Skip to main content

เดินตามแมวดำขึ้นไปจิบเครื่องดื่มบนบาร์ลับชั้นดาดฟ้าที่ House 38 Cat and Home Studio Bar

บาร์ลับที่เปิดแค่ 3 วันต่อเดือน

เดินตามแมวดำขึ้นไปจิบเครื่องดื่มบนบาร์ลับชั้นดาดฟ้าที่ House 38 Cat and Home Studio Bar
By Rujiyatorn Choksiriwan
September 30, 2022 Bangkok time

ตามรอยแมวดำไป!

 
 
ด้วยความที่เป็นบาร์ลับมาก ๆ การจะมีป้ายไฟเด่นหราบอกพิกัดร้านอยู่หน้าตึกก็คงจะดูไม่เท่และลับไม่จริง จังหวะนี้ถ้าใครมาถึงจุดปักหมุดของ House 38 Cat and Home Studio Bar แล้วเดาไม่ถูกว่าบาร์นี้ซ่อนอยู่ในบ้านหลังไหน เราขอแนะนำให้คุณมองหาแมวดำตัวอ้วนตุ้บที่จะเดินมาคลอเคลียขาแล้วนอนกลิ้งให้ท่าอยู่บนพื้น (ซึ่งเราเจอจริง ๆ ทุกครั้งที่ไป!) นั่นแหละคือป้ายบอกทางมีชีวิต (แถมส่ายหางได้) ที่บ่งบอกว่าเรามาถูกที่แล้ว!
 
 
 
ทาวน์เฮาส์ยุคมิดเซ็นจูรีขนาด 2 คูหาใหญ่ ๆ แห่งนี้ เป็นที่ทำการของบริษัทโปรดักชันโฆษณาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เหมือนเป็นบ้านมากกว่าออฟฟิศ และถ้าหากเราเดินตามร่องรอยของแมวดำขึ้นไปอีก 2-3 ชั้น หยุดทักทายแมวเจ้าที่ลายสลิดอีก 2-3 นาที แล้วค่อยกลับไปตั้งใจหาประตูลับหลังชั้นหนังสือให้เจอ ท้ายสุดท้ายแล้วเราก็จะเดินขึ้นมาเจอกับห้องโถงชั้นบนสุดของตัวบ้าน ในไซซ์ใหญ่ที่ถึงขั้นจุคนได้ร่วม 40 ชีวิต หากจำเป็น ซึ่งนี่ก็คือที่ทำการของบาร์ลับที่เราจะพามาทำความรู้จักกันในวันนี้อย่าง House 38 Cat and Home Studio Bar นั่นเอง

 

บาร์ลับที่เปิดแค่ 3 วันต่อเดือน

 
 
9, 19, 29 ไม่ใช่ชุดเลขล็อกที่เราจะเอามาใบ้ให้ไปซื้อหวยตาม แต่คือวันที่ที่เจ้าของร้านนี้อย่าง ออย สาวิทย์ แก้วทวี และ จ๊อย ชนานาถ ตันวัฒนกุล เขาล็อกวันเอาไว้เพื่อเตือนใจตัวเองและลูกค้า ให้ท่องจำจนขึ้นใจเอาไว้ว่าจะเปิดบาร์แค่เฉพาะ 3 วันนี้เท่านั้นในแต่ละเดือน ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้บาร์นี้ถูกเปิดแค่ 3 วันเท่านั้น คือภาระหน้าที่และงานประจำในสตูดิโอและออฟฟิศโปรดักชันที่ชั้นล่าง ทำให้เจ้าของบริษัทสามารถแปลงร่างมาเป็นบาร์เทนเดอร์และเด็กเสิร์ฟได้แค่ไม่กี่วันต่อเดือนเท่านั้นนั่นเอง
 
เพราะฉะนั้นไม่ว่าวันที่ 9, 19 และ 29 จะตรงกับวันจันทร์ อังคาร หรืออาทิตย์ บาร์แห่งนี้ก็จะถูกเปิดไฟให้พอสว่าง จุดเทียนในบางมุมเพื่อสร้างบรรยากาศ มีเสียงเพลงคลอออกมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง และเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากผองเพื่อนและลูกค้าที่แวะมาเยี่ยมเยียนเสมอ ส่วนในวันธรรมดาที่ไม่ได้ลงท้ายด้วยเลข 9 ห้องชั้นบนนี้ก็ถูกใช้เป็นสตูดิโอถ่ายหนังบ้าง MV บ้าง เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นของสะสมของแก๊งเจ้าของร้าน เลยถูกเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางเสมอทุกครั้งที่มาเยือนบาร์แห่งนี้
 

ดริงก์ที่อินสไปร์มาจากแมวและวงดนตรีที่ชอบ

 
 
จริง ๆ ก็รู้แหละว่าแก๊งเจ้าของร้านนี้เขาเป็นทาสแมว (ดูได้จากชื่อบาร์) แถมยังมีแมวเจ้าที่ถึง 3 ตัว ป้วนเปี้ยนอยู่ทุกแห่งหน ตั้งแต่หน้าบ้านยันบนเตียงนอน แต่จังหวะนี้ก็ไม่คิดว่าพอเปิดหน้าเมนูแล้วจะเจอกับซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่ชื่อเดียวกับแมว แถมยังไงได้แรงบันดาลใจมาจากสตอรี่และคาแรกเตอร์ของแมวแต่ละตัวอีกด้วย อย่างเมนู Snow (390 บาท) ก็ตั้งชื่อตามเจ้าสโนว์ แมวจรขาเป๋ที่ทางร้านเก็บมาเลี้ยง แก้วที่ใช้เสิร์ฟเลยเป็นทรงโค้งเว้าเหมือนขาน้อง ส่วนเบสเหล้าเลือกใช้เหล้าจิน Sakurao จากญี่ปุ่น ผสมเข้ากับเหล้าลิ้นจี่ และจินกลิ่นพีช เป็นค็อกเทลรสแรงไม่สมกับหน้าตาใส ๆ แบ๊ว ๆ เหมือนน้องสโนว์ที่มักซ่อนความร้ายกาจไว้ใต้กรงเล็บ โดยเฉพาะเมื่อเจอกับลูกค้าผู้หญิง
 
 
ถัดมาเป็นแก้วพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวงดนตรีอินดี้ที่เคยมาไลฟ์โชว์ที่บาร์แห่งนี้ โดยรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นเหมือนไดอารีถึงวงดนตรีเหล่านั้น เริ่มจาก Stoic (390 บาท) วงดนตรีที่หายหน้าหายตาไปนานจากซีนดนตรีเมืองไทย มีเบสเป็นเหล้าดาร์กช็อกโกแลตจากญี่ปุ่น ผสมกับวอดก้าญี่ปุ่นและกาแฟโคลด์บริวเมล็ดสายพันธุ์โคลัมเบียจากโรงคั่วบ้าน Only Black Coffee ที่ให้เทสต์โน้ตออกพีชเบา ๆ เสิร์ฟพร้อมขนมปังสำหรับการรับศีลในโบสถ์ เนื่องจากเพลงส่วนใหญ่ของวง Stoic สื่อความหมายถึงพระเจ้านั่นเอง
 
 
 
ต่อกันที่ Rosalyn (390 บาท) วงอินดี้หนุ่มล้วนที่มีค็อกเทลสีแดงเป็นตัวแทนเมโลดี้เพลงสุดแหวกของวง โดยทำน้ำแข็งรูปดอกกุหลาบขึ้นมาจากน้ำกระเจี๊ยบที่ให้รสติดเค็มปลาย ๆ เมื่อละลาย และเบสเครื่องดื่มเลือกใช้จิน Sakurao ผสมกับน้ำทับทิมและไซรัปกุหลาบ ปิดท้ายด้วย Venn (390 บาท) ที่นอกจากจะเป็นวงดนตรีที่เคยมาเล่นที่ร้านแล้ว เจ้าของบาร์ทั้งสองยังเคยทำ MV ให้ด้วย ดริงก์แก้วนี้เลยออกมาสีดำแบบเดียวกับมู้ดแอนด์โทนของ MV เพลง Howling ที่มีน้ำแข็งทรงกลมตรงกลางเป็นตัวแทนพระจันทร์ และใช้เบสเหล้าจินผสมกับไซรัปยูซุ เลมอน และผงชาร์โคลแบบทานได้ เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ให้แก้วนี้เท่กว่าใครเพื่อน
 
 
นอกจากซิกเนเจอร์ค็อกเทล รวมถึงเครื่องดื่มง่าย ๆ ติดบาร์อย่างไฮบอลและเบียร์แล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟอาหารที่ไล่มาตั้งแต่เมนูพิเศษประจำวัน (180 บาท) ที่แบ่งอาหารประจำวันจากฝีมือแม่บ้านประจำออฟฟิศด้านล่างมาเสิร์ฟ รวมถึงเมนูในตำนานอย่าง สปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง (150 บาท) ที่ใช้น้ำพริกอ่องตำเอง ซึ่งเป็นสูตรเด็ดประจำบ้านเจ้าของบาร์เขาแหละ ถึงขั้นเคยเปิดฟู้ดทรักขายข้าวเหนียวไก่ทอดกับน้ำพริกอ่องมาแล้วนะเออ
 
Soimilk Says: ไม่มีอะไรในชื่อร้าน House 38 Cat and Home Studio Bar ที่ไม่ตรงตามชื่อเลยสักอย่าง เพราะนอกจากจะมีทั้งแมวจริง ๆ แล้ว ยังมีความโฮมมี่เหมือนมาบ้านเพื่อนจริง ๆ ถึงขนาดที่เตียงตรงกลางร้านสามารถปีนขึ้นไปนอนได้เลย เสียดายที่เขาเปิดแค่ 3 วันต่อเดือน ไม่งั้นจะมาปักหลักอยู่ที่นี่ทุกคืนเหมือนเป็นเซฟเฮาส์ไปเล้ย!
 
House 38 Cat and Home Studio Bar ซ.สุขุมวิท 38 เวลาทำการ 18:00 - 00:00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น) โทร. 086-404-3043 fb.com/house38
soimilk adsoimilk ad