลาดนัดสุดสัปดาห์ที่เราจะได้ไปเลือกซื้อสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นชาวสวน ช่างฝีมือ หรือนักสร้างสรรค์ในสาขาต่าง ๆ ที่อยู่ในย่านอารีย์ ทำให้มั่นใจได้ว่าได้สินค้าที่ดีต่อใจและดีต่อร่างกายแน่นอน โดยสินค้าที่จะมาให้เราได้เลือกจับจ่ายกันก็มีตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ออแกนิกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะพร้าวสด แยมโฮมเมด ชากัญชา ไอศกรีมโฮมเมด รวมทั้งชิมเมนูจากร้านชื่อดังในอารีย์ นอกจากนี้ยังมีเวิร์กชอปและการฉายสารคดีที่พาเราไปสำรวจอุตสาหกรรมอาหารแบบยั่งยืนด้วย เรียกว่าครบถ้วนจ้างานนี้

 

---

 

 

งานรวมตัวของคนรักรองเท้าที่กลับมาชวนทุกคนไปหาคู่... เอ๊ย! หาเพื่อนสานสนีกเกอร์เฮดและเหล่าคนสะสมรองเท้าด้วยกัน จะแตะ จะผ้าใบ จะรองเท้าหนัง ก็สามารถมาพบปะพูดคุยป้ายยาและชอปปิงกันได้ในบรรยากาศแสนเป็นกันเอง และนอกจากการชอปแล้ว งานนี้ยังมีโซนเวิร์กชอปที่ชวนทุกคนมาออกแบบรองเท้าคู่โปรดในแบบของตัวเอง พ่วงด้วยโซน Shoes Care ที่ชวนคนรักรองเท้ามาสร้างประสบการณ์การซักรองเท้าแบบใหม่ ครบเครื่องสาแก่ใจคนสะสมรองเท้าแน่นอน

 

---

 

 

นิทรรศการกลุ่มที่จัดแสดงผลงานภาพถ่ายซึ่งสำรวจ 'แสงใหม่' ที่มิใช่เพียงภาพถ่ายของแสงเงาหรือสีสันที่สวยงามเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการทดลองทางภาพถ่ายแบบใหม่ ๆ การค้นพบเรื่องราวทางสังคม บุคคลที่น่าสนใจ หรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงลึกซึ้ง เปรียบได้ดัง 'แสง' ที่ฉายออกมาเพื่อเป็นสัญญาณแห่งการก่อกำเนิดและการริเริ่มสิ่งใหม่ในช่วงชีวิตของพวกเรา

 

---

 

 

ไปร่วมแจมอิเวนต์ดนตรีที่รวมวงดี ๆ เบียร์ฉ่ำ ๆ ความมันล้วน ๆ พบกับ 17September1981, Individualist และ Kunst กับอีกหนึ่งวงเซอร์ไพรส์ที่เขายังไม่บอกว่าเป็นใคร จะคอดนตรีหรือคอทองแดง ก็ไปเจอกันได้จ้า

 

---

 

 

 

เวิร์กชอปดี ๆ ที่คนรักศิลปะจะได้ไปเรียนรู้เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานป็อปอัปบนหน้ากระดาษจาก กนกมาศ มัทนารมยกิจ ศิลปินกระดาษที่คุ้นเคยกันดี รวมถึงการเรียนรู้การผสมผสานเทคนิคเปเปอร์คัตและการตัดปะซ้อนชั้นเป็นเลเยอร์หลากหลายมิติ ไปปลดปล่อยพลังงานศิลป์ แล้วรับผลงานสุดแสนภาคภูมิใจกลับบ้านกัน 

 

---

 

 

 

นิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งที่ 6 ในช่วงวัย 38 ปี ของศิลปิน ชัยยศ จินดากุล ที่ยังคงสร้างงานศิลปะโดยเจตนารมณ์แน่วแน่ คือการสร้าง 'รูปเขียนที่ทำให้คนรู้สึก' ด้วยกำลังและความสามารถที่เต็มที่ที่สุดในช่วงเวลาชีวิตนั้น ๆ ของเขา 

 

ในนิทรรศการครั้งนี้ ศิลปินได้แสดงถึงศักยภาพของศิลปินที่พัฒนาขึ้นอีกอย่างน่าทึ่ง หากเปรียบเป็นสัตว์ ศิลปินบอกว่า เลือดเนื้อและจิตวิญญาณในการสร้างงานศิลปะของเขาเปรียบเช่นเสือซีตาร์ สัตว์นักล่าที่มีความเร็วเป็นอาวุธและหุ่นโบราณที่เต็มไปด้วยมนตร์ขลังที่เขาหลงใหลนี้เขาเปรียบดังเช่นเหยื่อของสัตว์นักล่า คือ สัตว์ตระกูลละมั่งกาเซลส์ ที่มีวิวัฒนาการสมบูรณ์แบบไม่แพ้ผู้ล่า เสือซีตาร์ต้องวิวัฒนาการควบคู่ให้เท่าทันจึงจะทัดเทียมและอยู่รอดจากความตาย

 

---

 

 

อิเวนต์ที่แบ่งกิจกรรมเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กิจกรรมฉายภาพยนตร์และเสวนาหลังชมภาพยนตร์ Mlabri in the Woods กับ คุณคาเนโกะ ยู ผู้กำกับและนักวิจารณ์ภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น และ คุณอิโตะ ยูมะ นักภาษาศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับชาวมลาบรีที่เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับความเข้าใจน้อยที่สุด

 

Mlabri in the Woods เป็นภาพยนตร์สารคดีที่คุณคาเนโกะ ยู ใช้ระยะเวลาต่อเนื่องถึง 2 ปี ในการตามติดชีวิตชาวมลาบรี กลุ่มชาติพันธุ์ที่ร่อนเร่เข้าไปในป่าลึก หลบเลี่ยงจากคนบนที่ราบ สร้างเพิงพักชั่วคราวจากไม้ไผ่และใบตอง โดยถ่ายทำร่วมกับคุณอิโตะ ยูมะ ที่สามารถพูด 6 ภาษา รวมถึงภาษามลาบรีได้อย่างคล่องแคล่ว ในส่วนของการเสวนานั้นจะดำเนินรายการโดย คุณอภินันท์ ธรรมเสนา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะศูนย์มานุษวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน) และแปลไทยโดย คุณสิริพร ด่านสกุล อาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการเสียงจากกลุ่มชาติพันธุ์ Sound of the Soul ที่จัดที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครด้วย

 

 

---