อิเวนต์เอาใจสายกรีนที่เขายกขบวนร้านอาหารและร้านค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์ Zero Waste มาให้สายรักษ์โลกได้ชอปกันแบบเต็มอิ่ม และนอกจากจะได้ไปพบกับสินค้าเกษตรส่งตรงจากฟาร์ม อาหารโฮมเมด และสินค้าจากชุมชนทั่วประเทศไทยแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษสุดสัปดาห์อย่าง Umbrella Painting Workshop ที่ชวนเราไปปลดปล่อยพลังศิลป์พร้อมรับร่มกลับบ้านด้วย

 

---

 

 

นิทรรศการที่จัดขึ้นโดยนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดแสดงผลงาน 7 ชิ้นงาน จาก 5 ศิลปินเจนซีที่นำมาติดตั้งภายในหอศิลป์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพื่อนำเสนอแง่มุมความคิดต่อเมืองในอุดมคติของเหล่าศิลปิน

 

มนุษย์มีความปัจเจกทั้งในแง่กายภาพและความคิด ความต้องการของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความฝันหรือความคิดเกี่ยวกับสังคมในอุดมคติ (Utopia) เป้าหมายสูงสุดที่ต้องการให้สังคมหนึ่งไปถึง ยังต้องคำนึงถึงความแตกต่างในแต่ละบุคคล ประเด็นของพื้นที่ส่วนรวม หรือประเด็นของสังคมของมนุษย์ที่มีการรวมตัว ดังนั้นการถกเถียงและความเห็นที่แตกต่างอยู่เสมอจึงเกิดขึ้นเป็นปกติ และแน่นอนว่า กลุ่มคนที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมและยุคสมัยที่ใกล้เคียงกันก็จะมีแนวโน้มที่คล้ายคลึงกัน

 

นิทรรศการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อนําเสนอทัศนคติต่อภาพของเมืองและสังคมในอุดมคติที่ศิลปินต้องการ โดยผู้จัดทํานิทรรศการและศิลปินทั้งหมดอยู่ในช่วงวัยที่ใกล้เคียงกัน คือช่วงวัยเจนซีที่กําลังจะเริ่มใช้ชีวิตของตน โดยหวังจะนิทรรศการจะสะท้อนภาพสังคมที่ในฝัน สะท้อนปัญหา และเพิ่มความชัดเจนของภาพในสังคมปัจจุบันที่ยังห่างไกลจากภาพฝันความเป็นจริงที่ไม่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น

 

---

 

 

ในปัจจุบัน บทสนทนาระหว่างธรรมชาติกับสุนทรียศาสตร์ที่ไปไกลมากกว่าความสวยงามและซับไลม์ กระบวนการทางศิลปะได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งพ้นมนุษย์ ศิลปะช่วยให้คำนึงถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติในโลกที่ยากจะมีสิ่งใดไม่ถูกรบกวนโดยมนุษย์ ในการนี้ Waiting You Curator Lab จึงได้เชิญ นักรบ มูลมานัส และ แมรี่ ภาคินี ศิลปินไทยสองคนมาสร้างสรรค์ผลงานด้วยแรงบันดาลจากวรรณกรรม 'ชีวิตของฉันลูกกระทิง' ในพื้นที่จัดแสดงของวารินแล็บ คอนเท็มโพรารี ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ทำงานของ นายแพทย์บุญส่ง

 

ในนิทรรศการนี้ นักรบ มูลมานัส ได้ใช้กระบวนการทางประวัติศาสตร์ เดินทางย้อนกลับไปในวรรณกรรมสัตวาภิธานก่อนเวลาของนายแพทย์บุญส่ง ศิลปินนำเสนอผลงานจัดวางเชิงปฏิสัมพันธ์ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของปัญญาชนสยามในการทำความเข้าใจ ‘นกการเวก’ ในวรรณคดีซึ่งมีเสียงไพเราะที่สุด และตั้งคำถามถึงที่ทางของความลี้ลับและความเชื่อในพงไพรผ่านการทำอนุกรมวิธาน หลังจากที่วิทยาศาสตร์เปลี่ยนมุมของที่เรามีกับธรรมชาติ ในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ได้สร้างโลกจำลองจากห้องสมุดดิจิทัล เธอได้รับแรงบันดาลใจมากจากการสร้างสรรค์เกมด้วยการออกแบบเชิงโอเพ่นเวิล์ด วิธีการสร้างสภาพแวดล้อมในเกมเพื่อให้ผู้เล่นสามารถท่องเที่ยวไปได้อย่างอิสระ ผลงานของเธอนอกจากแสดงให้เห็นถึงความขาดแคลนซึ่งพื้นที่ธรรมชาติในโลกกายภาพแล้วก็แสดงให้เห็นถึงความกระหายความรุนแรงของมนุษย์ที่ข้ามผ่านไปยังธรรมชาติประดิษฐ์ในโลกดิจิทัลอีกด้วย

 

นิทรรศการนี้ทำการสำรวจหน้าที่ของศิลปะในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และตั้งคำถามว่ามีอะไรที่หายไปบ้างจากความเข้าใจสมัยใหม่

 

---

 

 

การกลับมาของเทศกาลสำหรับคนรักกาแฟและผู้ประกอบการกาแฟไทยที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยคอนเซปต์ของงานในปีนี้ก็คือ ‘The Future ออกแบบอนาคตกาแฟไทย’ เมื่อวิกฤตโรคระบาดผ่านพ้นไป ต่อจากนี้คือการเริ่มต้นใหม่ของทุกประเภทอุตสาหกรรม เฉกเช่นเดียวกับวงการกาแฟไทย ที่กำลังเดินทางสู่อนาคตในทิศทางใหม่ โอกาสใหม่ และความเป็นไปได้ใหม่ ๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

นี่คืองานที่เปิดพื้นที่ให้เหล่าคนกาแฟและผู้เกี่ยวข้องทุกแขนงมาร่วมกันออกแบบอนาคตให้กับวงการกาแฟไทยก้าวเดินต่อไปอย่างยั่งยืนร่วมกัน ถ้ารักกาแฟไทย ก็ต้องไปเจอกันที่งานนี้นะ

 

---

 

 

นิทรรศการที่จัดแสดงผลงานการออกแบบคาแรกเตอร์ 'DING DING THE CAT' โดยนักวาดการ์ตูน อิง - สุมนา สุมนะกุล ซึ่งเป็นงานดิจิทัลอาร์ตในรูปแบบ PFP หรือ Profile Picture บนแพลตฟอร์ม 'Opensea' ไปสนุกกับความขี้เล่น ไม่แคร์สื่อ ไม่สนเวิลด์แบบกวน ๆ ของดิงดิงผ่านระบบ AR ได้ผ่านทาง ARTIVIVE app ที่ผู้ชมจะสามารถเห็นเจ้าแมวสีขาวดำขยับดุ๊กดิ๊กได้ตามอุปนิสัยแมวกวน ๆ

 

---

 

 

นิทรรศการกลุ่มจาก 24 ศิลปินชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งเกิดจากความพยายามร่วมกันของ พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน กับประดาศิลปินชั้นนำของประเทศไทยที่ร่วมกันหากุศโลบายในการสื่อธรรมให้นำสมัยโดยผ่านศิลปกรรมหลากหลายแขนงที่ศิลปินแต่ละคนมีความถนัดจัดเจน เกิดเป็นงานศิลปะที่เกิดจากการนำสัจธรรมและจริยธรรมมานำเสนอไว้ด้วยกัน เพื่อปรับการสื่อธรรมให้นำสมัยมากยิ่งขึ้น

 

---

 

 

 

คอนเสิร์ตที่รวมศิลปินอินดี้และอะคูสติกที่เราคุ้นเคยกันดีมาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เขียนไขและวานิช, Safeplanet, คณะขวัญใจ, จุลโหฬาร, Southern Boys, เยนา, J.A.M, ไทยตรง และยังได้ยินมาว่ามีศิลปินที่เขาอุบไว้ขอทำเซอร์ไพรส์ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งงานดนตรีที่ไม่ควีพลาดเลยจ้า

 

---

 

 

นิทรรศการภาพเขียนจากความทรงจำเมื่อแรกพบของ ศิลาวิศว์ พูลสวัสดิ์ ที่ได้ทุ่มเทพลังความสามารถและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของเขาในการรังสรรค์ผลงานภาพเขียนกว่า 20 ชิ้นมาให้ทุกคนได้ชมกันอย่างจุใจ ภาพเขียนชุดนี้เต็มไปด้วยความงดงามของหญิงสาวเอเชียที่นำเสนอทั้งความอ่อนหวาน อบอุ่น ละมุนละไม แต่ก็แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง เด็ดขาด สุขุม เยือกเย็น ที่สะท้อนผ่านดวงตาและใบหน้าอันเรียบเฉย ศิลปินวาดหญิงสาวเหล่านี้ขึ้นจากความทรงจำเมื่อแรกเห็นจากภาพยนตร์จีนที่เขาชอบดู และเมื่ออ่านเจอในหนังสือนวนิยายจีนเล่มโปรด ผสมผสานกับความงามอันเป็นอุดมคติเฉพาะตัว แล้วเพิ่มความสลับซับซ้อนให้ผลงานมีมิติ น่าสนใจมากขึ้นด้วยร่องรอยของเทคนิคทีแปรงอันหลากหลาย พื้นผิวที่ทรงพลังที่ศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานศิลปะนามธรรมและภาพพิมพ์ที่เขาประทับใจ ภายใต้โทนสีที่ดูอบอุ่น ทว่าเบรคให้สะดุดตาขึ้นด้วยการแต้มสีสด ๆ ลงไปบางจุดของภาพ การวาดภาพลงบนผ้าใบลินินที่ครีมนุ่มละมุนก็สอดคล้องกับแนวคิดที่ต้องการสะท้อนภาพความทรงจำหรือโหยหาอดีต (Nostalgia) รวมถึงสอดคล้องกับรูปแบบและเทคนิคที่เขาต้องการนำเสนอด้วยเช่นกัน

 

---

 

 

นิทรรศการที่รวบรวมผลงานวิทยานิพนธ์ภาพถ่ายในปีการปีการศึกษา 2563 และ 2564 จากสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยทั้งสิ้น 12 สถาบัน จำนวน 50 ชุดผลงาน มานำเสนออย่างเต็มรูปแบบไว้ในที่เดียว เพื่อให้บัณฑิตทุกคนได้ออกแบบพื้นที่การจัดวางผลงานของตัวเองอย่างอิสระ ผู้ชมจะได้พบกับผลงานที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปตามความสนใจและประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตผ่านรูปแบบการนำเสนอและเทคนิคที่ไม่ซ้ำกัน

 

ศิลปินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของอนาคตของวงการศิลปะ ที่พร้อมจะสรรค์สร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้กับวงการ การจัดแสดงในนิทรรศการแห่งนี้อาจเป็นเพียงแค่หมุดหมายหนึ่งของการเป็นช่างภาพอาชีพเท่านั้น แต่นับจากนิทรรศการนี้สิ้นสุดลง จะยังมีทางเลือกและเส้นทางอีกมากมายที่รอให้เหล่าบัณฑิตหน้าใหม่ โดยผู้จัดหวังว่า การจัดแสดงครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศิลปินได้ค้นพบเส้นทางของตัวเองที่ต้องการจะหยัดยืนในวงการศิลปะ และได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมในโอกาสต่อไป

 

---

 

 

 

ตลาดนัดของเหล่านักทำการ์ตูนทำมือหรือ ‘โดจินชิ’ สายออริจินัล ที่นักเขียนและคนรักการ์ตูนจะได้มาพบกันในงานโดจินชิสายออริจินัลครั้งสำคัญในบรรยากาศแสนอบอุ่นที่ทุกคนคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นสายเสพหรือสายผลิต ก็ไปเจอกันได้ที่งานนี้เลยจ้า

 

---

 

 

เวิร์กชอปที่เราจะได้ไปเรียนรู้การทำคราฟต์โซดา 4 สูตร (Ginger Ale, Rasberry Soda, Cherry Cola และ Root Beer เนื้อหาในคลาสจะว่ากันตั้งแต่ การปูความรู้พื้นฐานว่าคราฟต์โซดาคืออะไร, การเพาะเชื้อโพรไบโอติกสำหรับทำคราฟต์โซดา, การฆ่าเชื้ออุปกรณ์, การเลือกซื้ออุปกรณ์และบรรจุภัณท์ต่าง ๆ, การปรุงเครื่องดื่ม ไปจนถึงการดูความพร้อมของเครื่องดื่ม