'ถ้า Laliart Coffee เป็นร่างกาย Lilou Heart Space ก็คงเป็นหัวใจ'
หลายคนที่เคยไปเยือนร้านกาแฟอย่าง Laliart Coffee ที่จับเอาบ้านเก่าพร้อมพื้นที่สวนขนาดย่อมในซอยอารีย์ มาแปลงโฉมเป็นสเปซแสนอบอุ่นให้เหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ได้แวะเวียนไปเติมพลังงานให้ร่างกายได้ไปต่อด้วยกาแฟคั่วมือโดยเจ้าของร้านอย่าง พี่ต้น เอกกมล ธีปฏิกานนท์ และอิ่มท้องเบา ๆ ด้วยขนมสายวีแกนและสายรักสุขภาพจากเจ้าของร้านอีกคนอย่าง พี่ปุ๋ม นวลวรรณ สุพฤฒิพานิชย์ อาจเคยสงสัยเหมือนเราก็ได้ว่าชื่อร้านที่แปะตัวโตอยู่หน้าประตูบ้านว่า Lilou & Laliart Coffee นั้นมาจากไหน และมีที่มาอย่างไร

วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนได้หายสงสัยซะที เพราะหลังจากที่ Laliart Coffee ได้เติมพลังงานให้ร่างกายชาวอารีย์ด้วยคาเฟอีน เครื่องดื่ม และเบเกอรีหอมกรุ่นกันมาแรมปีแล้ว ในที่สุดทั้งพี่ต้นและพี่ปุ๋มก็พร้อมเปิดห้องลับบนพื้นที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน และแนะนำเราให้รู้จักกับ Lilou Heart Space ที่มีไว้สำหรับเติมพลังงานใจให้ทุกคน
สำหรับหน้าฝนนี้ที่ใครมีเวลาว่างสักครึ่งวัน เราอยากชวนมาวอร์มร่างกายให้อุ่นกันก่อนด้วยกาแฟร้อนแก้วโปรดสักแก้วที่ Laliart Coffee ที่อยู่ชั้นล่าง และถ้าร่างกายกับสมองตื่นเต็มที่แล้ว เราก็อยากชวนเดินขึ้นไปที่ชั้นบน เพื่อทำการวอร์มหัวใจและจิตวิญญาณด้วยศาสตร์การฮีลลิ่งที่ไม่ว่าใครก็จอยได้ และบางทีอาจจะติดใจจนหลงรักศาสตร์เหล่านี้เลยก็ได้นะ!
พื้นที่ที่พร้อมซัพพอร์ตและโอบกอดทุกคน
หัวใจหลักของ Lilou Heart Space คือการเป็นสเปซที่เปิดกว้าง (แต่เป็นส่วนตัว) ให้เหล่าคนกรุงเทพฯ และใครก็ตาม ได้เข้ามาพักรักษา และเยียวยาทั้งกายและใจผ่านศาสตร์ 7 ชนิด ที่ถึงแม้จะค่อนข้างใหม่มาก ๆ ในไทย แต่จริง ๆ ที่ต่างประเทศเขาฮิตกันมานานแล้วนะ แถมอีกอย่างคือเจ้าของบ้านหลังนี้อย่างพี่ปุ๋มก็เป็นหนึ่งในนักบำบัดและครูสอนโยคะที่ชั่วโมงบินสูงมาก ๆ คนหนึ่งในไทยเลยทีเดียว

ด้วยความที่ Lilou Heart Space ไม่ได้กินพื้นที่ของบ้านทั้งชั้นเหมือนอย่าง Laliart Coffee รวมถึงการบำบัดรักษาแบบนี้จะไม่ค่อยเน้นการใช้พื้นที่เยอะ หรือให้คนเข้ามาแจมทีละเป็นสิบคน เพราะฉะนั้นที่นี่จึงเปิดรับจองเฉพาะแบบ Private Session เท่านั้น โดยมีให้เลือกบำบัดด้วย 7 ศาสตร์ ได้แก่ Energetic Yoga, Reiki, Aromatherapy Customization, Deep Massage, Crystal Bowl Sound Healing, Himalayan Sound Healing และ Rebirthing Breath-work ซึ่งในแต่ละ Session ก็จะมีนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะศาสตร์นั้น ๆ มาเป็นฮีลลิ่งมาสเตอร์ให้ลูกค้าที่จองมานั่นเอง


อย่างเราเองที่ช่วงนี้รู้สึกว่าร่างกายเหนื่อยล้าเหลือเกิน พี่ปุ๋มก็ได้แนะนำว่าบางทีความเหนื่อยล้าอาจสะสมลึกลงไปถึงภายในจิตใจ จึงจัดแจงให้เราได้ทำ Private Session แบบตัวต่อตัวด้วยศาสตร์ Himalayan Sound Healing โดยจะใช้เวลาต่อ Session ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับนักบำบัดและผู้ที่จองเข้ามาฮีลลิ่งจะได้พูดคุยกันเล็กน้อย ทั้งก่อนและหลังการทำ Sound Healing
โดยในคลาส Himalayan Sound Healing จะเป็นการบำบัดด้วยเสียง เกิดจากการตีขันที่หลอมขึ้นด้วยโลหะหลายชนิด (หน้าตาคล้าย ๆ ขันทองเหลือง) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ด้านพลังงานที่นิยมใช้ในแถบประเทศเทือกเขาหิมาลัย โดยข้อดีของการเป็น Private Session คือการได้เชื่อมต่อกับนักบำบัดโดยตรง มีการเลือกตีขันแต่ละใบให้เหมาะกับตัวเราและปัญหาของเรามากที่สุด ส่วนใครจะมาเป็นคู่แบบ 2 คน ก็ได้เหมือนกันนะ

นอกจากนั้นเรายังได้ลองทำอีก Private Session ที่เป็นการบำบัดด้วยเสียงเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่อุปกรณ์ที่นักบำบัดใช้ อย่างรอบนี้เราเลือกทำ Crystal Bowl Sound Healing ซึ่งเป็นศาสตร์การบำบัดโบราณโดยมีหลักการคือใช้แรงสั่นสะเทือนในถ้วยใบใหญ่ซึ่งทำจากหินคริสตัลแท้ ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ เพื่อปรับจูนและสร้างสมดุลให้ร่างกาย รวมถึงสลายพลังลบต่าง ๆ เพิ่มสมาธิ ผ่อนคลายความตึงเครียด อีกทั้งพลังของเสียง ยังช่วยเยียวยาการเจ็บปวดทางร่างกายและบาดแผลทางใจได้อีกด้วยนะ
ไม่ใช่แค่ Sound Healing อย่างที่เราลองทำนะ เพราะอย่างที่บอกไปว่าที่นี่เขามีนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญมากถึง 7 ศาสตร์ อย่างคลาสโยคะเพื่อการปรับโครงสร้างร่างกายให้อยู่ในความสมดุล ก็ถือเป็นคลาสยอดฮิตที่พี่ปุ๋มมาสอนเอง (ได้ข่าวว่าต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือน!) หรือแม้แต่คลาสทำน้ำหอมเพื่อการบำบัด กับคลาสนวดลดเซลลูไลต์ ก็มีให้เลือกจองด้วยเหมือนกัน

Soimilk Says: เราชอบที่สเปซแห่งนี้ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อโอบกอดเฉพาะลูกค้าเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงนักบำบัดและซัพพอร์ตทุกคนที่มาใช้สถานที่นี้ร่วมกัน ด้วยอุปกรณ์ เลย์เอาต์ห้อง และการจัดวางมุมแสงให้ตอบโจทย์การบำบัดในทุกศาสตร์ให้มากที่สุด เป็นสเปซที่แค่เดินเข้าไปก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ใครที่อยากลองเปิดรับศาสตร์ใหม่ ๆ ที่อาจเปิดอีกมิตินึงให้ชีวิต หรือจะมาฮีลลิ่งหัวใจแบบไม่ต้องหนีไปอยู่ในป่า บอกเลยว่าแค่มาอารีย์ก็แฮปปี้หัวใจแล้ว!
เช็กราคาแต่ละ Private Sesssion ของ Lilou Heart Space ได้ที่ IG @lilou.heart.space หรือโทร. 089-142-8203 (จองล่วงหน้าเท่านั้น) Lilou Heart Space ชั้น 2 ร้าน Laliart Coffee ซ.อารีย์สัมพันธ์ 10 BTS อารีย์ fb.com/Laliartcoffee