Skip to main content

5 เหตุผลที่จะตอบเราว่า ทำไม Samsung Galaxy Watch Active 2 ถึงเป็นอีกหนึ่งสมาร์ตวอตช์ที่น่าลองใช้

สมาร์ตวอตช์เต็มตลาดจนไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี

5 เหตุผลที่จะตอบเราว่า ทำไม Samsung Galaxy Watch Active 2 ถึงเป็นอีกหนึ่งสมาร์ตวอตช์ที่น่าลองใช้
December 1, 2019 Bangkok time
เวลานี้ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน ก็เจอแต่อะไรสมาร์ต ๆ เต็มตลาดไปหมด หูฟังก็ต้องสมาร์ต แว่นตา เครื่องดูดฝุ่น ยันไม้แคะหูยังมี! แต่ที่ฮอตฮิตติดลมบนและต้องบอกว่าเวิร์กจริงก็คงเป็นสมาร์ตวอตช์ (Smart Watch) นี่แหละ เพราะนอกจากคุณสมบัติเดิม ๆ ที่นาฬิกาควรทำได้อย่างบอกเวลาแล้ว เข้าสมาร์ตวอตช์เหล่านี้ก็มีประสิทธิภาพไปไกลกว่านั้นมากกก ซึ่งในตลาดสมาร์ตวอตช์ก็มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นจนเลือกไม่หวาดไม่ไหว แต่กับสมาร์ตวอตช์ล่าสุดจากค่าย Samsung ที่เพิ่งวางตลาดอย่าง Samsung Galaxy Active Watch 2 เมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมานี้ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย เราเลยขออาสาขอหยิบจับเอามาใช้นานร่วมเดือน เพื่อที่จะได้บอกกันตรง ๆ ว่า อะไรที่เราชอบ และอะไรที่มันเวิร์กสำหรับสมาร์ตวอตช์ตัวนี้บ้าง
 

บอดี้สวยจริงไม่จกตา

 
 
อย่างแรกที่เราสะดุดตาเลยก็คือบอดี้ของสมาร์ตวอตช์ตัวนี้นั่นแหละ เพราะรูปร่างของมันค่อนข้างที่จะเข้ากับการแต่งกายในชีวิตประจำวันได้ง่าย ไม่หวือหวาจนเกินไป มองแล้วเหมือนนาฬิกาแบรนด์ดี ๆ สักเรือน ไม่คล้ายกับจำพวกสมาร์วอตช์ที่คอยจับการออกกำลังกายพวกนั้น (แต่สมรรถนะเรื่องตรวจจับการออกกำลังยังมาครบ) ซึ่งมันทำให้เราใส่สมาร์ตวอชตัวนี้กับชุดแบบไหนอย่างไรก็ได้นั่นเอง
 
 
ตัวเรือนจะมีทั้งขนาด 40 มม. และ 44 มม. ทั้งผู้หญิงผู้ชาย หรือจะเป็นผู้ชายข้อแขนเล็ก ผู้หญิงข้อแขนใหญ่ ก็สามารถเลือกขนาดตัวเรือนให้พอเหมาะกับขนาดข้อมือของเราได้ อย่างเราเองเลือกใช้ขนาด 44 มม. สีดำเงาสวยมาก ๆ (ขนาด 44 มม. ยังมีสีเงิน และสีทองอีก ส่วนขนาด 40 มม. จะมีสี Pink Gold ในรุ่นบลูทูธเพิ่มเข้ามาด้วย) ตัวเรือนเป็นสแตนเลสทรงกลม หน้าจอชัดแจ๋วแหววด้วย Super AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล ซึ่งเราว่าละเอียดเพียงพอกับขนาดหน้าจอเท่านี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือ ตัวกระจกหน้าปัดนั้นทาง Samsung ใช้ Corning Gorilla Glass DX+ ที่ทนต่อรอยขีดข่วยและการตกแตก อย่างเราเองใช้มาตลอดเดือนแบบไม่ได้เอาไปติดฟิล์มใด ๆ และไม่ได้รักษามันเท่าไหร่ ถือคติของมีไว้ใช้ ทุกวันนี้หน้าปัดก็ยังเนียน ไม่มีรอยข่วนหนัก ๆ เลย
 
 
 
ตัวเรือนเองก็มีความหนาเพียง 10.9 มม. เท่านั้น ทำให้ไม่หนามากจนเกินไป ด้านข้างของตัวเรือนมีปุ่มติดตั้งอยู่ 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนเอาไว้ Back กลับไปฟีเจอร์ก่อนหน้า ส่วนปุ่มล่างสำหรับเข้าสู่เมนูต่าง ๆ สำหรับใครที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มาก่อนก็คงใช้งานสะดวกไม่ยาก แต่สำหรับเราที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS มาก็อาจมีงง ๆ บ้างในช่วงแรก จากที่เคยใช้เม็ดมะยมมาก่อน แต่ไม่นานก็ปรับตัวได้ดี อ้อ ส่วนเครื่องเขาก็แถมเป็นสายหนังหล่อ ๆ มาให้เลย ซึ่งใครอยากเปลี่ยนสาย ก็ไปหาสายสีอื่น แมตทีเรียลอื่นมาเปลี่ยนได้ตามใจเช่นกัน

แบตเตอรี่ยืนหนึ่ง

 
 
ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยชอบการหยิบอะไรมาเทียบกับอะไรสักเท่าไหร่ เพราะของแต่ละอย่างย่อมมีความพิเศษและข้อแตกต่างเฉพาะในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่สำหรับเรื่องแบตเตอรี่นี่ขอไว้สักเรื่องที่ต้องหยิบมาเทียบกันสักหน่อย เพราะก่อนหน้านี้เราใช้ Apple Watch มาก่อนอย่างยาวนานทั้ง Series 3 และ Series 4 ซึ่งจะต้องชาร์จแบตเตอรี่แทบทุกวัน อย่างนานที่สุดก็อยู่ได้ประมาณ 2 วันครึ่ง แต่กับ Samsung Galaxy Active Watch 2 นี้ชาร์จแบตหนึ่งครั้ง สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 3-4 วันเลย! อันนี้เทียบจากการใช้รุ่นแบบ LTE (E-Sim) เหมือนกันด้วยนะ 
 
ภาพจาก lifewire.com
 
นอกจากแบตอึดแล้ว เรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ชาร์จเต็มแล้ว และยังสามารถประมาณเวลาที่แบตเตอรี่จะเต็มให้เราทราบได้อีกด้วย นอกจากนี้ Samsung Galaxy Active Watch 2 ก็ยังมีฟีเจอร์ Always On Display หน้าจอติดให้เราได้ดูเวลาและข้อมูลอื่น ๆ ได้ตลอดเวลาเช่นกันอีกด้วย

เรื่องแอ็กทีฟก็จับแม่น

 
ภาพจาก cnet.com
 
หากพลิกตัวเครื่องมาดูด้านหลัง ก็จะมีหน้าตาของเซนเซอร์ที่ไม่ต่างกับสมาร์ตวอตช์คู่แข่งไปสักเท่าไหร่ โดยตัวเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจนั้นก็จะใช้วิธียิงแสงออกมาวัดเช่นกัน ซึ่งเซนเซอร์ตัวนี้จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจเราตลอด 24 ชั่วโมง หรือตลอดการสวมใส่ของเราเลย นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์ที่เอาไว้วัดตัวอื่น ๆ ที่รวมกันอยู่ในตัวเรือนนี้อย่าง Accelerometer, Gyroscope, Barometer และ Ambient Light ด้วยนะ นั่นแปลว่าเจ้า Samsung Galaxy Active Watch 2 ก็สามารถทำได้หลายอย่างเลย
 
 
 
ส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างปลื้มเรื่องการจับการแอ็กทีฟของสมาร์ตวอตช์ตัวนี้มาก เพราะส่วนตัวแล้วเราคิดว่าค่อนข้างแม่นในระดับหนึ่งเลย ทั้งเรื่องการนับจำนวนก้าว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แสดงผลบนหน้าปัดให้เห็นตลอดเวลา และสามารถคำนวณออกมาเป็นการเผาผลาญจากการเวิร์กเอาต์, จำนวนเวลาการเคลื่อนไหวร่างกาย, การนับจำนวนก้าว, การขึ้นทางชัน ไปจนถึงการเก็บข้อมูลการนอนหลับ ความเครียด เก็บข้อมูลการดื่มน้ำ และการดื่มคาเฟอีน ก็มีครบเหมือนกัน หรือจะใส่ว่ายน้ำก็ได้ (แต่ระวังสายหนังจะเหม็น) โดยเฉพาะเรื่องการจับการออกกำลังกายโดยอัตโนมัตินั้นทำได้ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว ซึ่งก็ช่วยให้เราใช้ไลฟ์สไตล์ของเราได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ใส่ชุดไหนก็เข้า เพราะเปลี่ยนหน้าปัดตามได้

 
ฟีเจอร์นี้คือชิคมากแม่ นี่คือฟีเจอร์ที่เรียกว่า My Style Watch Faces ที่สามารถช่วยให้เราเลือกหน้าปัดลายต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและเข้ากับลุคการแต่งกายของเราในแต่ละวัน! คนเทสต์ดีอย่างเรา มันต้องชัดเจนในตัวตนไปจนถึงหน้าปัดนาฬิกาสิ จริงมั้ย 
 
 
ซึ่งเราสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ง่าย ๆ เพียงเข้าแอป Galaxy Watch ในสมาร์ตโฟน แล้วถ่ายรูปชุดที่เราใส่ในวันนั้น เดี๋ยวโปรแกรมจะทำการจับอัลกอริทึ่ม ตรวจจับสีของเสื้อผ้าที่เราใส่ในวันนั้น แล้วเลือกดีไซน์ของหน้าปัดที่เข้ากับชุดของเราในวันนั้นมาให้เลือกได้เลย เก๋ไหมล่ะ

ใช้ Samsung Watch กับ iPhone เป็นอย่างไร?

 
เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีข้อสงสัยจุดนี้อยู่ว่า หากไม่ได้ใช้สมาร์ตโฟนของ Samsung แล้วจะใช้ Samsung Galaxy Active Watch 2 ได้ครบประสิทธิภาพหรือเปล่า ยิ่งถ้าใช้สมาร์ตโฟนเป็น iPhone ด้วยแล้วล่ะจะเป็นอย่างไร จุดนี้เราเลยทดสอบให้เลยจ้า เพราะเราเองก็ใช้สมาร์ตวอตช์เรือนนี้กับ iPhone เหมือนกัน
 
 
อย่างแรกเลยต้องบอกว่าเจ้า Samsung Galaxy Active Watch 2 สามารถใช้ได้กับทั้ง Andiord และ iOS นะ สำหรับ iOS นั้นจะต้องเป็นเวอร์ชั่น 9.0 ขึ้นไป ก็จะสามารถใช้ร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแค่เราอาจต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพื่อรอบรับการใช้งานต่าง ๆ มาติดเครื่องเพิ่มขึ้น โดยแอปฯ หลัก ๆ ที่ควรมีก็คือ Galaxy Watch อันนี้ไม่มีไม่ได้ เพราะถือเป็นตัวที่ใช้เข้าถึงการสั่งการต่าง ๆ ทางสมาร์ตโฟน เช่นเดียวกับแอปฯ Watch ที่ติดมากับเครื่อง iPhone เพื่อเชื่อมต่อกับ Apple Watch นั่นแหละ อีกแอปฯ ที่ควรดาวน์โหลดเอาไว้คือ SamsungHealth เพื่อให้เราดูข้อมูลการออกกำลังกายอย่างละเอียดผ่านสมาร์ตโฟนได้ 
 
 
ส่วนถ้าใครอยากใช้ BixBy หรือผู้ช่วยดิจิทัลด้วยการสั่งงานด้วยเสียงแบบเดียวกับ Siri แล้วล่ะก็ จะต้องสร้างแอคเคานต์ของ Samsung เสียก่อนนะถึงจะใช้งานได้ การสร้างแอคเคานต์ก็ไม่ได้ยากอะไร ซึ่งหากต้องการใช้งาน ก็แค่เพียงกดปุ่มล่างของตัวเรือน 2 ครั้งติดกัน ก็จะเข้าระบบ BixBy ทันที แต่ยังใช้ภาษาไทยไม่ได้นะ ใช้ได้แค่ภาษาอังกฤษในตอนนี้ หากจะให้พูดตรงนี้ก็คือ การใช้ Samsung Galaxy Active Watch 2 กับ iPhone นั้นไหลลื่นมาก ไม่มีปัญหาใด ๆ เลยล่ะ 
 
Samsung Galaxy Active Watch 2 รุ่น Bluetooth ขนาด 40 มม. ราคา 11,900 บาท (สายหนัง) ขนาด 44 มม. ราคา 9,900 บาท (สายเรซิ่น) และ 12,900 บาท (สายหนัง)
Samsung Galaxy Active Watch 2 รุ่น LTE ขนาด 40 มม. ราคา 12,900 บาท (สายหนัง) ขนาด 44 มม. ราคา 13,900 บาท (สายหนัง)