เราเชื่อว่าทั้งเหล่าแฟชันนิสต้าสายวินเทจ เหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์สายชิลล์ รวมถึงชาวซอยมิลก์ผู้รักงานดีไซน์ งานสถาปัตย์ และอินทีเรียร์ดีไซน์ทั่วทุกหัวระแหง คงต้องเคยไปเยือนร้านในตำนานแห่งเวิ้งโบราณในซ.เอกมัย 10 อย่าง (Un)Fashion Cafe มาแล้วอย่างน้อยก็สักครั้งสองครั้งในชีวิต เพราะนี่คือตำนานคู่ย่านเอกมัยมากว่า 10 ปี ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าประจำของเค้กหรือเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นของร้านนี้ หรืออาจเคยฝากท้องกับมื้ออาหารจานหลัก และอาจเคยชอปปิงรองเท้าบูทวินเทจสักคู่หนึ่งมาจากที่นี่ เราก็อยากชวนแฟนคลับทุกคนของร้านนี้ให้แวะไปเจิมบ้านใหม่ที่เขาเพิ่งย้ายไปปักหมุดได้เมื่อเดือนก่อน ในทำเลไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่เดิมอย่างซ.สุขุมวิท 39 แบบด่วน ๆ ก่อนที่โต๊ะจะเต็มยาว ๆ
จากเดิมที่แต่ละส่วนของ (Un)Fashion เคยถูกแยกส่วนกันตามข้อจำกัดของพื้นที่ในย่านเอกมัย รวมถึงการค่อย ๆ เปิดทีละธุรกิจตามระยะเวลาและกำลังของคู่รักเจ้าของร้านนี้อย่างพี่เจี๊ยบ สุชาดา ภาวิไล และ พี่โยชิ โยชิโนะ ยูอิชิโระ อย่างที่เราจะเห็นว่าในเวิ้งเอกมัยมีร้าน (Un)Fashion อยู่ 3 หลัง คือโซนคาเฟ่ โซนเสื้อผ้าวินเทจ และโซนอาหาร แต่พอได้ย้ายมาอยู่ทำเลใหม่นี้พร้อมพื้นที่กว้างขวาง เลยเนรมิตบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นเหมือนโกดังขนาดใหญ่ที่รวมเอาทั้งพาร์ตคาเฟ่ เครื่องดื่ม ขนมเค้ก อาหาร และเสื้อผ้าวินเทจ มาอยู่ในพื้นที่เดียวกันภายใต้หน้าตาแบบ Japanese Loft ที่ทั้งคู่ถนัด เน้นวัสดุหลักในโทนสีน้ำตาลอย่างเหล็กสีสนิม ไม้สีเข้ม ผ้า และหนัง ซึ่งเข้ากันได้ดีมาก ๆ กับมู้ดสไตล์วินเทจแมน ๆ ลอฟต์ ๆ ซึ่งเป็นกิมมิกหลักของร้านนี้
เราชอบโซนที่นั่งของร้านนี้ที่มีให้เลือกทั้งแบบโต๊ะเอาต์ดอร์สำหรับคนชอบสูดอากาศธรรมชาติ ซึ่งด้วยข้อดีของทำเลใจกลางสุขุมวิทแต่ไม่ติดถนนใหญ่ (ต้องเข้ามาในซอยลับและแคบมาก) ทำให้โซนด้านนอกไม่ได้ดูพลุกพล่านและใกล้ชิดมลพิษถนนกรุงเทพฯ จนเกินไป ส่วนใครอยากนั่งสบาย ๆ เย็น ๆ ก็เลือกเป็นที่นั่งด้านในซึ่งโต๊ะและเก้าอี้ทั้งใหญ่แถมนั่งสบายกว่าร้านแรกเยอะมาก ๆ บวกกับโซนบนชั้นลอยที่กำลังจะเปิดให้นั่งเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทำเป็นโซนนั่งเสื่อสไตล์ญี่ปุ่น ก็ถือว่าเป็นอีกร้านที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ทุกแนวจริง ๆ อารมณ์ใครพาหมามาก็นั่งตรงสวนด้านนอก มาเป็นครอบครัวก็เลือกให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นบนชั้นลอยได้ตามสบาย หรือใครจะมาเดตก็มีโต๊ะเป็นส่วนตัวแบบฟิน ๆ ให้เลือกนั่ง
ส่วนเมนูอาหารก็เลือกยกเมนูจากร้านสาขาแรกมาไว้ที่นี่แบบจัดเต็มครบทุกเมนู สมการต่อท้ายชื่อสาขานี้ว่าเป็น 'Dining' เริ่มตั้งแต่ Chicken Parmigiana (280 บาท) ซึ่งนำอกไก่ชิ้นใหญ่มาทอดจนกรอบ ราดด้วยซอสโบโลเนสฉบับสูตรญี่ปุ่นที่รสชาติออกหวานกว่าฝั่งยุโรป แล้วโปะพาร์เมซานกับมอสซาเรลล่าชีสลงไปรัว ๆ และ Cheese Hamburg (295 บาท) อีกหนึ่งเมนคอร์สขวัญใจคนญี่ปุ่นในละแวกนี้ ซึ่งความน่ารักคือเราสามารถเปลี่ยนพาร์ตคาร์บได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้าวญี่ปุ่น สลัด ขนมปังปิ้ง หรือมันบด
สำหรับใครที่ไม่ได้ตั้งใจมากินจานหลัก ที่นี่ก็มีเมนูทานเล่น (แต่อิ่มจริง) อย่าง Nachos Tortilla Chips with Pork (235 บาท) ให้ได้แชร์กับแก๊งเพื่อนเพลิน ๆ พร้อมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง Yuzu Ginger Ale Cold Brew (150 บาท) และ Strawberry Latte (120 บาท) ที่โด่งดังมาตั้งแต่ร้านฝั่งเอกมัยและเข้ากันดีมาก ๆ กับบรรดาขนมเค้กในร้าน อาทิ Lemon Cream Cake (135 บาท) และ Carrot Cake (110 บาท) ที่ถึงแม้จะเป็นเมนูพื้น ๆ แต่ทำรสชาติและหน้าตาออกมาได้น่ารักจนเรายั้งใจไม่สั่งไม่ไหว!
Soimilk Says: เราชอบการไม่ทิ้งคาแรกเตอร์หลักด้านงานอินทีเรียร์และสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นกิมมิกหลักของร้านนี้ตั้งแต่สาขาแรก มาสาขานี้ถึงจะดูไม่ได้เน้นรูปลักษณ์เหมือนโรงงานผลิตหนังยุควินเทจเหมือนเดิม แต่ก็หยิบเอาคาแรกเตอร์หลักมาได้ครบทุกดีเทล ขอบวกคะแนนให้พื้นที่ที่กว้างกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทำให้ร้านดูเฟรนด์ลี่ขึ้นสำหรับทั้งลูกค้าโลคัลและคาเฟ่ฮอปเปอร์แบบที่ไม่ต้องแย่งโต๊ะกันนั่งให้วุ่นวาย ใครชอบความวินเทจแบบญี่ปุ่นบอย ๆ ไม่ได้วินเทจหวานจ๋าแนวเฟมินีน ยังไงก็คววรต้องแวะมาร้านนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิตนั่นแหละนะ!
(Un)Fashion Dining ซ.สุขุมวิท 39 เวลาทำการ ทุกวัน 10:00 - 19:00 น. โทร. 099-527-9053 fb.com/unFASHIONDining BTS พร้อมพงษ์
