Seishin Izakaya อิซากายะเปิดใหม่ในเวิ้ง Coco Walk ตอบโจทย์นักกินดื่มสายลึกย่านราชเทวี

เย็นวันศุกร์หลังเลิกงานแบบนี้ คงไม่มีอะไรจะเยียวยาชีวิตไปได้มากกว่าเบียร์สดเย็น ๆ ไฮบอลล์ฉ่ำ ๆ กับอาหารญี่ปุ่นแนวอิซากายะจุก ๆ อีกแล้ว วันนี้เราเลยปักหมุดไปลงบีทีเอสราชเทวีที่โครงการ Coco Walk เพราะตอนนี้ที่โครงการนี้เขามีร้านอิซากายะเปิดใหม่ได้ไม่ถึงเดือนอย่าง Seishin Izakaya มาเปิดทำการบริเวณด้านหน้าสุดของโครงการ เพื่อรอต้อนรับเหล่านักกินดื่มสายแข็งให้มานั่งชิลล์กันได้แบบจัดหนักจัดเต็ม

 

 

 

นอกจากทำเลที่ว้าวซ่าหน้าบีทีเอสติดถนนใหญ่แบบปัง ๆ แล้ว Seishin Izakaya ยังมาพร้อมการตกแต่งที่ก้าวข้ามความเป็นร้านข้างถนนแบบอิซากายะทั่วไปหลายเท่าตัว เพราะนอกจากโต๊ะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างหลวม ๆ ไม่อึดอัด (และเบาะนุ่ม) เรายังขอบวกคะแนนเพิ่มให้กับการคุมมู้ดแอนด์โทนให้ไม่หวือหวาฉูดฉาดจนเกินไป มีการใช้สีเข้มแบบที่แก๊งเพื่อนชายแท้มานั่งแล้วไม่รู้สึกขัดเขิน ไฟนีออนในร้านที่ดัดเป็นรูปซามูไรจิ้งจอกก็ดูเข้าที่เข้าทาง น่านั่งน่าจอย

 

 

ความดีงามอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ร้านอิซากายะไก่กาอาราเล่แบบที่ใคร ๆ ก็ทำได้ เพราะหนึ่งในหุ้นส่วนร้านนี้เป็นถึงแชมป์รายการ Top Chef Thailand Season 3 อย่าง เชฟบาส วัฒนศักดิ์ ช่างเก็บ ที่ถือว่าเป็นมือวางอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ไม่ว่าจะจับธุรกิจไหนก็อร่อยปังเข้าใจง่ายไปหมด ทั้ง Hungry Nerd และ Coal Bistro ก็เป็นผลงานของพี่เขาด้วยเช่นกัน ดังนั้นเรื่องอาหารก็ต้องยกให้ร้านนี้ชนะขาดลอย ซึ่งถึงแม้เชฟบาสจะออกตัวว่าไม่ได้ตั้งใจทำแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมจ๋า ๆ แต่ก็เป็นรสชาติอาหารญี่ปุ่นในอุดมคติของตัวเองที่รับรองว่าถูกปากทุกคนอย่างแน่นอน

 

เริ่มจากเมนูที่มาแล้วไม่สั่งถือว่าพลาดอย่างเมนูปิ้งย่างในตระกูลคุชิยากิ ที่มีให้เลือกตั้งแต่ ปีกไก่ย่างทรัฟเฟิล (88 บาท) ไข่ปลาหมึกยูซุย่าง (88 บาท) และทีเด็ดที่ควรสั่งอย่าง ลิ้นวัวย่าง (128 บาท) ซึ่งเชฟบาสนำลิ้นวัวไปตุ๋นก่อนจนเนื้อด้านนุ่ม แล้วค่อยเอาไปย่างถ่านก่อนเสิร์ฟ เพื่อเท็กซเจอร์กรอบเกรียมด้านนอก และกลิ่นสโมกของถ่านที่แถมมาตอนเคี้ยว โดยความลับของคุชิยากิร้านนี้ คือเจ้าซอสทาเระที่เอาไว้ใช้ทาบนเนื้อสัตว์ก่อนย่าง ซึ่งเขาจะทำซอสตัวนี้เองแบบโฮมเมดเพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างจากร้านอื่น

 

 

 

นอกจากนั้น ยังมีของทอดในตระกูลคุชิคัตสึ ซึ่งถ้าใครไปโอซาก้าก็จะคุ้นชินกับอาหารสตรีตฟู้ดชนิดนี้มาก ๆ โดยร้านนี้เขาก็มีให้เลือกทั้ง มะเขือม่วงทอด (48 บาท) รากบัวทอด (48 บาท) ไปจนถึงกุ้งทอด (68 บาท) ที่แน่นอนอยู่แล้วว่าของทอดกรอบ ๆ (และไม่อมน้ำมัน) แบบนี้ เหมาะอย่างยิ่งกับการจับคู่กับเครื่องดื่มอย่างเบียร์สดนำเข้าจากญี่ปุ่น รวมถึงไฮบอลล์ทั้ง 5 รสชาติ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านนี้ เพราะเขาใช้น้ำแร่จากฮอกไกโดมาอัดคาร์บอเนตจนกลายเป็นโซดาแสนสดชื่นไว้ใช้เองในร้าน ส่วนไฮไลต์เมนูอีกอย่างที่มาถึงแล้วไม่สั่งจะถือว่าพลาดมาก ๆ นั่นคือ สึคุเนะย่างถ่าน (78 บาท) โดยเชฟบาสบอกว่าเขานำเอาเนื้อไก่ไปหมักกับสมุนไพรกลิ่นแรงจำพวกขิง ก่อนจะย่างถ่านจนสุกทั่วถึงกัน และเสิร์ฟพร้อมไข่ดิบซอสเทอริยากิแบบฟิน ๆ

 

 

 

 

นอกจากนั้นยังมีเมนูสำหรับแชร์กับก๊วนเพื่อนแบบอิ่มจุกให้ได้สั่งอีกเพียบตามสไตล์อิซากายะ อาทิ วากิวบีฟทาทากิ (298 บาท) ปลาซาบะดองเบิร์นไฟ (198 บาท) รวมถึง นะเบะเนื้อวากิว (458 บาท) เซตหม้อไฟสุดอลังการงานสร้าง รสชาติลึกล้ำเกินร้านอิซากายะทั่วไป โดยเชฟบาสบอกว่ามีสูตรลับอยู่ที่น้ำซุปเนื้อนั่นเอง

 

Soimilk Says: จะมีอะไรดีกับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างชาวเราไปมากกว่าเนื้อย่างเสียบไม้แสนอร่อยและไฮบอลล์เย็น ๆ สักแก้ว บวกคะแนนพิเศษให้กับการตกแต่งร้านที่เน้นความเรียบง่าย แต่ดูไฮคลาส และที่สำคัญคือกลิ่นควันต่าง ๆ ไม่ติดหัวกลับบ้านเหมือนอย่างอิซากายะที่เคยเจอมา เอาเป็นว่าใครอยากเลิกงานแล้วมานั่งชิลล์แบบสบายใจเย็นเฉิบชนิดที่ไม่ต้องสู้ชีวิตมาก เราก็ขอแนะนำให้ชวนสมาชิกให้พร้อม แล้วพุ่งตัวมาที่ร้านนี้กันก่อนที่คนจะล้นร้านจนจองที่นั่งไม่ได้ก็แล้วกัน!