เห็นทีว่าศึกคอนเทนต์สตรีมมิงจะร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีนี้ที่นอกจาก Netflix, VIU, LINE TV หรือแบรนด์คอนเทนต์สตรีมมิงอื่น ๆ จะเริ่มสั่นคลอนเพราะการมาถึงของ Disney+ ที่จะเปิดบริการในเดือน พ.ย. นี้แล้ว แต่นั่นก็ยังไม่น่าตื่นเต้นมากนักเพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ Disney+ จะเข้าบ้านเรา แต่สิ่งที่มาแน่ ๆ ละเราเองก็ตื่นเต้นมาก คือการเปิดให้บริการของ Apple TV+ ที่จะเปิดบริการพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ส่วนบ้านเราได้ดูตามหลังอเมริกาแค่แป๊บเดียวเท่านั้น เพราะวันที่ 2 พ.ย. ก็สามารถใช้งาน Apple TV+ ได้เลย

งานนี้ Apple TV+ เขาจะเปิดให้บริการพร้อมกันกว่า 100 ประเทศไปเลย และถือเป็นโชคดีของบ้านเราที่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน เราแอบไปถามวงในมาว่าอย่างนี้เรื่อง Subtitled ไทยของรายการที่ปล่อยสตรีมมิงนั้นพร้อมหรือยัง ก็ได้รับคำยืนยันแล้วว่า วันที่ 2 พ.ย. ปุ๊บ เราก็สามารถดูรายการทั้งหมดด้วยซับไตเติ้ลไทยได้เลย! พร้อมมากจริง ๆ
เด็ดไปกว่านั้นต้องยกให้ค่าบริการนี่แหละ เพราะเขาคิดค่าบริการเพียงเดือนละ 99 บาทเท่านั้น! โดยในช่วงแรกจะสามารถทดลองชมฟรี 7 วันก่อนได้ด้วย และเห็นราคาแค่ 99 บาทต่อบัญชีนี้ ยังสามารถแชร์กับสมาชิกในครอบครัวได้สูงสุดถึง 6 คนอีก! คิด ๆ เป็นรายหัวก็คือตกคนละ 16.50 บาทต่อเดือน เดี๋ยวก่อนนน ซื้อน้ำอัดลมมานั่งกินระหว่างดู Apple TV+ ไปด้วยยังแพงกว่าเลย

ส่วนการเข้าถึง Apple TV+ นี่ก็ทำได้ง่าย ๆ โดยสามารถใช้บริการได้ผ่านทางแอพ Apple TV® บน iPhone®, iPad®, Apple TV, iPod touch®, Mac® แต่ถ้าหากไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ Apple อยู่สักชิ้นเลยในบ้านก็ใช่ว่าจะดูไม่ได้นะ เพราะสามารถเข้าทางช่องทางออนไลน์ที่ tv.apple.com ได้เลยเช่นกัน เด็ดไปกว่านั้นคือถ้าใครมาซื้อ iPhone, iPad, Apple TV, iPod touch หรือ Mac ตอนนี้ ก็จะได้ดู Apple TV+ ฟรีเป็นเวลาหนึ่งปีไปเลย คุ้มเกินไปแล้ว


ความแตกต่างของ Apple TV+ ที่เราเห็นอย่างชัดเจนคือ นี่คือบริการมีเดียสตรีมมิงที่ผลิตออริจินัลเป็นของตัวเองใหม่ทั้งหมด 100% หากเทียบกับบริการสตรีมมิงเจ้าอื่น เราจะเห็นว่าเขามีทั้งรายการออริจินัลที่ผลิตขึ้นมาเองปนกับรายการอื่น ๆ ที่เคยฉายมาก่อนแล้ว นำมาลงให้ชมอีกครั้ง หรือบางเจ้าก็คือไม่ได้ผลิตรายการออริจินัลของตัวเองเลย แค่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมประเภทของรายการนั้น ๆ มาไว้ที่เดียวกันเท่านั้นเอง Apple TV+ จึงน่าจะนับได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่สร้างคอนเทนต์ออริจินัลของตัวเองทั้งหมดในเวลานี้ และนี่คือรายการ ซีรีส์ ภาพยนตร์ ใน Apple TV+ ที่เราอยากดูมาก ๆ
See

ซีรีส์แนวดราม่ามหากาพย์ ที่มีฉากหลังเป็นโลกในอีก 600 ปีข้างหน้า แสดงนำโดย Jason Momoa และ Alfre Woodard เรื่องราวเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากที่ไวรัสได้คร่าชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมาก และทำให้ประชากรที่รอดชีวิตต้องตาบอด เมื่อมนุษยชาติต้องสูญเสียการมองเห็น มนุษย์จึงต้องปรับตัวเพื่ออยู่กับการมองไม่เห็นให้ได้
ชมตัวอย่างซีรีส์ ที่นี่
The Morning Show

ซีรีส์แนวดราม่าอีกเรื่องที่เราปักหมุดไว้ว่าต้องดู เพราะนี่คืองานแสดงและอำนวยการสร้างโดย Reese Witherspoon และ Jennifer Aniston และแสดงนำโดย Steve Carell ที่จะพาเราออกสำรวจโลกแห่งข่าวภาคเช้า และอีโก้ ความทะเยอทะยาน และการแสวงหาอำนาจในทางไม่ชอบ เบื้องหลังกลุ่มคนที่ปลุกอเมริกาให้ตื่นขึ้นในทุกเช้า
ชมตัวอย่างซีรีส์ ที่นี่
For All Mankind

ซีรีส์ใหม่จาก Ronald D. Moore ลองจินตนาการดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากการแข่งขันพัฒนาทางอวกาศทั่วโลกไม่เคยสิ้นสุดลง และโครงการอวกาศยังคงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของความหวังและความฝันในอเมริกา
ชมตัวอย่างซีรีส์ ที่นี่
Snoopy in Space

ไหนใครเป็นแฟนพันธุ์แท้เจ้า Snoopy เหมือนเราบ้าง? นี่คือเรื่องราวออริจินัลจาก Peanuts Worldwide ที่จะนำพาผู้ชมร่วมเดินทางไปกับ Snoopy เพื่อทำตามความฝันของเขาที่จะเป็นนักบินอวกาศ Snoopy, Charlie Brown และชาว Peanuts เข้าบัญชาการสถานีอวกาศออกสำรวจดวงจันทร์และดวงดาวไกลโพ้น แง อยากดูแล้ววว
ชมตัวอย่าง ที่นี่
Oprah Winfrey

รายการใหม่ของโอปราห์ ที่ออนแอร์เฉพาะที่นี่เท่านั้น กับการร่วมสนทนากับนักประพันธ์ที่น่าสนใจที่สุดจากทั่วโลก ในการสร้างชุมชนหนังสือสากลที่น่าสนใจและโครงการอื่น ๆ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนจากทุกมุมโลกและแบ่งปันวิธีการในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
Servant

นอกจากซีรีส์ สารคดี และรายการแล้ว เขายังมีภาพยนตร์ออริจินัลให้เราได้ชมด้วย และเรื่องนี้แหละที่เราจับตา นี่คือภาพยนตร์ทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาจาก M. Night Shyamalan โดยหนังจะพาเราติดตามคู่รักชาวฟิลาเดลเฟียที่กำลังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์จากเหตุการณ์น่าเศร้าที่ไม่สามารถเอ่ยถึงได้ ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคในชีวิตคู่และกลายเป็นช่องว่างให้พลังปริศนาเข้ามาสู่บ้านของพวกเขา
ชมตัวอย่างภาพยนตร์ ที่นี่
Hala

ภาพยนตร์ขนาดยาวที่ได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Sundance Film Festival และ Toronto International Film Festival ปี 2019 อย่างเป็นทางการ หนังจะพาเราติดตามนักเรียนมัธยมปลาย ที่พบอุปสรรคในการหาจุดสมดุลระหว่างชีวิตวัยรุ่นย่านชานเมือง กับการถูกเลี้ยงดูมาแบบมุสลิมที่เคร่งครัดของเธอ หนังออริจินัลได้รางวัลก็มีเหมือนกันนะเออ
ที่จริงแล้วใน Apple TV+ ยังมีคอนเทนต์ออริจินัลให้เลือกชมอีกเยอะมาก ๆ และก็จะมีคอนเทนต์เนื้อหาใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทุกเดือนอีกด้วย เรียกว่าธุรกิจนี้ร้อนแรงจริง ๆ ส่วนคนที่ได้ประโยชน์ก็คือตัวเราที่มีช่องทางให้เลือกมากขึ้น เสียอย่างเดียว เวลาหนึ่งวันมีเท่าเดิม จะดูยังไงให้พอกับเวลาที่มีล่ะเนี่ยยยย