งานเดียวได้ครบทุกอารมณ์กับ 16 สุดยอดศิลปะการแสดงและดนตรีระดับโลกในกรุงเทพฯ

 

แล้วงานนี้พิเศษยังไง? ไม่ใช่ว่าทุกโชว์จะสามารถเข้ามาอวดฝีไม้ฝีมือกันได้ตามใจชอบ การแสดงแต่ละชุดจะถูกคัดเลือกภายใต้พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมากประสบการณ์จากหลากหลายแวดวงในประเทศไทย

 

สำหรับงานปีนี้จัดขึ้นเนื่องในวาระโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจะมี 16 โชว์ ไม่ว่าจะเป็นบัลเลต์ นาฏศิลป์อินเดีย ซิมโฟนี อุปรากร กายกรรม ดนตรีแจ๊ส ระบำฟลาเมงโก และเต้นร่วมสมัยจากหลากหลายคณะการแสดงทั่วโลกหมุนเวียนกันสร้างความตื่นตาตื่นใจ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 40 วัน อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย! เลือกจองบัตรได้ตั้งแต่วันนี้ทาง Thaiticketmajor แล้วนะยู! 

---

ถ้าเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Black Swan มาก่อนหน้านี้คงจะพอเห็นภาพว่ากว่าจะออกมาเป็นโชว์บัลเลต์ซักรายการนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และถ้ายังไปเคยไปชมการแสดงสดๆ ซักครั้ง เราอยากแนะนำโชว์เรื่อง Swan Lake ซึ่งได้คณะบัลเลต์อันดับหนึ่งจากรัสเซียมาแสดงฝีมือ โดยมีการดัดแปลงและเสริมเอกลักษณ์ของคณะ Stanislavsky เข้าไปผ่านท่าเต้นสุดอลังการ (ว่ากันว่าแสดงได้ดีที่สุดในโลกแล้ว!) ถึงขนาดที่บัตรขายหมดเกลี้ยงซะเกือบทุกรอบ หรือบางครั้งผู้ชมก็ล้นโรงเลยล่ะ 

 

นอกจากจะขึ้นชื่อว่าแสดง Swan Lake ได้เจ๋งที่สุดในโลก คณะบัลเลต์นี้ยังโดดเด่นไปด้วยท่าเต้นสะกดอารมณ์ในการแสดงชุด Giselle ออกแบบโดยนักออกแบบท่าเต้นชาวฝรั่งเศส มาริอุส เพทิพา บอกเล่าเรื่องราวโศกอนาฏกรรมของนักเต้นสาวและความรักที่ไม่สมหวังของเธอ  

 

Kathak คือ 1 ใน 8 นาฎศิลป์เก่าแก่ของอินเดียที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ในรายการนี้คณะ Aditi Mangaldas ตั้งใจผสมผสานศิลปะดั้งเดิมกับการเต้นร่วมสมัยให้ออกมาน่าสนใจยิ่งขึ้น ผ่านท่วงท่าเต้นสุดพร้อมเพรียงและอารมณ์ที่หนักแน่น ควบคู่กับจังหวะดนตรีเร้าใจจากเครื่องกระทบพื้นเมืองในการแสดงชุด Uncharted Sea คาดว่าน่าจะแหวกแนวกว่าที่ทุกคนเคยชมมาแน่นอน 

 

อุปรากร (หรือที่เราเรียกว่าโอเปร่านั่นแหละ) คือละครที่ดำเนินเรื่องด้วยดนตรีเป็นหลัก ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็จะมีการแสดงของ Opera Siam อยู่เรื่อยๆ (ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Anne Frank หรือ สุริโยไท ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา) ส่วนงานนี้เป็นโชว์โอเปร่าอย่างเต็มรูปแบบจากคณะ Helikon Opera ถือว่าหาดูได้ยากมาก ขนาดบัตรที่รัสเซียเองยังหาได้ยากเลย Un ballo in Maschera นั้นนำเสนอเรื่องราวกิเลสของมนุษย์ในด้านอำนาจและความรัก จะเข้มข้นขนาดไหนต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง

*แนะนำให้ลองอ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆ ไปก่อนนะ จะได้เข้าใจการแสดงได้ดีขึ้น 

 

หลายคนอาจจะคุ้นหูมากขึ้นพอได้ยินชื่อว่า "Carmen" เพราะเป็นโอเปร่าชิ้นเอกของ Helikon Opera โดยนักประพันธ์ดนตรี ฌอร์ฌ บิแซ การันตีความดีงามด้วยรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมจาก Golden Mask Award  ถือว่าเป็นโอเปร่าที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศรัสเซียอย่างมากเลยทีเดียว 

 

จริงๆ แล้วถ้าอยากชมการแสดงวงดุริยางค์ในกรุงเทพฯ ก็สามารถชม Thailand Philharmonic Orchestra ได้อยู่เป็นประจำที่ College of Music (มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา) แต่สิ่งที่ทำให้การแสดงของ Israel Camerata Orchestra นั้นน่าดูยิ่งกว่าเดิม คือการที่วงดุริยางค์นี้มีอายุยาวนานกว่า 3 ทศวรรษแล้ว และเปิดการแสดงมากกว่า 100 รอบต่อปีทั้งในประเทศบ้านเกิด ยุโรป อเมริกา รวมถึงเอเชีย โดยโปรแกรมการแสดงในครั้งนี้ได้แก่ บาท็อก-ดิเวอร์ติเมนโต, ไฮเดิ้น-เชลโลคอนแชร์โต้ หมายเลข 1, โคปีทแมน-Kaddish และซูเบิร์ต-ซิมโฟนี หมายเลข 5 

 

เรื่องราวความรักต้องห้ามของ Tristan  อัศวินหนุ่ม กับ Isolde เจ้าสาวของกษัตริย์แห่งคอร์นวอลล์ผู้เป็นลุงของตัวเองนั้นอาจจะดูคุ้นๆ เพราะเคยมีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว โชว์นี้ได้นักบัลเลต์คลาสสิค 22 ชีวิตจากทั่วโลก โดยผู้รับบท Isolde ตัวเอกคือคุณศรวณีย์ ธนะธนิต ชาวไทยหนึ่งเดียวในคณะ และดำเนินเรื่องด้วยดนตรีอันทรงพลังของริชารด์ วากเนอร์ 

 

โชว์บัลเลต์ร่วมสมัยที่ใช้เวลาออกแบบท่าเต้นนานกว่า 30 ปีเพื่อสื่อถึงพลังของ Carmina Burana หรือผลงานเพลงของคาร์ล ออร์ฟ เรื่องราวเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของโลก ดั่งกงล้อแห่งโชคชะตาที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ถ้าเคยชมภาพยนตร์เกี่ยวกับการเต้นอย่าง Center Stage หรือ Step Up คงจะเห็นการแสดงบัลเลต์แบบร่วมสมัยกันมาบ้าง ของจริงเป็นอย่างไรต้องดูด้วยตาตนเอง

 

คอนเสิร์ตเพลงประกอบภาพยนตร์ชุด Hollywood’s Sound of Cinema เริ่มมีการแสดงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 (เรายังไม่เกิดเลย!) และสร้างชื่อเสียงไปทั่วยุโรปนับตั้งแต่นั้นมา ส่วนการแสดงในประเทศไทยครั้งนี้นำโดย 8 นักร้อง สมทบด้วยนักดนตรีและนักเต้นอีกมากมาย ใครกำลังอินกับเพลงประกอบภาพยนตร์อมตะไม่ควรพลาดนะ

 

การแสดงกายกรรมที่ผสมผสานยิมนาสติกและการเต้นเข้าด้วยกัน นำเสนอการจัดระเบียบร่างกายได้อย่างสง่างาม  ฟังดูอาจจะเคยได้ชมกันมาบ้างตามรายการ Thailand's Got Talent แต่งานนี้ได้คณะกายกรรมแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีนจากปักกิ่ง ที่ถือว่าเยี่ยมยอดที่สุดในโลก การันตีด้วยเหรียญทองกว่า 58 รางวัลจากการประกวดทั่วในและต่างประเทศ แถมยังเคยเปิดการแสดงมาแล้วกว่า 124 ประเทศทั่วโลกด้วยนะ ของจริงของแท้เค้าเด็ดขนาดไหนต้องไปชมด้วยตนเอง 

 

รู้นะว่าพวกเราชอบดนตรีแจ๊สกัน (เพราะแจ๊สบาร์คุณภาพในกรุงเทพฯ ก็มีอยู่เต็มไปหมด) ถ้าอยากชมงานแสดงแบบจริงจังที่ไม่ได้อยู่ในบาร์ เวทีนี้แหละที่ต้องไปดู เพราะเป็นการแสดงดนตรีแจ๊สโดยวง Shuffle Demons Jazz จากแคนาดา มาพร้อมกับดนตรีแจ๊สฟิวชันที่ให้ความบันเทิงกับผู้ชมอย่างลงตัว ออกผลงานซีดีมาแล้วทั้งสิ้น 8 ชุด และวง Belgian Saxophone Ensemble วงแจ๊สจากแซกโซโฟนล้วนๆ จากนักดนตรี 12 คน คุมวงโดย Cezariusz Gadzina ผู้ก่อตั้งและเป็นวาทยกรคนแรกของ European Saxophone Ensemble

 

Nutcracker เป็นเรื่องราวในช่วงคริสต์มาสของเด็กหญิงคลารา น้องชายฟริตซ์ กับเจ้าชายต้องสาปให้เป็นที่กระเทาะเปลือกลูกนัทผู้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และออกผจญภัยพร้อมกัน ซึ่งคณะบัลเลต์ Karlsruhe ได้หยิบยกมาแสดงโดยใช้นักเต้นกว่า 50 ชีวิตจาก 13 ประเทศทั่วโลก ออกแบบท่าเต้นโดย Youri Vámos และฉากกับเครื่องแต่งกายโดย Michael Scott เป็นการแสดงสุดคลาสสิคที่ชวนมาดูกันได้ทั้งครอบครัวเลยล่ะ

 

เราเชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานความรักแสนเศร้าของ Romeo และ Juliet ที่กินยาพิษตายตามกันไปเพราะความเข้าใจผิด ลองมารับชมกันในรูปแบบของบัลเลต์ร่วมสมัยจากคณะ Preljocaj ออกแบบท่าเต้นโดย Angelin Preljocaj เจ้าของรางวัลออกแบบท่าเต้นยอดเยี่ยมจาก Victoires de la Musique 1997 และฉากที่สมจริงโดย Enki Bilal 

 

The President's Symphony Orchestra เป็นหนึ่งในวงดุริยางค์ที่เก่าแก่มากที่สุดของโลกและได้รับเชิญให้แสดงในพระราชวังหลวงอยู่เสมอ โดยโปรแกรมการแสดงที่ประเทศไทย ได้แก่ Ulvi Cemal Erkin - Kocekce, Smetana-The Moldau, Liszt-ฮังกาเรียน ราฟโซดี และ Rachmaninoff- ซิมโฟนีหมายเลข 2 อลังการงานสร้างขนาดไหน คนรักดนตรีไม่ควรพลาด

 

Flamenco คือศิลปะการเต้นพื้นเมืองของสเปน โดยซาร่า บาราส คือหญิงสาวที่สื่อมวลชนนานาชาติยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเต้นฟลาเมงโกที่ไม่อาจละสายตาได้ ร่วมกับนักเต้นอีก 15 คนจากคณะของเธอที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในสเปน ส่วนโปรแกรมการแสดงในเมืองไทยนั้นได้แก่เพลง La Llama, Bulería de Chabo, Seguirilla, Taranta, Las Carmenes, Romance del Negro del Puerto, Farruca, Tientos, Soleá, Soleá por Bulería และ Bulería ถ้าอินมากๆ ก็ตามไปลงคอร์สเรียนในกรุงเทพฯ เองก็ได้นะ

 

ถ้าเคยดูรายการ So You Think You Can Dance ต้องเคยประทับใจไปกับการเต้นร่วมสมัยกันบ้างแหละ และนี่คือโชว์จากคณะเต้นรุ่นบุกเบิกของโลก ออกแบบท่าเต้นโดยพอล เทย์เลอร์ ที่เน้นท่าเต้นที่ผู้คนคุ้นเคยในชีวิตประจำวันไปจนถึงท่าซับซ้อนน่าทึ่ง แบ่งเป็น 2 โปรแกรมการแสดงคือ Black Tuesday, La Sacre du Printemps, Cascade และ Mercuric Tidings, Beloved Renegade, Promethean Fir

 

ใครสนใจหรือชื่นชอบศิลปะการแสดงและดนตรีสุดคลาสสิคไม่ควรพลาดเพราะ 1 ปีมีแค่ครั้งเดียว ถ้าพลาดครั้งนี้อาจจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปดูเองที่ต่างประเทศเลยนะ ตามไปจับจองที่นั่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ Thaiticketmajor และอย่าลืมกดไลค์เพจ Bangkok's International Festival of Dance & Music ไว้ติดตามข่าวสารด้วยล่ะ :)