Sasori Chu ร้านอิซากายะที่จับเอาวัฒนธรรมการย่างเนื้อแบบบราซิลมาเสิร์ฟนักกินดื่มย่านอารีย์

อีกครั้งแล้วสินะที่ความบันเทิงใหม่เกิดขึ้น ณ ย่านอารีย์ ย่านที่ไม่มีวันตกเทรนด์ใด ๆ ของโลกใบนี้ และมีอะไรใหม่ ๆ มาให้เราลองตลอด อย่างพิกัดใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดทำการไปสด ๆ ร้อน ๆ ในเส้นถนนหลักของซอยอารีย์ในชื่อ Sasori Chu ร้านลูกพี่ลูกน้องของ Sasori Izakaya ที่อยู่ในซอยถัดไป ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่เราไม่อยากให้สายกินดื่มที่มาเยือนอารีย์ในช่วงนี้พลาดด้วยประการทั้งปวง!

 

 

 

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าอิซากายะ (Izakaya) คือประเภทหนึ่งของหมู่มวลอาหารญี่ปุ่นที่มีเป็นร้อย ๆ แบบ แต่แท้ที่จริงแล้ว 'อิซากายะ' คือประเภทหนึ่งของร้านอาหาร ซึ่งมักจะเสิร์ฟกับแกล้มแสนอร่อยมาให้กินพร้อมกับเบียร์ สาเก หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างหาก! เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็เลยไม่น่าแปลกใจที่ Sasori Chu จะถูกเรียกเล่น ๆ ว่าเป็น Brazillian Izakaya เพราะเกิดจากการนำเอาวัฒนธรรมร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นจาก Sasori Izakaya มาทวิสต์ให้ล้ำกว่าร้านอิซากายะไหน ๆ ในซอยนี้ด้วยเทคนิคการย่างแบบ 'Churassco' กรรมวิธีการย่างต้นตำรับจากประเทศบราซิลที่คล้ายการย่างเคบับในแนวนอนนั่นเอง

 

เตาย่างแบบ Churassco สไตล์บราซิลแท้ ๆ ของร้าน Sasori Chu ถูกสั่งทำขึ้นพิเศษเพื่อให้สามารถย่างเมนูเนื้อสัตว์ เครื่องใน ไปจนถึงผักและผลไม้ได้ทีละหลาย ๆ ออร์เดอร์ สามารถปรับความร้อนได้อย่างรวดเร็วโดยมีไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้ได้กลิ่นสโม้กจากเนื้อไม้เบา ๆ ในทุกจาน รวมถึงไม้เหล็กของเตาย่างนี้ยังสามารถหมุนตัวเองได้ 360 องศา เพื่อให้วัตถุดิบสุกทั่วถึงทุกด้าน

 

 

 

แน่นอนว่าพอพูดถึง Brazillian Grill หลาย ๆ คนก็ต้องนึกถึงเนื้อสเต็กชิ้นโตที่ย่างจนหอมตามสไตล์การย่างแถบอเมริกาใต้ แต่พอจับเอาความบราซิลมาอยู่ในร้านอิซากายะ เมนูที่ออกมาเลยค่อนข้างมีความทวิสต์และผสมผสานอยู่พอประมาณ อาทิ Southern Atlantic Sweet Shrimp (540 บาท) กุ้งหวานจากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่ย่างพร้อมเนยและเลมอนจนเนื้อชุ่มฉ่ำ มีทีเด็ดอยู่ตรงหัวที่ว่ากันว่าอร่อยไม่แพ้กุ้งหวานญี่ปุ่น (Botan Ebi) เลยทีเดียว และ Grilled Intestine (140 บาท) ไส้อ่อนย่างกรอบเกรียม หนึ่งในเมนูขวัญใจนักดื่มที่เซอร์ไพรส์เรามาก ๆ กับการจับเอาซอสเพสโต้มาราดด้านบน กลายเป็นเมนูทวิสต์ที่รสชาติอร่อยจนอยากไปกินซ้ำอีก 10 รอบ!  

 

 

สำหรับสายเนื้อเน้น ๆ ก็ไม่ควรพลาด เนื้อพิคานย่า (890 บาท) เนื้อส่วนยอดฮิตย่างมาแบบ Medium Rare เราชอบตอนเสิร์ฟที่เชฟจะยกเหล็กเสียบเนื้อมาเสิร์ฟกันถึงโต๊ะ และสไลด์ชิ้นเนื้อแบบบางเฉียบให้เราได้กินแกล้มกับเครื่องดื่ม กับอีกจานอย่าง Auz 270d Beef Ribs Finger (220 บาท) ซึ่งเอาใจคนรักรสชาติแปลกใหม่ด้วยการนำเนื้อร่องซี่โครงมาราดด้วยซอสแอนโชวี่ผสมกลิ่นหอมสมุนไพรจากใบมินต์

 

 

 

 

ใครกลัวไม่อิ่มแต่ก็ไม่อยากกินเนื้อเยอะเกินไป เราเชียร์ให้พุ่งตัวไปสั่ง Avocado and Sweet Shrimp Gratin (230 บาท) Sweet Japanese Beniharuka Potato (180 บาท) และ Purple Mashed Potato with Gravy and Fresh Cream (120 บาท) ที่ถึงแม้จะไม่ใช่จานหลักของร้าน แต่ก็ถือเป็นเมนูลับที่ไม่ควรพลาด หรือจะสั่งผลไม้ย่างอย่าง Grilled Phu Lae and Green Apple with Rum (260 บาท) ที่เลือกเอาผลไม้กรดอ่อน ๆ มาย่างจนชุ่มเหล้ารัมเพื่อตัดเลี่ยนเมนูเนื้อบนโต๊ะ

 

Soimilk Says: เราชอบความผสมผสานที่ถึงแม้จะเป็นเมนูเนื้อหนา ๆ แต่ก็เสิร์ฟออกมาในไซซ์ที่กินง่ายแบบใช้ตะเกียบคีบเข้าปากคู่กับจิบสาเกหรือเบียร์เย็น ๆ ไปได้แบบไม่กระอักกระอ่วน ซึ่งนอกจากซีเลกชันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบญี่ปุ่นตามสไตล์ Sasori แล้ว ที่ร้านนี้ยังมีซีเลกชันไวน์แดงและไวน์ขาวให้เลือกจับคู่กับเนื้อย่างอีกเพียบ!