ทุกวันนี้ในกรุงเทพฯ มี ฟิตเนสสตูดิโอทางเลือกใหม่ ที่หลากหลายขึ้นมาก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองที่หันมาสนใจการออกกำลังกายมากขึ้น แต่อาจจะไม่ถูกใจการไปเข้ายิมคนเดียว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรามีโอกาสไปทดลองคลาส “Rhythm cycling” หรือการปั่นจักรยานในร่มไปกับจังหวะดนตรี ของ Absolute Cycle มา นิวบี้คาร์ดิโอต่ำอย่างพวกเราจะรอดหรือไม่ ตามมาดูกันเลย!
หลังจากที่หักห้ามใจตัวเองเดินผ่านมาร์เก็ตโซนชั้นล่างไป เราก็มาถึงสตูดิโอขนาดย่อมชั้น 3 ซึ่งแบ่งออกเป็นพิลาทีสสตูดิโอ และสตูดิโอนักปั่น Absolute Cycle นั่นเอง ในหนึ่งคลาสสามารถรองรับนักเรียนได้ 29 คน โดยมีเทรนเนอร์คอยนำอยู่หนึ่งคน แน่นอนว่านักกีฬาคาร์ดิโอต่ำต้อยอย่างเราต้องลองเริ่มต้นกันด้วยคลาส Foundation และ Absolute 101 แบบแบ็คทูเบสิคก่อนเลย ไม่งั้นเห็นทีอาจจะไม่ไหว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราแปลกใจก่อนจะเริ่มเข้าคลาส คือ รองเท้าพิเศษที่ทางสตูดิโอจัดให้ ตอนนั้นเทรนเนอร์อธิบายให้เราฟังว่ามันเป็นการลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างที่เรากำลังแดนส์ ทู เดอะ บีท รองเท้าผ้าใบพิเศษเหล่านี้จะล็อกส้นเท้าเราไว้กับบันไดจักรยาน ซึ่งหมายความว่าเราจะไม่มีทางล้ม และมันจะไม่ตีกลับมาดีดขาเราแน่นอน (เราเชื่อว่าหลายคนเคยเจอปัญหานนี้ถ้าเคยเข้า spin class) ดังนั้นแค่เตรียมเสื้อผ้าสบายๆ มาก็พอแล้ว
ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ที่เข้าคลาสเป็นผู้หญิงวัยประมาณ 20-30 ได้ แต่ก็มีหนุ่มๆ เหมือนกันนะ ต่างคนต่างดูแฮปปี้มีความสุขที่ได้เสียเหงื่อไปกับคลาสนี้ แค่เรานั่งรออยู่ด้านนอกก็รู้สึกอยากเข้าไปเต้นแล้ว เพราะแอบได้ยินเพลงแนว edm บีทหนักเบสแรงทั้งนั้นเลย!

พอเราเดินเข้าไปในคลาสก็เจอห้องขนาดกระทัดรัดที่ใช้ไฟ backlight สีม่วงชมพูสลับกันไป ให้ความรู้สึกเหมือนแสงไฟในดิสโก้เลย เต็มไปด้วยจักรยานเรียงรายกันอยู่เป็นแถวรอบห้อง ดูน่าเกรงขามนิดหน่อยเนื่องจากพวกเราไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้า spin class ก่อนหน้านี้ แต่เทรนเนอร์ได้เล่าให้เราฟังช่วง 15 นาทีแรกว่า จริงๆ แล้วคลาสนี้เหมือนเป็นการเต้นบนจักรยานมากกว่า เพราะเราปั่นและเปลี่ยนท่าไปตามบีทดนตรี ขยับท่าเต้นยกไม้ยกมือตามจังหวะเลย
ระหว่างที่อธิบายเทรนเนอร์ก็แนะนำวิธีใส่คลิบรองเท้าให้ยึดกับบันได ปรับความสูงของอานจักรยาน และสอนวิธีการตั้งท่าเบสิคว่าเราควรจะยื่นสะโพกไปด้านหลัง บั้นท้ายควรจะลอยเหนืออานเพียงนิดเดียวอยู่ตลอดเวลา มีการวอร์มอัพเล็กน้อย พร้อมแล้วก็ลุย!
สิ่งที่ทำให้ Absolute cycle นั้นต่างจากคลาสอื่นๆ ในกรุงเทพฯ คือ มันไม่ใช่ spin class ที่เราต้องแข่งกับคนอื่นๆ ว่าเราจะปั่นได้ RPM เท่าไหร่ ไปได้เร็วแค่ไหน แต่มันมี element ของการมีอารมณ์ร่วมไปกับเสียงดนตรีพร้อมไปกับเพื่อนๆ คนอื่นในคลาสนั่นเอง เค้าทำได้ เราก็อยากจะตามเค้าให้ทันบ้าง เราตามไม่ทันเราก็พยายามต่อไป
ว่าแล้ว When I met you in the summer ก็ดังขึ้น เราก็พยายามดูเทรนเนอร์และจับจังหวะปั่นให้ทัน
ในฐานะคนที่รักเสียงดนตรี และชอบฟังเพลง Top 40 Hits อยู่ตลอดเวลา เรารู้ตัวทันทีเลยว่าเราชอบการปั่นไปกับจังหวะดนตรีมากอย่างไม่น่าเชื่อ! ภายในห้องมีการปรับเปลี่ยนแสงไฟไปตามบีทในแต่ละเพลง เหมือนไปคลับนิดๆ ซะงั้น ไม่ต้องไป Beam ก็ได้
เทรนเนอร์ยังบอกเราด้วยว่าเค้ามีการอัพเดตท่าออกกำลังกายและเพลย์ลิสต์อยู่ตลอดเวลา (ซึ่งจริงมากๆ เพราะวันนั้นที่เราไปเค้าเปิดเพลง One Dance ของ Drake ด้วยนะ! ออกมายังไม่ทันถึงเดือนเลย!) ผ่านไปซักสองสามเพลงเทรนเนอร์ก็ผลัดมาให้เราออกกำลังแขนโดยการยกดัมเบล (และสำหรับเราเป็นการแอบโกง ได้พักหายใจไปในตัวด้วย)
จากช่วงแรกๆ คลาสอาจจะดูเหมือนจะไม่โหดเท่าไหร่นัก พอเพลงเริ่มเพิ่มจังหวะเร็วมากขึ้นเท่านั้นแหละ เห็นเลยว่าปั่นไม่ตรงบีทสุดๆ แต่หลายคนก็แอบมีปัญหานั้นเหมือนกันเพราะยังเป็นมือใหม่กันทั้งนั้น (จริงๆ แล้วเราสามารถปรับความหนักเบาของล้อหมุนได้) เทรนเนอร์ก็ช่วยให้เราสู้จนกว่าจะตามทันอย่างเต็มที่ จนในที่สุดก็ครบ 45 นาที อย่าลืมพักทานน้ำด้วยนะถ้าเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน
ทางสตูดิโอได้นำไอเดียของคลาสนี้มาจาก SoulCycle สตูดิโอที่เริ่มต้นเทรนด์การปั่นไปกับดนตรีในนิวยอร์ค และตอนนี้กำลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก (Chloe Grace Moretz กับ Brooklyn Beckham ก็ปิ๊งกันที่คลาสนี้ใน LA นะจ๊ะรู้เปล่า!) เรามั่นใจว่าคนชอบปาร์ตี้ ชอบเสียงดนตรีบีทหนักๆ ต้องถูกใจคลาสนี้แน่นอนเพราะเพลงที่ใช้มีทั้ง house, ฮิพฮอพ และ edm ที่สำคัญพาเพื่อนมาเล่นด้วยก็ยิ่งสนุกเลย ใช้เวลาเพียง 45 นาที แต่สามารถเบิร์นกันได้ระหว่าง 500-800 แคลอรีเลยนะ!
ลืมบอกไปว่าที่สตูดิโอมีห้องล็อคเกอร์สำหรับอาบน้ำแต่งตัวไว้เรียบร้อย ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่พร้อมออกไปนั่งเล่นต่อสวยๆ ที่ The Commons
ส่วนตัวแล้วเราคิดว่า Absolute Cycle ก็เป็นอีกทางเลือกการเล่นคาร์ดิโอที่ดีสำหรับคนเมืองที่มีเวลาน้อยอย่างเราๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถเข้าถึงได้ ราคาอาจจะไปทางที่ค่อนข้างสูงซักนิด แต่หลังจากที่ได้ผ่านประสบการณ์ทดลองหลายสตูดิโอเล็กๆ ในกรุงเทพฯ
เรารู้สึกว่าที่นี่มีอุปกรณ์ที่ใหม่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ เค้าไม่ได้มาเล่นๆ นะจะบอกให้! น่าเสียดายที่ปัจจุบันมีอยู่เพียง 2-3 คลาสต่อวันเท่านั้น แต่ในอนาคตจะมีการขยายคลาสไปที่สตูดิโออื่นๆ ในกรุงเทพฯ อีกด้วยภายในปลายปีนี้นะ จะได้ไม่ต้องเดินทางมาถึงทองหล่อกันไง
*เบิร์นไขมันมาทั้งทีก็อย่าหลวมตัวกินกลับเข้าไปหมดนะ ลองสั่งอาหารของ Absolute FitFood มาทานดู เพราะทุกจานจะปรับไว้ให้ได้พลังงานกำลังพอดี แถมยังเป็นอาหารคลีนเต็มไปด้วยซุปเปอร์ฟู้ดทั้งนั้น!