SOSO.Bangkok คาเฟ่ที่อยากเป็นครัวให้ชาวพระนครด้วยอาหารเอเชียนเข้าใจง่าย และกาแฟรสชาติมิตรภาพ

เรื่องราวดี ๆ บ่ายวันนี้ คือการค้นพบว่าในที่สุดย่านถนนข้าวสาร-พระสุเมรุ ก็มีพิกัดให้คนหิว 2022 อย่างเราได้ปักหมุดฝากท้องและฝากใจกันสักที ที่ชอบมาก ๆ คือความงั้น ๆ ตามชื่อร้าน SOSO.Bangkok ที่ถึงแม้ร้านจะติดแฮชแท็กว่า #โซโซที่ไม่ได้แปลว่างั้นงั้น แต่ความงั้น ๆ ของร้านนี้ดันถูกใจคนโลคัลอย่างเรา ที่ทุกวันนี้พอใจกับการแค่มีคาเฟ่น่านั่ง อาหารอร่อย และกาแฟดีอยู่ใกล้บ้าน ในแบบที่ไปได้ทุกวัน ไม่ต้องแฟนซีจ๋าจนไปไม่กี่ครั้งก็เบื่อซะก่อน!

 

 

 

ด้วยโลเคชันดีงามใกล้วัดบวรฯ (ใกล้แบบที่มีกำแพงวัดเป็นวิวฝั่งตรงข้ามเลยอะแก) ที่เหล่าฮอปเปอร์ขาจรสามารถเดินทะลุมาจากฝั่งถนนข้าวสารได้ ในขณะเดียวกันก็อยู่ในแถบที่อยู่อาศัยซึ่งคนโลคัลสามารถแวะมาสั่งข้าวมื้อเช้าและหิ้วกาแฟกลับบ้านกันได้แบบไม่ต้องเข้าซอยไปลึก พร้อมกับสีสันสะดุดตาของตึกแถวทาสีแดงสดสลับครีม ทำให้ตึก SOSO.Bangkok ขนาด 4 ชั้นแห่งนี้ กลายเป็นพิกัดเปิดใหม่ที่เจริญหูเจริญตาที่สุดในถนนเส้นนั้น และน่าเปิดประตูเข้าไปทำความรู้จักแบบสุด ๆ ด้วย

 

 

ตัวร้านชั้นแรกดูแน่นและแคบด้วยโซนเคาน์เตอร์บาร์กาแฟที่กินพื้นที่เกือบครึ่งของทั้งชั้น แต่ก็ทดแทนด้วยที่นั่งริมเคาน์เตอร์ตลอดความยาวของตัวบาร์ที่ดูอบอุ่นและให้มู้ดเหมือนร้านอาหารในฮ่องกง ด้านในสุดของชั้นนี้เป็นที่ทำการของครัวสไตล์โมเดิร์น ที่ไม่ได้รมควันโขมงโฉงเฉงแบบร้านอาหารตามสั่งยุคคุณพ่อ แต่ดูสะอาดตาและออกเป็นสไตล์ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ หากเดินขึ้นบันไดเวียนสีแดงขึ้นไปด้านบน จะพบกับสเปซชั้นลอยที่จัดไว้แบบหลวม ๆ ให้ความรู้สึกโล่ง ๆ โปร่ง ๆ คนละฟีลกับชั้นล่างโดยสิ้นเชิง มีโต๊ะและเก้าอี้ให้เลือกจับจองนั่งทำงานและทานข้าวแบบเหลือเฟือ พร้อมทิ้งพื้นที่เพดานสูงไว้ให้ได้หายใจหายคอ และแซมด้วยต้นไม้ในร่มสีเขียวเพื่อความฮิปสเตอร์และมู้ดสบายตา

 

 

 

ด้วยการรวมตัวของนักออกแบบและเหล่าคนรุ่นใหม่ประจำทีมเจ้าของร้าน คอนเซปต์ของ SOSO.Bangkok เลยถูกทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าฉบับปี 2022 ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากเดิมที่ทุกอย่างต้องคอนเซปต์จ๋า เน้นหน้าร้านสวยสะพรั่ง และเมนูสุดแฟนซี SOSO.Bangkok กลับเลือกที่จะชูหยิบเอาเมนูอาหารท้องถิ่น รวมถึงสตรีตฟู้ดจากข้างทางที่ทุกคนรู้จักดี มาใส่นู่นนิด ปรับนี่หน่อย ให้กลายเป็นมื้ออาหารจานโปรดสำหรับทุกคนในทุกวัน

 

เริ่มจากเมนูที่เราชอบมากของร้านนี้อย่าง ซุปกิมจิรัญจวนตอกไข่ (175 บาท) ซุปกิมจิร้อน ๆ ซดคล่องคอตามแบบฉบับเกาหลี แอบใส่เครื่องแกงรัญจวนแบบไทย ๆ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสปะแล่มที่แตกต่างแต่ลงตัว พร้อมด้วยหมูสามชั้นแน่น ๆ ชิ้นใหญ่ ซึ่งกิมจิที่ใช้เป็นโฮมเมดกิมจิที่ทำจากผักพื้นบ้านไทย หมักด้วยน้ำปลาร้า แถมยังเอามาทำเป็นเมนู คิมโซบับทูน่ากิมจิ (135 บาท) ที่สอดไส้ด้วยกิมจิทำเอง ทูน่า และไข่อีกด้วย  

 

 

 

ใครอยากเน้นความอิ่มจุก ก็สามารถเลือกสั่งเมนูจำพวกข้าวหน้าต่าง ๆ อาทิ ข้าวผัดกระเทียมไก่กรอบแจ่วตะไคร้ (120 บาท) และข้าวยำกากหมู (150 บาท) มาลองชิมได้เหมือนกัน ส่วนตัวเราชอบข้าวยำกากหมูมาก ๆ เพราะร้านนี้เขาเจียวกากหมูได้ถูกใจเด็กอ้วนอย่างเราสุด ๆ

 

 

นอกจากพาร์ตอาหารที่ตั้งใจทำจริงจังถึงขั้นจะเรียกว่าเป็นร้านอาหารขนาดย่อม ๆ เลยก็ว่าได้ แต่พาร์ตเครื่องดื่มที่ทำให้เรายังคงต้องเรียกที่นี่ว่าคาเฟ่อยู่ ก็ทำออกมาได้ไม่ไก่กาเช่นกัน อย่างเมนูซิกเนเจอร์สำหรับสายคาเฟอีนในชื่อ Signature Peanut Coffee (95 บาท) ก็รสชาติกลมกล่อมสมคำร่ำลือ ด้วยซอสเนยถั่วที่ทำให้ลาเต้แก้วนี้มันนัวหวานกลมไม่ซ้ำใคร ส่วน Signature Soda Tamarind (95 บาท) ที่ใช้เบสเป็นซอสมะขามรสเปรี้ยวหวาน พร้อมท็อปด้านบนแก้วด้วยลูกอมมะขามแบบโบราณ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูสดชื่นที่ใครอยากได้แก้วที่ดูดแล้วตื่น ๆ ก็ควรสั่ง

 

Soimilk Says: เราชอบความไม่เล่นใหญ่ของร้านที่ไม่ค่อนไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไป เปิดพื้นที่ให้ทั้งลูกค้าขาจร และเหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ได้เลือกจุดสบายใจเป็นของตัวเอง จะสั่งแค่กาแฟนั่งดื่ม หรือสั่งมื้อหนัก ๆ มาเติมกระเพาะก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่ ในอีกแง่ก็ไม่ใช่แค่คาเฟ่หน้าตาดีทั่วไป แต่ดูเป็นมิตรกับคนโลคัลแบบที่แวะเข้ามากินข้าวเช้าได้ทุกวัน ส่วนชื่อ SOSO.Bangkok ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้นิยามความ 'โซ' ในแบบฉบับของตัวเอง ทั้งโซกู๊ด โซอร่อย (อย่างเราคิดว่าร้านนี้โซเท่) ก็ถือเป็นความอบอุ่นหัวใจที่เราอยากบวกคะแนนโบนัสพิเศษให้ร้านนี้ไปอีก 200 แต้ม!