ยินดีต้อนรับสู่บ้าน 'Marco'
ในชีวิตเราก็คงจะเคยได้เห็นบ้านสวย ๆ หลังงามที่ตกแต่งแบบยุค Modernism สไตล์อเมริกันผ่านตาจากแมกาซีนเล่มโปรดและ Pinterest กันมาบ้าง รวมทั้งในหนังหลาย ๆ เรื่องเอง เราก็คงเคยเห็นฉากที่วัยรุ่นฝรั่งชอบจัดปาร์ตี้กันในบ้านเพื่อนหลังใหญ่ ๆ โต ๆ กันเละเทะแบบไม่ต้องเกรงใจเจ้าของบ้านกันบ้างเหมือนกัน
Bar Marco คือการถอดฟีลลิ่งงานปาร์ตี้บ้านเพื่อนแบบนั้นออกมาสู่โลกความจริง โดยที่เราไม่ต้องช่วยเพื่อนนั่งเก็บบ้านหลังงานเลิก และไม่ต้องล้างแก้วในซิงก์
การตกแต่งของ Bar Marco BKK คือความรู้สึกปะปนกันระหว่างกลิ่นอายแบบ American Modernism, Art Deco และ Mid-century ราวกับนี่คือบ้านของสถาปนิกนักสะสมเฟอร์นิเจอร์รุ่นเก๋า ซึ่งก็เป็นไปตามคอนเซปต์ของร้านนี้ที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น โดยผูกเรื่องราวของพ่อหนุ่ม Marco นักปาร์ตี้ตัวยงเจ้าของบ้านหลังนี้ ให้เป็นชายหนุ่มผู้เติบโตมาในครอบครัวรสนิยมแสนเก๋ จึงไม่แปลกใจที่บ้านหลังงามของเขาในย่านเอกมัยจะเต็มไปด้วยของสะสมตั้งแต่ยุคคุณปู่ คุณพ่อ จนถึงของสะสมส่วนตัว ไล่มาตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ยุค Mid-century ที่หาไม่ได้อีกแล้วในยุคนี้ ไปจนถึงแผ่นเสียงที่ไล่มาตั้งแต่ช่วงปี 40s ที่ในทุกค่ำคืนจะมีดีเจคอยหยิบแผ่นที่เรียงรายบนผนังตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 2 มาเปิดบนเครื่องแล่นเพื่อสร้างบรรยากาศให้ภายใน Bar Marco ครึกครื้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ที่ชอบมากคือการออกแบบตัวบาร์ค็อกเทลให้เหมือนเคาน์เตอร์ครัวที่บ้านเพื่อน มีการวางตู้เย็น Smeg สีแดงสด เอาไว้หลังบาร์เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อนจริง ๆ จัง ๆ แถมด้วยอีกหนึ่งเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ที่ชั้นบนสำหรับคนที่อยากได้ฟีลไพรเวตแบบเป็นส่วนตัวสักหน่อย
ค็อกเทลจากฝีมือบาร์เทนเดอร์ระดับโลก
แน่นอนว่าถ้าดูจากรายชื่อผู้อยู่เบื้องหลัง Bar Marco โดยมีแกนนำคือ คุณชาช่า-สุวิญชา สิงห์สุวรรณ จาก Rabbit Hole (Asia's 50 Best Bars ปี 2019 และ 2020), Crimson Room, Draft Land Bangkok และ Canvas ก็พอจะเดาทางได้ถึงอานุภาพเครื่องดื่มระดับเวิลด์คลาสของบาร์ค็อกเทลแห่งนี้ ที่ถึงแม้หน้าฉากจะเป็นความสนุกสนานครึกครื้นและเป็นกันเองเสมือนเปิดตี้ที่บ้านเพื่อน แต่บอกเลยว่าทั้งรสชาติ ที่มา รวมถึงเหล้าที่ใช้ในดริงก์แต่ละตัวนั้นไม่ใช่ไก่กาอาราเล่แน่ ๆ
เราขอเริ่มแนะนำจากแก้วที่เราชอบมากและเหมาะสำหรับเป็นตัวเปิดค่ำคืนแห่งความหรรษาที่บ้านเพื่อนหลังนี้อย่าง 130 Little Bastard (300 บาท) เครื่องดื่มสายรีเฟรชชิ่งดื่มง่ายจากความหอมหวานของเหล้ารัมมะพร้าวและลิเคียวโกโก้ ชอบที่เขาแถมเวเฟอร์มากินเพลิน ๆ คู่กับดริงก์ด้วย และอีกแก้วอย่าง Daydream Eyes (280 บาท) ที่หอมติดจมูกตั้งแต่จิบแรกด้วยใบเบย์ลีฟ ใช้เทคนิค Clarified เพื่อทำให้เครื่องดื่มในแก้วนี้ใสแจ๋วทั้ง ๆ ที่ใส่สปิริตสีขุ่นอย่าง Grape Bitter Milk Punch ลงไปด้วย
ส่วนใครที่เป็นคอค็อกเทลสายเข้ม เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Non-Ban-Puen (380 บาท) ค็อกเทลที่ถ้ารีบดื่มเกินไปอาจทำให้ได้นอนบ้านเพื่อนสมชื่อจากการทวิสต์คลาสสิกค็อกเทลอย่าง Negroni มาให้ดื่มง่ายและมีฤทธิ์รุนแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยการใส่สปาร์กกลิงไวน์และลิเคียวโกโก้เพิ่มเข้าไป
ปิดท้ายด้วย Farm To Home (360 บาท) ค็อกเทลที่ร้อนแรงด้วยฤทธิ์ของเหล้า Mezcal แต่ให้กลิ่นอายแบบบ้านนาที่ยุโรปเบา ๆ ด้วยไซรัปข้าวบาร์เลย์สูตรโฮมเมด
Soimilk Says: นี่นาจะเป็นอีกหนึ่งพิกัดลับ ๆ เล็ก ๆ ในย่านเอกมัยที่ให้ฟีลแบบ Homecomimg กรุ่นกลิ่นอายอเมริกันในยุคสมัย Modernism นิด ๆ ที่เราเชื่อว่านักดื่มสายวินเทจจะต้องประทับใจทั้งในเรื่องของการแต่งร้าน แนวเพลงจากแผ่นเสียงที่เปิด และแน่นอนว่าลิสต์เครื่องดื่มที่ได้มือดีระดับโลกมาช่วยกันครีเอตให้ ซึ่งหลังจาก Soft Opening ในช่วงแรกนี้ เห็นว่าทางคุณ Marco เขาจะเพิ่มอาหารทานง่ายอย่างพวกผัดกะเพราต่าง ๆ ลงในลิสต์เมนูประจำบ้านด้วยแหละ ยังไงก็รอติดตามเอาเด้อ!
Bar Marco BKK ซ.เอกมัย 21 ถ.สุขุมวิท เวลาทำการ ทุกวัน 18:00-01:00 น. โทร. 065-464-6925 fb.com/barmarcobkk
